ห้างที่ผมทำอยู่นี่ก็แทบจะลดคนงานในแผนกลงจนเหลือไม่กี่คนอยู่ละ นี่ยังหาเรื่องเปลี่ยนจากสัญญาพนักงานประจำ เป็นพนักงานรายวันอีก ถ้าขึ้นขนาดนั้นจริงนี่ ห้างเขียวๆคงใช้คนงานคุ้มเหมือนร้านสะดวกซื้อในเครือเขาละ

ต้องยอมรับว่าตอนแรกผมมองว่าแค่หาคะแนน เพราะตลกมากถ้าเป็นรัฐบาลแล้วจะขึ้นได้เลย แต่พอบอกว่าภายในปี 70 ก็ยังคิดว่าอาจจะทำได้ แต่ต้องพัฒนาภาพรวมเศรษฐกิจประเทศให้ได้ก่อน

แล้วคงใช้มุกเดิมตอนขึ้นมาเป็นวันละ 300 คือแบ่งซอยย่อยรายจังหวัดอีก ไม่ใช่ทุกพื้นที่ในตอนนั้นที่จะได้ 300 ผมหยิบตารางเอกสารราชการชิ้นนั้นมานั่งอ่านอยู่ เพราะตอนนั้นผมทำงานอยู่ สสจ แห่งหนึ่ง เลยดูเรื่องค่าจ้างให้ลูกน้องด้วย ซึ่งตัวรัฐบาลเองมันใช้ตอบคำถามได้ว่านี่ไง ก็ค่าแรง 300 แล้ว แต่มันได้แค่บางจังหวัดเฉยๆ

รอบนี้ก็คงแบบนั้น

แต่ๆๆๆ !! กับดักอย่างนึงที่โดนมองข้ามสำหรับเรื่องนี้ คือการปรับฐานเงินเดือนของบุคลากรเก่าครับ อย่างรอบที่แล้ว ป.ตรี 15000 บาท มันกลายเป็นว่าคนเริ่มงานก่อนบางคนได้น้อยกว่า และมันจะต้องมีการปรับฐานเงินเดือน ของบุคลากรเก่าที่มีอายุงานมากกว่า ให้สอดคล้องกับคนใหม่ ก็จะเป็นภาระให้กรมบัญชีกลางพอสมควร อันนี้คือส่วนที่รัฐบาลต้องจ่าย

ส่วนอันทีทักกี้บอก นายจ้างสุดท้ายจะโดนบังคับให้จ่ายโดนอัตโนมัติตามบริบทขณะนั้น อันนี้ไม่ขอวิจารณ์ละกัน เพราะตอบแทนไม่ได้ว่าเค้าจะรับกับต้นทุนเพิ่มขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน



ส่วนตัวมองว่าถ้าทำได้ก็ดี แต่ควรทำในข้อแม้ที่ว่าเศรษฐกิจภาพรวมประเทศเติบโตครับ ไม่ใช่ยกขึ้นมาลอยๆ ก็ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อยครับ


ปล.ขอเพิ่มเติมข้อมูลน่าสนใจอีกนิด

จริงๆทุกวันนี้ค่าแรง 300 ก็ยังทำไม่ได้อีกเยอะมากครับ มันมีวิธีเลี่ยงบาลีโคตรบิดามารดาเยอะ อย่างเช่น จ้างเหมา จ้างตามโครงการ การทำงานตามjob บางครั้งหารออกมาไม่ถึง 300 ที่ทำงานผมตอนนี้ ลูกจ้างโดนกันเยอะ

มันเป็นงั้นไปตลอดแหละครับ ถ้าเราขายสินค้าเดิม ทำแบบเดิม ถูกไหมฮะ

เพราะงั้น ต้องมีสินค้าใหม่ๆ ที่ทำให้ gap กำไรมันยังคงอยู่ประมาณเดิม ที่สามารถขายได้ในราคาสูงขึ้น โดยที่สินค้าที่ผลิตออกมาต้องมีความต้องการ เทียบกับอะไรดี การ์ดจอ มือถือ ละมั่ง

ผมไม่ได้บอกว่าไทยต้องผลิตสินค้าเหล่านี้นะ แต่ต้องมีงบ R&D มากขึ้นอะ เพื่อที่จะทำให้หลุดพ้นจากกับดักนี้อะ

สรุปคือ มันขึ้นได้ ถ้าทำให้ผลผลิตมันเพิ่มขึ้น (สินค้าที่มีความต้องการ)

ขอตอบแบบงูๆปลาๆนะครับ

ประชากรประเทศนั้นต้องพัฒนาทักษะตนเองขึ้นไป ให้เป็นแรงงานทักษะสูง งานที่ได้จะ productivity มากขึ้น สินค้าคุณภาพดีขึ้น ขายได้ราคาแพงขึ้น

ทำยังไงประชาชนถึงจะทักษะสูงขึ้น
- ประเทศนั้นต้องส่งเสริมความรู้ประชากร ส่งเสริ่มการเรียนสร้างทักษะในอาชีพใหม่ๆ ที่ตลาดโลกต้องการ เช่นที่ สิงค์โปร reskill คนขับแท็กซี่จนเป็นโปรแกรมเมอร์ได้ , ผมได้ข่าวว่าเค้าให้เงินสนับสนุน มีคอร์สเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้เรียนฟรี จบมามีตลาดงานรองรับด้วย
- รวมถึงปฏิรูปการศึกษาสร้างคน ให้มันตอบโจทย์กับทิศทางของประเทศเลยอะมั้ง


อ่านแล้วมึนๆตัวเองเขียนเหมือนกัน

สั้นๆก็คือเศรษฐกิจเขาดี ค่าเงินดี, มีเทคโนโลยี, มีการท่องเที่ยวที่ดี ต้องทำใหเศรษฐกิตดีก่อนแล้วค่าแรงค่อยขึ้น ไม่ใช่ขึ้นค่าแรงก่อนแล้วแปลว่าเศรษฐกิจดี ถ้าทำกลับกันมีแต่จะพัง

ชอบของก้าวไกลมากกว่าอีก

วัยทำงาน ประกอบด้วย
(8) ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นทุกปี เริ่มต้นวันละ 450 บาท รัฐช่วย SME 6 เดือนแรก
(9) สัญญาจ้างเป็นธรรม ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
(10) แรงงานทุกกลุ่มตั้งสหภาพได้ สอดคล้องหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
(11) ประกันสังคมถ้วนหน้า เจ็บป่วยได้เงินชดเชยและค่าเดินทางหาหมอ
(12) เรียนเสริมทักษะ-เปลี่ยนอาชีพ ฟรีไม่จำกัดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และคูปองเรียนเสริม
https://prachatai.com/journal/2022/11/101288

ไม่ต้องไปฟิกเรื่องค่าเเรง ปรับขึ้นทุกๆปีตามความเหมาะสม สร้างสหภาพเเรงงานให้เข็มเเข็งเพื่อที่จะได้ไปต่อรองกับนายจ้าง
เพิ่มค่าเเรงมันก็เป็นนโยบายฉาบฉวยเหมือนเดิม เเม้วอาจจะบอกถ้าหาเงินเก่งมันก็ไม่เป็นไร เเต่ถ้าปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือทางการเมืองมันเปลี่ยนล่ะ อย่าลืมนะสมัยเเม้ว 2 ผลงานการบริหารมันก็ดรอป ลากยาวมาสมัยยิ่งลักษณ์ เกิดวันหน้าหาเงินได้ลดลง ไปเจอเศรษฐกิจเเย่ทั่วโลก โรคติดต่อ ไหนจะสงครามอีกล่ะ

ส่วนคนที่บอก 300 ยังทำได้เลย ทำไม 600 จะทำไม่ได้ คุณลืมผลกระทบช่วงนั้นไปเเล้วหรอ การย้ายฐานการผลิต การที่บีบให้ SME ต้องไปหาทางเอาตัวรอด ใครไปไม่ไหวก็เจ๊งไป นี่ยังไม่รวมค่าครองชีพที่สูงขึ้นอีก

ทำนโยบายฉายฉวย เดี๋ยวสมัยหน้าก็หาเสียงเพิ่มค่าเเรงเป็น 800 เป็น 1,000 เป็น 2,000 เพิ่มขึ้นไปอีก วนลูปไปเรื่อยๆ

คนแม่มจะตกงานอีกอย่างต่ำเป็นล้านคน เพราะธุรกิจขนาดเล็ก-กลางแบกค่าแรงไม่ไหว
เงินแม่มก็จะเฟ้อบรรลัย วิธีการโคตรมักง่าย

ไม่เห็นมีใครมาโชวนโยบายลดค่าครองชีพโชว์ซักที ลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมัน ขนส่งสาธารณฟรี ฯลฯ

ยิ่งถ้าพรรคไหนชูนโยบาย ปฏิรูประบบราชการ จะขึ้นดำรงตำแหน่งอะไรก็ต้องเงื่อนไขครบ แล้วเอาพวกเงื่อนไขครบมาสอบแข่งกัน จะลงสมัครสส.ต้องลงเรียนคอสการเมือง เศรษกิฐ สังคม ให้ได้คะแนนที่กำหนด แล้วถึงจะลงได้ จะได้ไม่ต้องเจอ ลุงรับเหมา มาขี่หัวหมอ

ขออภัยจากใจเลยครับ

ห้างลดคนเพราะอะไรครับ

เทียบกับตอนนี้ค่าแรง 360 ก๋วยเตี๋ยวฉามละ 60 แบบไหนดีกว่าหรอครับ

ค่อยๆปรับขึ้นก็ได้ ตามภาวะเศรษฐกิจ
ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้น ค่าแรงสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามไปด้วย
ไม่เหมือนตอนนี้ ค่าแรงแทบไม่ขึ้นมากี่ปีแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายปรับสูงขึ้นอย่างเดียวทุกปี
ผมมีพนักงานรับค่าแรงวันละ 300 กว่าบาท มองยังไงพวกเขาก็ลำบาก แต่จะปรับเงินให้เองเลยตอนนี้ก็ไม่ไหว ทุกวันนี้ดูยอดขายหักค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน แทบเหนื่อยเปล่าอยู่แล้ว

เคยยกตัวอย่างก๋วยเตี๋ยว หรือกาแฟก็ได้ ถ้าเราบอกว่าจะเพิ่มปริมาณ แต่เราเพิ่มแค่ใส่น้ำเปล่า ถามว่าปริมาณเพิ่มมั้ย ก็เพิ่ม แต่คุณภาพเพิ่มมั้ย ก็ไม่ มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ถ้าเพิ่มเงินเฉยๆอะนะ แบบปั๊มเงินอะ

ประเทศที่ค่าแรงเยอะ ก็คือประเทศที่พัฒนาแล้ว ลองนึกภาพงานๆว่า คนจนทำงานอะไร ขายอะไร แล้วคนรวยทำงานอะไร ขายอะไร จะเห็นภาพชัด ประเทศจนๆขายแรงงาน ขายสินค้าเกษตร จะยังไงรายได้มันก็ต่ำ ประเทศรวยๆขายเทคโนโลยี ให้บริการทางการเงิน ทำธุรกิจใหญ่ เขาก็เลยรายได้เยอะครับ

ถ้าเราพัฒนาวิธีการหารายได้ก็เพิ่มรายได้ได้ครับ

ง่ายๆก็คือเหมือนคนเรานี่แหละครับ เราต้องเปลี่ยนอาชีพ เปลี่ยนวิธีการทำงานถึงจะรวย ถ้าทำงานแบบเดิมแล้วจะเอารายได้เพิ่มมันก็ดูไม่อยู่กับความเป็นจริง

ขึ้นได้ก้ดีครับ ควบคู่กันไป ค่าแรง 300 ไปตลอดไม่ได้หรอก

หลอกขายฝัน

ถ้าจู่ ๆ พุ่งไป 600 เลยอันนี้ผมว่าเสี่ยงอยู่ครับ แต่ถ้าทยอยขึ้นอันนี้พอเป็นไปได้ครับ
ปล.จริง ๆ บ้านเราค่าแรงควรขึ้นนานแล้วนะ มันต้องควบคู่ไปกับค่าครองชีพ