สวัสดีครับ พอดีผมมีงบประมาณไม่เกิน 2,000 บาท อยากได้ไม้แบดอันใหม่หน่อย อันเดิมผมใช้ไม้ Victor Spider-Man อยู่ (แต่น่าจะของจีนแดง) แต่สภาพก็เยินพอสมควรแล้ว ตอนนี้ก็เลยกำลังมองหาไม้อันใหม่อยู่

ส่วนสไตล์การเล่นผมชอบเล่นยาว ๆ เน้นเซฟท้าย ๆ ไปมุมสองฝั่งมากกว่า ไม่ค่อยจะบุกเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนที่ตบเบามาก ตบไม่หนัก ใจก็เลยมองที่ไม้ 3U ไว้ก่อน เพราะคิดเองว่า ถ้าไม้หนักมันน่าจะช่วยแก้จุดที่เราตบเบาได้บ้าง (ถ้าเข้าใจผิดขออภัย)

เพราะมีช่วงตอนเด็ก ๆ ที่เคยบาดเจ็บเลยไม่กล้าที่จะขยับข้อมือมากเท่าไหร่ (ล้มแล้วกระดูกงอทำให้ข้อมือหลวม)
เวลาเล่นเลยไม่ค่อยได้สะบัดข้อมือเท่าไหร่ คือต้องบอกว่ามันไม่ได้มีอาการบาดเจ็บแล้ว เพียงแต่มันเป็นแผลในใจมากกว่า แต่ตอนนี้ก็สะบัดเยอะขึ้นแล้ว

มุมนึงคือเข้าใจว่า 3U เล่นเกมยาว ๆ จะเหนื่อยยกไม้ไม่ขึ้น ผมเฉย ๆ กับข้อนี้ เพราะไปแก้ที่แรงของตัวเองได้ ผมอายุยังเพิ่ง 30 และออกกำลังทุกวันอยู่ แต่อีกมุมนึงก็คิดว่า 4U ตอนนี้ก็ใช้อยู่ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

แต่สิ่งนี้ที่ติดคือเรื่องของลูกตบท้ายคอร์ดที่เออเนี่ยรู้เลยว่า ตบไปยังไงเขาก็รับได้ เพราะมันเบามาก เราเลยเลือกที่จะเซฟท้ายคอร์ดแทนมากกว่า เข้าใจว่า ไม้เป็นแค่ส่วนนึง ผมเลยคิดว่าถ้าเอา 3U หัวหนัก ๆ มาใช้มันน่าจะเสริมเรื่องของแรกตบได้หรือเปล่า

รบกวนเซียนแบดแนะนำทีครับ

เอาเรื่องไม้ก่อนนะครับ เดี้ยวค่อยเข้าเรื่องข้อมือ กับเรื่องลูกบุก

เรื่องไม้ งบ 2000 ตีสบาย สำหรับมือใหม่ผมแนะนำ ยี่ห้อไหนก็ได้ แต่ขอเป็นสเปค ก้านกลาง หัวหนักนิดๆ ไม่แนะนำ ไม้หัวหนักมาก ก้านแข็ง เพราะจะยิ่งตีไม่ไปใหญ่ ที่สำคัญ อยู่ที่เอ็นที่เลือกใช้ แนะนำเป็นเส้นเล็ก ขึ้นเอ็นสัก 20-24 ปอนด์ ผมแนะนำ 4 U เพราะการตีแบดเราใช้ "แรงนิ้ว" ไม่ได้ใช้แต่วงสวิง เหมือนเทนนิส เราใส่เต็มๆวงใช้แรงโมเมนตั้มเพื่อเพิ่มน้ำหนักลูกในลูกตบ แต่ลูกอื่นๆ แทบไม่จำเป็น ยกเว้นลูกล้วงสบัดแบค งบนี้ดูพวก VS Felet ก็ได้ครับ Li ning ก็ดีไม่แพ้กัน

เรื่องข้อมือ การใช้ข้อมือมันคือ การระเบิดพลังในระยะสั้น ซึ่งมาจากแรงกำเฉียบพลัน ในขณะที่เรากำลังตีลูก เราจำเป็นต้อง กำนิ้วให้แน่นในจังหวะที่ หน้าไม้โดนลูกพอดี เพื่อเรียงสปีดหน้าไม้จังหวะสุดท้าย แรงส่วนใหญ่ จะข้อมือดีไม่ดี มันมาจากกล้ามเนื้อที่ forearm ทั้งสิ้น ไปหาดูนักแบดได้ทุกคน forearm มือที่ตี ใหญ่กว่าอีกข้างชัดเจน หรือไม่เวลาซ้อมตบ ซ้อมดาด ถ้าเกิดใช้ข้อมือเป็นล้าทุกคน เป็นสาเหตุที่ไม่แนะนำไม้ 3 U เพราะถ้าคุณตีเป็นแล้วมันกินแรงมาก และยกไม้คืนได้ช้า ยกเว้นไม้บางตัวที่ออกแบบมาดี ตัว3u จะไม่หนักเท่าไร หากมีเวลายืนเซฟกับเพื่อนหลังถึงหลัง ซัก100ลูกดูถ้าเซฟเป็นมันจะไม่เหนื่อยเลยแต่ถ้าใช้แรงทั้งตัวเซฟไม่เป็น 10ลูกก็หอบแล้ว

ส่วนเรื่องลูกบุกที่ตบไม่หนัก ขั้นแรกอยู่ที่ตำแหน่งการเข้าหาลูก การถ่ายน้ำหนักเข้าหาลูก การระเบิดพลังในจังหวะสุดท้าย และการจัดระเบียบร่างกาย ตราบใดที่ขายังไปไม่ทัน ไม่ยืนอยู่หลังลูก ตบยังไงลูกก็จะเหิน และไม่หนักรับสบาย หากขาถึง คุณคล่อมลูกได้แล้ว ตีลูกข้างหน้าตัว ห้ามเลยไหล่ ถ่ายน้ำหนักถูกต้อง ยังไงก็ตบแรงขึ้นครับ ส่วนตบท้ายคอร์ดถ้าไม่เทค และตบไม่เป็นส่วนใหญ่ยังไงก็เบาครับเซฟไปหาจังหวะนะดีแล้ว แต่อยากให้เทคให้ได้ เพราะสามารถเล่นลูกทำลายจังหวะ ได้ทั้ง drop shot slice shot จะน่ากลัวขึ้นเยอะ เวลาผมเทคถ่ายคอร์ด ขาถีบตัวโถมเข้าไปนี้เลยเส้นออกหลังไปอีก แต่ใส่ยังไงก็หนักลำบากเพราะทางมันไกลมาก

แต่ที่สำคัญที่สุดกว่าลูกตบ ผมแนะนำให้หาไม้ที่เราใช้แล้วมั่นใจ เข้ามือ สามารถ กำหนดลูกได้ตามใจคิด แล้วตบเข้าจุด สำคัญกว่าตบหนักเยอะ ผมโคตรชอบคนตบหนัก เพราะเวลารับสวน ได้แต้มแล้วมันเฟี้ยวกว่าเยอะ

ARS-8000 A
1,790

ASTROX 77 PLAY
1,650

เอาเรื่องไม้ก่อนนะครับ เดี้ยวค่อยเข้าเรื่องข้อมือ กับเรื่องลูกบุก

เรื่องไม้ งบ 2000 ตีสบาย สำหรับมือใหม่ผมแนะนำ ยี่ห้อไหนก็ได้ แต่ขอเป็นสเปค ก้านกลาง หัวหนักนิดๆ ไม่แนะนำ ไม้หัวหนักมาก ก้านแข็ง เพราะจะยิ่งตีไม่ไปใหญ่ ที่สำคัญ อยู่ที่เอ็นที่เลือกใช้ แนะนำเป็นเส้นเล็ก ขึ้นเอ็นสัก 20-24 ปอนด์ ผมแนะนำ 4 U เพราะการตีแบดเราใช้ "แรงนิ้ว" ไม่ได้ใช้แต่วงสวิง เหมือนเทนนิส เราใส่เต็มๆวงใช้แรงโมเมนตั้มเพื่อเพิ่มน้ำหนักลูกในลูกตบ แต่ลูกอื่นๆ แทบไม่จำเป็น ยกเว้นลูกล้วงสบัดแบค งบนี้ดูพวก VS Felet ก็ได้ครับ Li ning ก็ดีไม่แพ้กัน

เรื่องข้อมือ การใช้ข้อมือมันคือ การระเบิดพลังในระยะสั้น ซึ่งมาจากแรงกำเฉียบพลัน ในขณะที่เรากำลังตีลูก เราจำเป็นต้อง กำนิ้วให้แน่นในจังหวะที่ หน้าไม้โดนลูกพอดี เพื่อเรียงสปีดหน้าไม้จังหวะสุดท้าย แรงส่วนใหญ่ จะข้อมือดีไม่ดี มันมาจากกล้ามเนื้อที่ forearm ทั้งสิ้น ไปหาดูนักแบดได้ทุกคน forearm มือที่ตี ใหญ่กว่าอีกข้างชัดเจน หรือไม่เวลาซ้อมตบ ซ้อมดาด ถ้าเกิดใช้ข้อมือเป็นล้าทุกคน เป็นสาเหตุที่ไม่แนะนำไม้ 3 U เพราะถ้าคุณตีเป็นแล้วมันกินแรงมาก และยกไม้คืนได้ช้า ยกเว้นไม้บางตัวที่ออกแบบมาดี ตัว3u จะไม่หนักเท่าไร หากมีเวลายืนเซฟกับเพื่อนหลังถึงหลัง ซัก100ลูกดูถ้าเซฟเป็นมันจะไม่เหนื่อยเลยแต่ถ้าใช้แรงทั้งตัวเซฟไม่เป็น 10ลูกก็หอบแล้ว

ส่วนเรื่องลูกบุกที่ตบไม่หนัก ขั้นแรกอยู่ที่ตำแหน่งการเข้าหาลูก การถ่ายน้ำหนักเข้าหาลูก การระเบิดพลังในจังหวะสุดท้าย และการจัดระเบียบร่างกาย ตราบใดที่ขายังไปไม่ทัน ไม่ยืนอยู่หลังลูก ตบยังไงลูกก็จะเหิน และไม่หนักรับสบาย หากขาถึง คุณคล่อมลูกได้แล้ว ตีลูกข้างหน้าตัว ห้ามเลยไหล่ ถ่ายน้ำหนักถูกต้อง ยังไงก็ตบแรงขึ้นครับ ส่วนตบท้ายคอร์ดถ้าไม่เทค และตบไม่เป็นส่วนใหญ่ยังไงก็เบาครับเซฟไปหาจังหวะนะดีแล้ว แต่อยากให้เทคให้ได้ เพราะสามารถเล่นลูกทำลายจังหวะ ได้ทั้ง drop shot slice shot จะน่ากลัวขึ้นเยอะ เวลาผมเทคถ่ายคอร์ด ขาถีบตัวโถมเข้าไปนี้เลยเส้นออกหลังไปอีก แต่ใส่ยังไงก็หนักลำบากเพราะทางมันไกลมาก

แต่ที่สำคัญที่สุดกว่าลูกตบ ผมแนะนำให้หาไม้ที่เราใช้แล้วมั่นใจ เข้ามือ สามารถ กำหนดลูกได้ตามใจคิด แล้วตบเข้าจุด สำคัญกว่าตบหนักเยอะ ผมโคตรชอบคนตบหนัก เพราะเวลารับสวน ได้แต้มแล้วมันเฟี้ยวกว่าเยอะ

Apacs lethal power

เรื่องบุกมันไม่ใช่แค่ต้องแรงนะครับ ยิ่งที่ท่านพูดมาคือเน้นเซฟท้ายคอร์ทเนี่ย ยิ่งหนัก ยิ่งภาระนะ สำหรับไม้


ถ้าคิดว่าข้อมือไม่แข็งแรง หรือใช้แรงเปลืองเกิน แนะนำให้ขึงเอ็นหย่อนๆหน่อย มันจะเซฟแรงได้ แต่จะเสียคอนโทรล ผมจะแนะนำประมาน 20-22 แบบมือใหม่เลย แต่ถ้าคิดว่าเล่นมาระดับนึงแล้ว ข้อมือพอได้แล้ว ก็ซัก 22-24 ปอนด์


ส่วนงบ 2พัน ส่วนตัวผมว่าไม่ได้มีอะไรต่างกันเท่าไหร่เลยสำหรับแต่ละยี่ห้อ เอาตีง่าย และเบาที่สุดเท่าที่ทำได้ก่อนครับ ยิ่งหนักยิ่งเปลืองแรง น่าจะมี 4U อยู่นะงบนี้


ข้อดีของไม้หนักคือ ถ้าเราแรงถึง แล้วตอน smash ตัวน้ำหนักไม้มันจะทิ้งลงทำให้แรงตอนกระทบแรงขึ้น แต่ถ้าท่านตีเซฟ มันจะเป็นภาระ เนื่องจากหน้าไม้มันหันขึ้น และลูกอยู่หลังตัว มันจะยิ่งทำให้การเคลื่อนไหวของเราช้าลง มันเหมาะกับคนที่ฝึกข้อมือมาอย่างดี และรับตรงนี้ไหวอ่ะครับ มันจะได้ประโยชน์มาก


ลองหาแบรนด์ไม่ดังดูครับ เหมือนจะพอเห็นในเฟสบุคอยู่บ้างนะ ลองดูเพจ protech-sports thailand ในเฟซบุคดูครับ หรือไม่ก็ลองดู Li-ning


ละก็ลองหาพวกก้านอ่อน หรือกลางนะครับ ถ้าอยากก้านแข็ง ลองไปหาลองฟีลลิ่งดูก่อน อย่าพึ่งซื้อ เพราะส่วนตัวเจ็บมาเยอะละก๊วนผม

ผมชอบตบหนัก ละมีเพื่อนป้ายเก่งๆ คือถ้าไม่กดจริง มันป้ายกลับมาไม่มีทางทันเลย เวลา smash จากหลังหรือกลาง

เล่นเดี่ยวหรอครับ

ผมว่าเล่นคู่โดนป้ายคมๆก็ไม่ทันครับ เพราะมันฉีกหนีคนหน้าได้สบายๆ ระดับโลกยังโดน

ทันแน่นอนครับ มีคนหน้าคอยซ้อน

ระดับแข่งขันไม่ค่อยมีโดนป้ายแล้วตายนะครับ วิ่งถึงทุกลูก

งั้นถ้าแบบนี้ผมควรไปโฟกัสที่ไม้ที่หัวหนักนิด ๆ แต่ก้านกลาง ๆ เอนไปทางอ่อนหรือเปล่าครับ พอดีถ้าตามที่ท่านแนะนำ ผมก็มีเล็ง ๆ ตัว VS ไว้อยู่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาไม้รุ่นไหนดี ผมเลยอยากจะถามอีกสองสามเรื่องครับคือ

1. ผมได้ยินมาค่อนข้างเยอะว่า ไม้นี้ตีง่าย ตีสนุก อะไรพวกนี้มันหมายถึงยังไงนะครับ
2. เรื่องของเฟรมตัดอากาศ ไม่มั่นใจว่าเทคโนโลยีพวกนี้มีผลอะไรต่อการตีไหม
3. พารากราฟสุดท้าย ผมเข้าใจนะครับ เพียงแต่บางมุมผมเองก็อยากลองทุบบ้าง มันเหมือนว่า เออเราได้แต้มจากลูกที่ท่านบอกบ่อยประมาณนึงแล้ว แต่เกมรุกของเราดันทำแต้มไม่ค่อยได้ มันคงเหมือนฟุตบอลที่เล่นรับมานาน อยากสัมผัสเกมรุกบ้างแค่นั้นเองครับ

Astrox 77 ก็เป็นอีกตัวที่น่าสนใจ จริง ๆ งบที่ผมตั้งไว้มันบวกเพิ่มได้อีกนะครับ ผมมีราว ๆ ถึง 5,000 บาท เพียงแต่ผมก็กังวลว่าซื้อไม้แพงมา ใจจะไม่ค่อยกล้าหวดตรงกลาง เพราะกลัวไปฟาดเป็นรอยเนี่ยแหล่ะ ก็เลยตั้งต่ำ ๆ ไว้เอาประมาณว่า เล่นแล้วไม้กระทบกันใจไม่พัง แค่นั้นพอ

เพียงแต่ว่าถ้ามันเพิ่มซักนิดซักหน่อยแล้วได้บางอย่างกลับมา ผมก็พร้อมเพิ่มได้ครับไม่ติดอะไร ยังไงรบกวนด้วยครับ

ถ้าแบบนี้ผมว่าไปไม้ All-Around ดีกว่าครับ

ไม้อย่าง Astrox 77 จะอยู่ในตระกูลไม้ตบครับ



คือ หัวหนัก ก้านแข็ง

ถ้าคนแรงไม่ถึง จะตีไม่สนุกเลยครับ ปวดแขน จังหวะแก้ไข เช่น ลูกที่เราไปเกือบจะไม่ทัน

เราจะแก้ได้ไม่ดีครับ โชยๆหน้าเน็ตให้เค้าตบ

ถ้าผมแนะนำคือ ใช้ไม้ที่ท่านคิดว่า ใช้แรงแค่ 5-6 เต็ม 10 ก็ตีเซฟ จากหลังคอร์ทฝั่งท่าน

ไปหลังคอร์ดอีกฝั่งได้แล้ว

เพราะมันจะเซฟแรง แล้วจะหวะโดนแทงไปมุมแบ็คแฮนด์ หรือจังหวะลูกแก้ไข

แรงมันอาจจะส่งไปถึงลูกแค่ 2-3 เต็ม 10 แต่มันก็เพียงพอให้ไปถึงกลางๆคอร์ทได้

1. ไม้ตีง่ายตีสนุก คือ ไม้ที่ใช้แรงไม่เยอะ มีเทคโนโลยีช่วยเสริมแรง ทำให้ไม่ต้องใช้แรงเยอะ แต่ลูกไปค่อนข้างแรง ถ้าเทียบกับไม้ที่ไม่มีเทคโนโลยีอะไรเลย
2. เฟรมตัดอากาศ จะมีผลหนักๆ กับคนที่เล่นหน้าเป็นส่วนใหญ่ หรือ เกมส์ที่เน้นดาด กระแทกใส่กัน ถ้าคนที่เน้นตบ บางไม้ จะมีการเสริมความหนาของเฟรมด้วยซ้ำครับ เพื่อเพิ่มแรงปะทะลูก ถ้าไม่เคยใช้เฟรมตัดอากาศมาเลย มันจะมีบางลูกที่ท่านรับได้แบบงงๆ ว่า อ่าว รับได้ด้วยหรอวะ
3. แบบนี้ไปไม้ all around เลยครับ รุกได้ รับได้ ถ้าสมมุติ คนที่ตบเป็น เทียบระหว่างใช้ไม้ all around กับ ไม้ตบ ผมว่า ไม้ all around อาจจะทำแรงได้ซัก 80% ของไม้ตบ ซึ่งผมว่าก็เพียงพอแล้ว ถ้าแลกมากับการที่เราเซฟแรงได้ ตี 4-5 เกมส์สบาย รับดีขึ้น ไม่ใช่ตีเซ็ตแรก เกมส์แรก ไปเปลี่ยนไม้แล้ว บอกไม่ไหว หนักเกิน

ถ้าจะให้แนะนำไม้จริงๆ ก็ต้องเป็นไม้มหาชนครับ Victor BS12 3U หัวไม่หนักมาก เฟรมตัดอากาศ นิยมมาก

ราคาก็ไม่แรงมาก ผมคิดว่าน่าจะซัก 3,700 บาท

ไม่แน่ใจว่า มีรองเท้าแบดรึยังครับ

รองเท้านี่คือโครตสำคัญเลยครับ ถ้าวันไหนลืมเอารองเท้าไป คือ ไม่ตีเลยครับ ถ้าลืมไม้ยังพอยืมได้

สมมุติมีเงิน 5000 ผมจะเอาไปลงรองเท้าซัก 3500 ลงไม้แค่ 1500 พอ

ตระกูล Dunlop ราคาถูกๆ ตีดีๆ เยอะมากครับ อย่างตัวที่ฮิตในอดีตก็ Dunlop 8000xl

เคยลดราคาเหลือประมาณ 990 บาท คนแห่ตุนกระจายครับ

ตีง่าย ตีสบาย สเปคไม้ประมาณ หัวกลาง-หนัก ก้านกลาง-อ่อน

http://www.thaibadminton.com/main/modules/newbb_plus/viewtopic.php?topic_id=60749

รองเท้าผมใช้ Asics Courtcontrol FF2 อยู่ครับมเพิ่งซื้อมาใหม่เลย แต่ตอนนี้ตัวไม้แบดผมมันเยินแล้ว หรือพอเอ็นขาดก็จะไม่มีไม้ตี เลยอยากหาไม้ใหม่ดี ๆ ซักอัน พอดีที่เคยเรียนกับโค้ชมาเขาแนะนำว่า ให้ซื้อไม้เหมือนกัน 2 ไม้ แต่ผมอยากจะลองหาไม้ที่ถูกใจก่อน ถ้าเจออันที่ชอบแล้วก็อาจจะซื้ออีกอันมาเสริมไว้ครับ

Victor BS12 3u เดี๋ยวผมลองดูครับ อันนี้ยังคงให้หาไม้ที่หัวหนักนิด ๆ แต่ก้านปานกลางค่อนข้างไปทางอ่อนใช่ไหมครับ พอดีผมนั่งไล่ดูรุ่นของ VS อยู่ อ่อมีอีกเรื่อง พอดีว่าผมกำลังจะไปญี่ปุ่น ไม่มั่นใจว่า ไม้แบดญี่ปุ่นราคาถูกกว่าไทยไหมครับ เหมือนเคยเห็นพวก Code JP ราคาดูแรงกว่าของไทยเยอะเลย

รองเท้าเยี่ยมครับ ผมก็ใช้ Asics ซัพพอร์ทดีมาก

ถ้าเจอไม้ที่ถูกใจแล้ว ใช้ไม้เดียวเลยครับ ผมใช้ Duora10 LCW 4 ไม้

เอ็นเดียวกัน ต่างกันที่ความตึงของเอ็นครับ

ถ้ายังไม่รู้ชอบอะไร ก็ลองๆไปก่อนครับ ยังไม่ต้องซื้อเหมือนกันทั้งสองไม้

BS12 หัวหนักนิดๆ ก้านกลางๆครับ ไม่อ่อน

เล่นหน้าก็ได้ เล่นหลังก็ดี

ไม้ญี่ปุ่น จะเป็นโค้ด JP จะราคาแรงกว่าไทยประมาณ 1.5 เท่าครับ

เช่นที่ไทย 4000 ที่ญี่ปุ่นจะประมาณ 6000 บาท

ส่วนเรื่องคุณภาพของไม้ อันนี้นานาจิตตังเลยครับ

บางคนก็ว่า ผลิตที่เดียวกัน แล้วปั๊มโค้ด เพื่อขายในแต่ละประเทศ จะได้แยกได้

บางคนก็ว่า ต่างกันนะ จับแล้วรู้เลย ความแน่น คุณภาพสี ถึงขนาดบอกว่า ถ้าเอาไม้โค้ด TH กับ โค้ด JP มาให้เค้าลองตี โดยที่ไม่ดู เค้าจะรู้เลยว่าอันไหนของญี่ปุ่น อันไหนของไทย

นานาจิตตังเลยครับ แต่ทางตัวแทนจำหน่ายเจ้าใหญ่ในไทย เมลล์ไปคุยกับทางโรงงานแล้ว

เค้าบอกเหมือนกันครับ

แต่ถ้าไปญี่ปุ่น ผมก็อยากให้ซื้อมานะ เราภูมิใจคนเดียวก็ได้ครับ 555

เพราะผมก็มีไม้ JP 2 ไม้ เราตีแล้วมันอาจจะมีพลังงานบางอย่างให้เราตีดีขึ้นครับ

โค้ดอื่นๆก็จะมีพวก SP <<< อันนี้ซื้อจากสิงคโปร์ พวกไม้ปลอม จะปั๊มรหัสนี้ , IP, CH เท่าที่เคยใช้มานะครับ

1. ไม้ตีง่าย ตีสนุก คือไม้ที่เข้ามือ ส่วนใหญ่ถ้าสำหรับมือเก๋าจะเป็นพวกไม้สปีดเบาๆ อย่าไปฟังคนขายมาก ว่าไม้นี้ตบหนักนั้นนี้ เพราะมันตบหนักจริง สำหรับนักกีฬา คนทั่วไปมือใหม่เอามาส่วนใหญ่ตีไม่ทัน นอกจากนี้ยังหมายถึง กล้ามเนื้อของแต่ละคนอีกด้วย บางคนกล้ามเนื้อน้อย ใช้ไม้เบา เข้ามือ มากกว่า บางคนกล้ามเนื้อเยอะ เทคนิคครบ ไม้ที่เข้ามือเขาก็จะต่างออกไป ไม้ส่วนใหญ่เข้ามือหมด แค่ต้องลองตีให้เวลามันสักพัก แล้วกล้ามเนื้อมันจะจำได้ เอ็นก็มีส่วนสำคัญ เพราะไม้แต่ละสเปค เอ็นที่ขึ้น ความรู้สึกก็จะต่างกันออกไป คนไทยส่วนใหญ่เล่นคู่ อยู่แล้วหาไม้สายสปีดเล่น ดีสุด ไม้บุกเต็มตัวมันเหมาะกับตีเดี่ยวเพราะมันยกช้า ถ้าคุณตบทีเดียวแล้วตาย แปลว่าคู่ต่อสู้อ่อนกว่าคุณเยอะเกินไป เพราะพอคุณเก่งแล้ว เล่นกับคนเท่าๆกัน ตบไม้เดียวยังไงก็ไม่ตาย การที่คุณใช้ไม้ตบหนักๆ ภาระมันจะตกที่ไหล่ หากโหมตีมากๆมันจะเจ็บคนเลยนิยมเล่นไม้เบากันเยอะ เพราะมันตีได้ทุกวัน นักกีฬาต้องเวทเป็นประจำ ซ้อมตบวันละเป็น 1000 ลูก ถึงจะแข็งแรงพอไม่เจ็บตอนปิดโควิดไป ผมก็แอบตีแต่ไม่ถี่เท่าปกติ ไม่ได้ซ้อม ผลคือไม้เดิมที่ตีเข้ามือ ชอบมากคือ 88D pro ต้องขายทิ้งเพราะเราแข็งแรงไม่พอแล้ว เพราะไม่ได้ซ้อม ต้องขายทิ้ง หาไม้เบา ก้านอ่อนลงตี เพราะอาการพวกนี้มันไม่ได้เจ็บในทันทีแต่มันจะเจ็บสะสม อันนี้ยังไม่นับสำหรับพวกที่ตีผิดๆไม่มีเบสิก ถ่ายแรงไม่ถูกต้อง
2.เฟรมตัดอากาศ อันนี้แล้วแต่คนชอบ หน้าไม้มันจะไว แต่เราจะไม่รู้สึกถึงหน้าไม้ บวกกับ ส่วนใหญ่เฟรมตัดอากาศจะบาง โดนกันนิดหน่อยอาจแตกหักง่าย อย่างผมพึ่งตี NF700 หักไปสองอัน กระทบเบามากๆ แต่ขึ้นเอ็นตึง นิดเดียวก็หักแล้ว ตีดีแต่ไม่คุ้มเงิน
3.ผมจะจำไว้เสมอ เวลาเราเล่นแบดคู่มันเป็นกีฬาทีม ผมชอบเล่นให้คู่เด่น ถ้าเราเล่นหน้าก็ต้องแต่งให้เพื่อนเราได้ทุบเน้นๆ เล่นหลังก็ต้องปั้นจังหวะ ให้คนหน้าได้จบ เล่นมือหลัง ลูกบุกไม่ได้มีแค่ลูกตบ มีทั้ง slice , drop, stick smash, ฟาด สำคัญกว่าเป็นมือหน้ามือหลังทุบ คือ จังหวะการวน การตีตามก๊วนแค่คุณวนเป็นมีชัยไปกว่าครึ่ง ตัวที่เป็น playmaker จริงๆคือมือหน้า ต้องคอยกำหนดจังหวะ จะเข้าจะออกจะเล่นลูกยังไง

AS77 เป็นตัวเริ่มต้นที่ดีน่าสนใจ ถ้าตีกับเพื่อนที่พร้อมเปิดใจศึกษา ตีเป็น จังหวะบวกโอกาสบวกกันน้อยมาก เพราะตรงกลางมันจะมีคนนึง ยืนเลื้อมข้างหน้าอีกคนเสมอ (หมายถึง defense formation ที่ต่างฝ่ายต่าง ยืนคุมฝั่งของตัวเอง) แต่ถ้าคุณเล่นกับคนเล่นไม่เป็นที่เหวี่ยงทั้งแขน โอกาสบวกมันก็เยอะ เพราะจริงๆวงการตีมันสั้นมากๆ แค่กระตุกข้อมือ ที่สำคัญการตีแบดทุกลูกคือการก้าวเข้าไปตี ไม่ใช่ เอื้อมไปตี

ที่สำคัญรองเท้าสำคัญกว่าไม้เยอะ