ต้องเข้าใจว่าใครๆก็อยากล้มแชมป์

ดังนั้น ต้องฝึกให้ดีกว่าเขา หนักกว่าเขา

ไม่ใช่คิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าคู่ต่อสู้ กุเหนือกว่าคู่ต่อสู้ ไม่มีใครสู้กุได้หรอก ไรแบบนี้

มาป้องกันแชมป์ แต่ชกได้ห่างชั้นกับผู้ท้าชิงจัดๆ ดูแล้วอยากพูดว่าเหมือนไม่ให้เกียรติผู้ท้าชิงจังเลย

ผมมองว่า เลือกแบบนั้นก็ไม่ผิด แต่เส้นทางมวยก็จะจบเร็วแน่นอน ปีละ2 ไฟต์ แต่รายได้เท่าไหร่ละครับ
ต่อยในระดับสูงๆ ได้นานๆ ไม่ดีกว่าหรอ ส่วนงานอีเวนท์งานบันเทิง รับตอนเลิกมวยก็ไม่สาย เหมือนสมจิตร สมรักษ์ สามารถไงครับ
แต่เลือกเหยียบเรือสองแคมแบบนี้ เส้นทางมวยจบไวกว่าเดิมแน่ เพราะฟอร์มคงไม่ดีเหมือนโฟกัสมวยเป็นหลักเหมือนช่วงแรกๆ
ก็แล้วแต่คนมองแหละครับ สุดท้ายแล้วอยู่ที่เจ้าตัวตัดสินใจ

เรื่องหย่อนนี้ มีแน่นอน คนเราพอมีตังค์ มีแชมป์ บางคนความกระหายก็ลดลง ยิ่งเดินสายออกอีเวนท์อีก แต่เรื่องแอ๊คผมคงว่าไม่ เรื่องสัมภาษณ์ นี้น่าจะเป็นสีสัน เวลามวยฝรั่งให้สัมภาษณ์ ก็ชอบขิงกัน คนไทยเลยไม่ชินกับ บอน ยังกลับมาได้ครับ บอนแพ้ทีก็แพ้น๊อกบ่อย กลับมาซ้อมเข้มๆ เดี้ยยก็เก่งเหมือนเดิม

มีติดแอ็คมีอีโก้ เกือบหมดแหละครับไม่ใช่แค่นักมวยไทยหรอก
พอเริ่มมีชื่อเสียง เริ่มมีเงิน มีหน้ามีตาในสังคมก็จะมีงานเข้ามา
เริ่มอยากซ้อมน้อยลง ไม่เชิงประมาทคู่ต่อสู้หรอก
ลองสังเกตนักมวยที่เป็นแบบที่ผมว่า เวลาจะขึ้นชก แววตาจะไม่มั่นใจเลย
เพราะรู้ดีว่าตัวเองซ้อมไม่ถึง สุดท้ายก็แพ้จริงๆ นักมวยที่คงเส้นคงวา เค้าจริงจังมากเรื่องการซ้อมครับ
พวกติดโซเชียลไม่นานก็ขาลง ตามสิ่งที่ทำมาแหละครับ ซ้อมมากเจ็บน้อย ซ้อมน้อยเจ็บมาก
อยากให้แชมป์อยู่นานๆ ก็ต้องซ้อมมากกว่าคนอื่นครับ เรื่องฝีมือในระดับโลกห่างกันไม่มากแล้ว
ซ้อมไม่ถึง ซ้อมน้อยกว่าเขาก็แพ้ไปครึ่งตัวแล้วครับ ที่เหลือเผื่อฟลุค อาศัยปาฏิหารย์

ถ้าในแมตเมื่อวาน บอนกับซิงกิส ผมไม่ขอพูดถึงเรื่องการซ้อมนะ เพราะไม่ได้ใกล้ชิดหรือรู้ตารางการซ้อมของบอน
แต่ที่เห็นคืออีเวนท์ค่อนข้างเยอะกว่าตอนต่อยไฟต์ก่อนๆ การซ้อมอาจจะซ้อมถึง แต่การพักผ่อนผมว่ามีผลไม่มากก็น้อย
มาที่เรื่องบนเวที ผมว่าบอนไม่มั่นใจครับ แววตามันบ่งบอกมาก ว่ามีความกังวล ต่างกับซิงกิสชัดเจน เพราะซิงกิสคึกมาก
เริ่มชก บอนเองตั้งใจมาก จนดูเชื่องช้าไปหมด คิดช้าทำช้า ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องร่างกายหรือจิตใจ อาจจะกลัวหลวม ออกอาวุธหลุด
เพราะถ้าพลาดมีโอกาสหล่น บอนคางไม่แข็งมาแต่ไหนแต่ไร โดนหนักๆแล้วมีอาการ ซิงกิสก็เป็นมวยชกยากด้วย อาวุธหนัก
แถมเข้าออกได้เร็ว บอนเลยดูทำอะไรไม่ได้เลย แต่ที่ผมไม่ค่อยชอบเลยคือ การ์ดไม่แน่นทั้งที่รู้ว่าเขาหนัก แล้วพอหล่น รีบลุกมาก
เหมือนทำอะไรไม่ถูก สติไม่มีเลย พอกรรมการสับมือให้ชกต่อ ก็ไม่มีลูกสกัดกั้นเลย ไม่มีถีบหรือเตะ หรือการ์ดแน่นๆเอาตัวรอดเลย
มวยระดับนี้ไม่น่าเชื่อว่าไม่มีกึ๋นเลย กระดูกมวย ประสบการณ์น่าจะทำได้ดีกว่านี้ครับ เรื่องนี้นอกเหนือจากการซ้อมนะ ผมพูดถึงเรื่องความเก๋า
ล้วนๆ กับมวยที่ชกมาโชกโชนขนาดนี้แล้วครับ ให้กำลังใจกลับมาสู้ใหม่ กว่าจะมาถึงตรงนี้ไม่ง่าย ตั้งใจให้มากขึ้น ทำการบ้านเยอะๆครับ
มวยเข้าออกไว คุณต้องมีลูกให้เขาชะงัก ต้องมีลูกดักลูกหลอก ชกทื่อๆ ตามสไตล์บอน ผมว่าเจออีกก็น่าจะแพ้ครับ ถ้าไม่แก้ทางมวย เพราะเราช้ากว่าเค้าเยอะ

ติดแอค จอมโว จอมโม้ หลายๆคน ไม่ได้มีแค่นักมวย
เอาตามคนที่มีชื่อเสียง หรือกำลังมีชื่อเสียง สร้างชาแลคเตอร์นี้ เพื่อป้าหมายหาโอกาส และสร้างมูลค่า กับโฆษณาหรือสื่อที่หากินกับคนมีชื่อเสียง อย่างพี่โด้ ทุกวันนี้ หาทางลงไม้ได้ไปและ

โอกาสมาต้องคว้าไว้สิลูกพี่เอ้ย จะต่อยมวยอย่างเดียวไง ปีละ 2 ไฟต์เอง รับอีเวนย่อยๆๆเยอะๆ รายได้อีกทาง เลิกมวยจะได้มีงานอื่นรองรับ ได้แชมป์แต่เลิกมวยไปแดกแต่แกรบก็ไม่ไหว

ผมมองว่า เลือกแบบนั้นก็ไม่ผิด แต่เส้นทางมวยก็จะจบเร็วแน่นอน ปีละ2 ไฟต์ แต่รายได้เท่าไหร่ละครับ
ต่อยในระดับสูงๆ ได้นานๆ ไม่ดีกว่าหรอ ส่วนงานอีเวนท์งานบันเทิง รับตอนเลิกมวยก็ไม่สาย เหมือนสมจิตร สมรักษ์ สามารถไงครับ
แต่เลือกเหยียบเรือสองแคมแบบนี้ เส้นทางมวยจบไวกว่าเดิมแน่ เพราะฟอร์มคงไม่ดีเหมือนโฟกัสมวยเป็นหลักเหมือนช่วงแรกๆ
ก็แล้วแต่คนมองแหละครับ สุดท้ายแล้วอยู่ที่เจ้าตัวตัดสินใจ

เรื่องรับงานเยอะอ่ะจริง มีทำธุรกิจเปิดร้านขายออนไลน์ด้วย แล้วก็มีเดินสายไปสอนมวยทั้งในประเทศ ต่างประเทศ แต่เรื่องซ้อมก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่ได้ใกล้ชิดตามติดทุกวัน
ประเด็นคือแพ้นั่นแหละเลยพูดถึงเรื่องนี้กัน ถ้าชนะก็คงไม่ เพราะไฟต์ก่อนหน้าที่ชนะมารัตก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้
ส่วนหลังจากนี้บอนจะยังมีไฟมั้ยอยู่ที่เจ้าตัวเลย แต่ผมว่าบอนกลับมาได้ เพราะทุกครั้งที่แพ้แบบนี้

1. แพ้น็อกสิทธิชัยที่คุนหลุนไฟต์ กลับมาเก่งกว่าเดิม
2. แพ้น็อกมารัตยกแรกที่คุนหลุนไฟต์ กลับมาเก่งกว่าเดิมแบบก้าวกระโดดเลยหลังจากนั้นก็เข้ามา ONE แล้วก็ชนะ สิทธิชัย เปรโตรเซี่ยน มารัต พวกนี้คือตัวท็อปๆของโลกกว่าชิงกิส
3. แพ้น็อกชิงกิส อนาคตต้องรอดูว่าจะยังไง

ก็พอบอกได้ระดับนึงกว่าบอนไม่ได้คางหินเท่าไหร่ โดนเต็มๆเป็นร่วงเหมือนกัน

เรื่องเสียมวยน่ะถ้าโดนน็อกแล้วเสียมวย มันเสียไปนานแล้ว โดนมารัตน็อกยกแรกหนักกว่านี้อีกแบบหลับหัวฟาดพื้น
ส่วนเรื่องที่เจ้าตัวขี้แอ๊ค ขี้โม้ ผมว่ามันเป็นนิสัยส่วนตัวมากกว่านะ บอนมันเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง สไตล์มวยฝรั่งอ่ะ ที่ต้องมีขู่มีบลัพเพิ่มจุดขาย ไม่ใช่นิสัยปกติของนักมวยไทยที่เวลาโดนสัมภาษไมค์จ่อปากแล้วแทบใบ้กิน
ตอนเจอเปรโตรเซียนมันก็บลัพเขาหนักกว่านี้อีก อาจจะไม่ถูกใจพวกเซียนมวยรุ่นเก่าบางคนที่บอกนักมวยต้องถ่อมตัวบลาๆๆ
อ้อ แล้วมันเป็นนักมวยไทยคนแรกนะที่ผมเคยเห็นสัมภาษหรือตอบคำถามนักข่าวภาษาอังกฤษพอได้เลย ไม่ต้องใช้ล่าม

ส่วนหลังจากนี้ต้องรอดูเจ้าตัวเองแหละว่าจะจัดการยังไง ซูเปอร์บอนเป็นนักมวยไทยไม่กี่คนนะที่จัดการตัวเองเหมือนพวกมวยฝรั่งคือจ้างเทรนเนอร์เอง หาที่ซ้อมเอง จ้างทีมงานเอง รับงานเอง ส่วนสีเสื้อ สิงห์มาวิน คือแก้โดนจ้างให้มาใส่แล้วก็มีสัญญาว่าต้องเข้ามาซ้อมที่ค่ายวีคหรือเดือนละกี่วัน ประมาณนี้

อายุเริ่มเยอะ ช่วงบั้นปลาย เป็นกันแทบทุกคน เขาก็อยากจะมีคาเรคเตอร์สร้างจุดขายให้ตัวเอง

เอ้านึกว่าอยุ่ค่าย สิงมาวิน นี่คือจ้างมาเราะ กำ

อย่างกับเจ้าตัวมาตอบเองเลยว่ะ 55555

เปโตรเชียตอนนั้น ถ้าจำไม่ผิด ขาลงแล้ว อายุ36-37แล้วมั้ง

เห็นมีข่าวว่าอาจจะเจอตะวันฉาย

เอาจริงๆ ไม่ต้องถึงตะวันฉาย แค่เพชรมรกต (เสียดายไม่ได้ชกในวันแล้ว)

หรือ แดเนี่ยล ซินบีมวยไทย (แชมป์ RWS)

ผมว่าก็ไม่น่ารอดอ่ะ 555555 10fight10เพลาๆบ้างนะ ก่อนชก2วีคยังเห็นขึ้นเวทีอยู่เลย

"จะอัดให้ยับ" 55555555555555

เสียดายมือชิบหายที่เผลอไปคุยด้วยเมื่อวาน ความคิดโคตรตลาดล่าง ไปไหนก็ไปไป๊

เท่าที่รู้มาอ่ะมอสประมาณนั้น แต่ตอนนี้เริ่มรำคาญไอ้ผีพนันตลาดล่างมันตามมาแซะชิบหาย มโนว่าเราเป็นบอนด้วยนะ แม่มโคตรหลอน

ถ้าจะพูดเยอะก็เอาอย่างฟรอย ซ้อมหนัก