[RE: ปัญหาใหม่ของวัยรุ่นเกาหลีใต้ ความยากจน]
หรอยอิ๊ พิมพ์ว่า:
GeneralAK พิมพ์ว่า:
หรอยอิ๊ พิมพ์ว่า:
GeneralAK พิมพ์ว่า:
ดาร์เรน เฟรชเชอร์ พิมพ์ว่า:
ปีศาจแดงดำ พิมพ์ว่า:
ของเกาหลีใต้ เจอปัญหา นายทุนอย่างแชโบล ครอบงำเศรษฐกิจประเทศครับ
ครอบงำเทคโนโลยีทุกอย่างไม่ว่า ครอบงำอย่างการเงินอีก ยารักษาโรค อุตสหกรรมทางทหาร ของกินของใช้
ใครจะทำธุรกิจอะไร จะคอยโดนจับตามองสกัดขาละ ถ้าเริ่มเห็นแวว
80% ของ เศรษฐกิจเกาหลีใต้ อยู่ในมือกลุ่มของ แชโบล ครับ
ซึ่งจะให้ไปอยู่ฉากหลังก็ไม่ได้ แบบอเมริกา ในเมื่อตัวเองรวบหมดไม่แบ่งใคร เผลอๆติดคุก ติดคุกติดจริงแต่คิดลดกระแสละ เสียประวัติก็จริง แต่บริษัทก็ยังอยู่ในมือตัวเอง รัฐบาลเกาหลีใต้จึงพยายามหาทางด้วยการ เอาภาษีมรดกนี้แหละ บางครั้งก็ไม่ติดเพราะมีอภัยโทษเพราะไม่สามารถเอามาติดคุกได้ เพราะด้วยเศรษฐกิจ กับ คุณงามความดี ฯลฯ
คอยชักใยนักการเมืองเกาหลีใต้ ข้าราชการ กฎหมายไว้อยู่ แล้วระบบอาวุโสในเกาหลีใต้ยังมีมากด้วย
การเกณฑ์ทหารเกาหลีใต้ ถึงมียังมีปัญหารุนแรงครับ ผมเชื่อว่าคนเกาหลีใต้ไม่อยากไปเกณฑ์ทหารเพราะแบบนี้ละ กลัวโดนเล่นอะไรแปลกๆ สังคมแห่งอาวุโส อีกทั้งลำพังจะออกไปทำเกษตรกรรมก็เหมาะกับการปลูกแบบที่ไทย
คนเกาหลีใต้มีเงินมากก็จริงครับ แต่จะไปมีโอกาสยิ่งใหญ่แบบนายทุน แทบไม่มีทางเลย ค่าครองชีพก็แพง เงินเก็บเหลือแต่ก็ทำได้แค่เช่าคอนโดไป แต่ที่ประสบความสำเร็จก็มีไม่น้อย
เกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเป็นประเทศเจริญแล้วผมไม่ปรารถนาไปอยู่แน่ คงไปโซนยุโรปตะวันตก ดีกว่า อย่างน้อยทำงานไม่เครียด มีโอกาสทำงานได้หลากหลายกว่า แล้วมีนายทุนอยู่เบื้องหลังก็จริงแต่ไม่โหดเท่าเกาหลีใต้
ผมเหมือนเห็นเคสคนที่อพยพ ไปเมกา หรือไม่ก็พวกออสเลย รุ่นเราไป อาจจะเป็นคนชั่นล่าง (ถึงจะชนชั้นล่างแต่ก็มีตังซื้อบ้าน ซื้อรถนะ) แต่ลูกเรามีสิทธิ์ขึ้นไปเป็นชนชั้นกลางได้
เราไม่จำเป็นต้องย้ายไปเป็นชนชั้นล่างครับ ไปเป็นชนชั้นกลาง ทำงานดีๆ เหมือนตอนอยู่บ้านเราก็ได้ แค่ไม่รีบร้อน หาไปเรื่อยๆ ฝึกตัวเองไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้เอง
ท่าพูดดูเหมือนง่ายจังเลย มีเงินทุนหรอครับ ทำงานอะไรที่นั้น หางานได้ไหม โลกไม่ได้สวยหรอกครับ
ไม่มีที่ไหนดีกว่าบ้านเราหรอก แต่ถ้าท่านรวย คิดว่าหางานเงินเดือนสูงได้ คนต่างชาติไปแย่งงานเค้าทำเค้าก็ไม่ยอมงา่ยๆนะ อีกเยอะที่ต้องเจอ โลกมันไม่ได้สวยงามนะ
ผมอยู่ New Zealand ครับ ย้ายมาทำงาน เป็นโปรแกรมเมอร์ สมัครงานจากที่ไทย เค้าออกค่าใช้จ่ายการย้ายให้ทุกอย่าง ไม่ได้จ่ายเองย้นค่าเครื่องบินและที่พักสัปดาห์แรกๆ รวมทั้งลูกและเมียครับ บริษัทจ่ายให้หมด
ผมค่อยๆ สมัครงาน ค่อยๆ วางแผน ร่วมห้าปีครับ เก็บข้อมูลว่าประเทศเค้าขาดด้านไหน เทคไหน แล้วพยายามเรียนเพิ่ม เก็บความรู้เพิ่ม สัมภาษณ์งาน โดนปฎิเสธมาก็เก็บข้อมูลว่าเพราะอะไร
ทำไปเรื่อยๆ ครับ ห้าปี มันก็สำเร็จ ตอนนี้ก็อยู่นี่ อาชีพดี คุณภาพชีวิตก็ดีครับ
ผมถึงแนะนำให้ไม่รีบร้อนไง ผมทำได้มาแล้ว ถึงได้มาพูดครับ
ครับ นี้ไง คุณได้การซัพพอทมาใช้ไหม ช่วยไปได้เยอะ
และเป็นช่องทงและเป็นจังหวะที่ที่นั้นขาดตำแหน่งนี้ด้วยครับ
เห็นไหมคุณมีช่องทาง กลับกันถ้าคนไม่มีช่องทาง หวังจะมาตายเอาดาบหน้า
คิดแต่จะย้ายออกมานอกประเทศไม่วางแผนนี้ เคว้งเลยนะครับ
ผมถึงบอกว่าอย่าใจร้อนครับ อย่าคิดแต่ว่าจะไปตายเอาดาบหน้า ทิ้งงานออฟฟิศในไทยไปทำงานแรงงานต่างชาติ บางคนปรับตัวไม่ได้ อยู่ไม่ได้ มันไม่เวิร์ค
ให้ศึกษาก่อนว่าประเทศที่อยากไป เค้าขาดแคลนอะไร แล้วไปเรียน ไปทำอันนั้น เก็บประสบการณ์ (ส่วนใหญ่ใช้ประสบการณ์ 2-3 ปี มีหลักฐานได้รับเงินเดือน ถึงจะสมัครวีซ่าทำงานได้) เมื่อทุกอย่างครบก็หาสมัครงาน นายจ้างประเทศที่ขาดแคลน เค้าอยากได้คนงานอยู่แล้ว ถ้าเค้าขอวีซ่าได้ครับ
และงานไม่ใช่ต้องเป็นงานออฟฟิศเท่านั้น งานฝีมือหลายๆ อย่าง เช่นทำอาหาร งานช่าง ก็ทำแบบเดียวกันได้เช่นกัน แค่ต้องศึกษาข้อมูลก่อน และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประเทศเป้าหมายที่เค้าจะออกวีซ่าทำงานให้เราได้ครับ แค่ไม่รีบครับ 3-5 ปี อดทนนิดหน่อย แต่ผลลัพท์จะดีกว่ามาก หนทางอาศัยถาวรง่ายขึ้นมากกว่าไปทำงานแรงงานมาก