เนื่องด้วยจากว่าเพิ่งได้ลำโพง bluelooth ตัวใหม่มา เลยอยากมาแชร์ความรู้สึกสั้นๆกับลำโพงตัวนี้ให้ฟังครับ

ท้าวความก่อนเลยนะครับ ตัว Devialet Phantom II นี่คือลำโพงระดับ premium เกรดเดียวกับพวก B&O, B&W อะไรเทือกๆนั้น โดยเป็นแบรนด์ของทางฝรั่งเศสเค้า เน้นความพรีเมียมคู่ไปกับเสียงที่ใกล้เคียงความหะรูหะรานั้นไปด้วยกัน

ตัวที่ผมเพิ่งจัดมา เป็นตัวน้องเล็กสุดคือ Phantom II (95db) ครับ โดยที่ขนาดตัวจะเล็กกว่ากระติกน้ำ Beolit ของ B&O ด้วยซ้ำ และความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสคือ"หนัก"ครับ มันเป็นลำโพงตัวจิ๋วๆที่น้ำหนักค่อนข้างเยอะเลย (4.3kg) โดยตัวนี้เป็นทั้ง bluetooth/WIFI connection และ"ไม่มี"แบตในตัวนะครับ ต้องเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลาครับ โดยตอนซื้อคือตั้งใจใช้เป็นลำโพงวางไว้เฉยๆอยู่แล้ว ไม่ได้กะว่าจะไปใช้นอกสถานที่อะไรครับ



ในเรื่องคุณภาพเสียงเทียบกับราคา ผมว่ามันเป็นลำโพงที่ดังครับ 555 ห้องขนาด 60-70 ตรม. เปิดประมาณ 50% ก็ดังทั้งห้องแล้ว มี soundstage ค่อนข้างกว้าง แยกเครื่องดนตรีและตำแหน่งเสียงได้ค่อนข้างชัดเจน ซ้ายขวาหน้าหลัง รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน และมี distortion ต่ำแม้จะเปิดดัง อย่างไรก็ดีผมว่าเสียงเบสมันล้นไปนิดๆ จน bleed มากลบย่านอื่นๆไปครับ (ปรับ EQ เป็น flat ที่เป็น default ของตัวแอพเองเลย) ข้อเสียอีกอย่างคือเปิดเบาไม่ได้ เพราะเหมือน stage เสียงมันจะอั้นๆครับ เสียงจะมาไม่ครบทุกอย่าง ต้องเปิดให้ดังประมาณนึงถึงจะชัด

ผมเองไม่มีลำโพงตัวอื่นในราคาใกล้เคียงกันเพื่อเปรียบเทียบ แต่ถ้าเทียบกับกระติกน้ำ Beolit 17 ที่ราคาถูกกว่าครึ่งๆ ผมว่า Phantom II มี soundstage กว้างกว่าชัดเจน และ layering ของเสียงก็ดีกว่า ไม่อุดอู้ ไม่นัว แต่ความกรุ้งกริ้ง ความใสของเสียงสูง หรือการทอดเสียงสูงให้ไหลยาวๆ ผมว่าทาง B&O ยังทำได้ดีกว่าครับ (ลองกับเพลงอย่าง Baba ของ Maria Gadú) ถ้าให้พูดสั้นๆ ผมว่า Phantom II จะกลมกล่อมกว่า ฟังเพลงได้หลายแนวกว่า แต่ถ้าชอบ acoustic แบบกีตาร์โปร่งๆ ใสๆ หวานๆ ผมว่าไปเลือกทาง B&O จะเหมาะสมกว่าครับ

แต่ประเด็นที่ผมเกลียด Phantom II มากๆคือการทำ stereo pairing ที่ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นที่ตัวมันเองหรือกับ iOS (pair คู่กัน 2 ตัว)... คือผมใช้เวลาเกือบ 3 ชม.ในการทำ stereo pairing ระหว่างลำโพงสองตัว และพอแพร์แล้ว มันก็กลายเป็นลำโพง AirPlay ที่ต้องเล่นผ่าน WIFI ไปอีก ซึ่งถ้าปิด WIFI จะหาลำโพงไม่เจอ... คือลำโพงราคาถูกกว่านี้เป็นสิบเท่า ยัง pair ง่ายกว่านี้เยอะมาก สองนาทีเสร็จ เปิดเพลงก็ง่าย แต่อันนี้คือน่ารำคาญมากๆๆๆๆๆๆครับ จนตอนนี้ผมต้องปิดแล้วเล่นแค่ทีละตัวแทนแล้วครับ (pair ตัวเดียวไม่มีปัญหานะครับ ปัญหาเป็นตอนจะจับคู่ เป็น stereo ซ้ายขวา)

สรุปคือ ถ้าซื้อแค่ 1 ตัว ผมว่าคุ้ม เสียงดี คุ้มราคา
แต่ถ้าซื้อสองตัวจะเอามาทำ stereo pairing มองตัวอื่นดีกว่าครับ

Pairing 3 ชม.

เอ่อ ข้อเสียรุนแรงทั้งเรื่องต้องเปิดดังกับpairings

pairing ยังไงก็ไม่ติดครับ ทั้ง reset ตัวลำโพง รีเซ็ตมือถือ ลบลงแอพใหม่ ฯลฯ คือมันทำ stereo pairing (คู่กันสองตัว) ไม่ได้เลยครับ

แต่ pair ตัวเดียวก็ปกตินะครับ 2 นาทีเสร็จ

เป็นผมน่าจะตัดใจส่งเคลมศูนย์ตั้งแต่ชม.แรกละ

ตอนแรกก็ว่าจะเคลม 0 ละครับ แต่ด้วยความเป็นคนบ้า ลองทีละตัวมันก็แพร์ได้ ทั้งกับคอม กับแมค กับ iPhone ก็คิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาที่ระบบ bluetooth หรือ WIFI ของมัน ก็เลยลองไปเรื่อยๆสุดท้ายก็ใช้ได้

แต่ถ้าถามตอนนี้ว่าทำยังไงถึงได้ ก็ตอบไม่ได้ครับ 5555

โคตรอยากได้เลยครับ แต่ติดตรงเมียเห็นราคาแล้ว ไม่ให้ซื้อ

อู้ว ของแรงอยากได้เลยครับน้า

ราคาสุดๆ จริง

ตัวนี้เห็นเขารีวิวกันเยอะละ ถ้ามีโอกาสอยากจะลองฟังบ้างจัง

ของแรง ยาแรง

เพิ่งจัด Dione มาเหมือนกัน รวมประทับใจนะครับ ไม่ได้หูเทพอะไรแต่อยากได้ Soundbar ที่เอาไว้ดูหนังและฟังเพลงได้ รวมๆตอบโจทย์ สิ่งที่ชอบคือเบสหนักดี แต่ไม่ทำให้อะไรรอบๆสั่นเลย กับ Soundbar ตัวเดียวแต่ให้เสียงแบบ 5.1 เหมือนมารอบทิศได้ น่าประหลาดใจจริงๆ

แต่สิ่งที่ควรปรับปรุ้งเลยคือแอปเอ๋อบ่อยมาก ชอบให้เซ็ตค่าใหม่ทุกๆครั้งเวลาเปิดเครื่องใหม่

งบ 3x,xxx บาท มีตัว B&W Wedge อีกตัวครับที่น่าสนใจ
ออกแบบมาให้ลำโพงแยกแบบ stereo ในตัว แม้จะไม่เท่าพวก bookshelf
แต่ถือว่าทำได้ดีมาก ก่อนซื้อผมไปลองเทียบกับ Phantom 105 แต่ชอบ B&W Wedge มากกว่า