BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2374
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 12:43
ถูกแบนแล้ว
ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย
เนื่องจากกระทู้นี้

http://www.soccersuck.com/boards/topic/2228343

มีท่านนึงบอกกว่า "เป็นวิศวกรขนส่งจากยุโรป"

เสนอแก้ปัญหา กทม กับ BTS ให้แก้เผ็ด BTS โดยให้กทมทำการกั้นเลน บนถนนและทำรถบัส BRT ตามแนวรถไฟฟ้ามาวิ่งแข่งกับ BTS และได้เคยนำเสนอให้ทาง กทม. แล้วด้วย ผลที่ได้คงไม้ต้องบอกว่าจะได้คำตอบกลับมาเป็นยังงัย

ซึ่งผมก็ได้แสดงความคิดเห็นแย้งไปพร้อมเหตุผล ท่านนั้นก็อยากให้เป็นเหมือนยุโรป เด้ะๆ

แถมยัง บอกว่า ถ้าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของเค้า คุณก็อย่าเรียกร้องหาความเจริญ เทียบเท่ายุโรป

ไปๆมาๆ จาก BRT เปลี่ยนเป็น Buslane เฉย แถมมีปรัชญา​การขนส่งมาอีก สุดท้ายลามไปถีง ฝ่ายซ้ายฝ่ายขวา

หัวจะปวด

ผมจะโดนหาว่าเจตนาเอา สมาชิกมาแขวนมั้ยอะครับ?

ถ้ามันมองดูเป็นแบบนั้นผมยินดี ลบ ครับ



โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย FreezE[v] เมื่อ Sat Dec 03, 2022 12:48, ทั้งหมด 3 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
แข้งเจลีก
Status: อยากน้วยแมว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 8450
ที่อยู่: Mother Drum
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 12:51
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
ให้กั้นเลนถนนไปเลนนึงนี่คือถนนเมืองหลวงบ้านเรามันยังติดไม่พอว่าซั่น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 3254
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:02
[RE]ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย
อย่าหาว่างู้นงี้เลยนะแต่ตำแน่งฟังดูเก๊ๆไงไม่รู้ อารมณ์เหมือนดอคเตอร์5ปริญญาที่เป็นข่าว
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
339
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 9047
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:11
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
นึกสภาพสุขุมวิท หายไปเลนนึง นี่ช็อคนะ ไม่มีภาพเลยยกเว้นสงกานต์ ปีใหม่
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 May 2007
ตอบ: 786
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:20
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
ถ้าผมเป็น BTS แล้วกทม ทำแบบนี้นะ ยิ้มเลย

กั้นบัสเลน เอารถพิเศษ สุดท้าย ไอคนขับรถมักง่ายนี่แหละ ไปกัก บัสเลน

บัสไปไม่ได้ รถเมล์อาจจะแถมเข้าไปขวาง

ยิ่งเพิ่มบัสนาทีละคัน อะไรนั้น ถนนยิ่งแคบไปใหญ่

แล้วรถเมล์บ้านเรา ไม่ได้วิ่งแค่ซ้ายนะ แม่มวิ่งหมดทุกเลน

เลิกงาน ห้าโมง ฝนตก คราวนี้ บันเทิง

คนแห่มา BTS กันรัวๆ

แก้ไขล่าสุดโดย tunggggggggg เมื่อ Sat Dec 03, 2022 13:24, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 7759
ที่อยู่: Guiseppe Meazza
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:21
[RE]ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย
ที่นี่ประเทศไทยยังไงก็ต้องแก้แบบไทยๆ ถึงจะอยู่ยุโรปก็น่าจะเข้าใจนะว่าคนไทยมันเป็นยังงัย แต่ผมชื่นชมเขานะ เขาใส่สปอยเมนท์ที่โควตยาวๆ ดีมากสำหรับคนอ่านในแอพอย่างเดียวแบบผม
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
OTW
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 7660
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:25
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
ผมว่าการแก้ปัญหาแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดนะ เป็นที่อื่นอาจจะทำได้จริงๆก็ได้
ขนส่งดีรถยนต์ก็อาจจะน้อยลงด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันอาจจะเป็นแค่อุดมคติสำหรับประเทศไทย
เพราะบ้านเราก็อย่างที่รู้กัน มันอยู่ที่จิตสำนึกด้วย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2374
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:30
ถูกแบนแล้ว
ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย
hero_manz พิมพ์ว่า:
ผมว่าการแก้ปัญหาแบบนั้นก็ไม่ได้ผิดนะ เป็นที่อื่นอาจจะทำได้จริงๆก็ได้
ขนส่งดีรถยนต์ก็อาจจะน้อยลงด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันอาจจะเป็นแค่อุดมคติสำหรับประเทศไทย
เพราะบ้านเราก็อย่างที่รู้กัน มันอยู่ที่จิตสำนึกด้วย  

ใช่ครับ เริ่มแรก ผมไม่ได้บอกว่าเค้าผิดเลย เป็นแนวทางที่ใช้ได้ผลกับบางเมือง แต่มันเอามาใช้กับ กทม ไม่ได้ ไม่ใช่ไม่เคยทำ เคยทำมาแล้ว พังไปแล้ว

และเจตนาเค้าคือทำเพื่อ แก้เผ็ด BTS ซึ่งมัน ไม่คุ้มที่จะทำเพื่อหวังผลแค่นั้น
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Nov 2021
ตอบ: 701
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:30
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
จะทำ brt หรือ bus lane ได้ กม.จราจรมันต้องเข้มแบบเมืองนอกด้วย ปรับจริงปรับแรง ซึ่งมันใช้กับเมืองไทยไม่ได้ ซอยในกรุงเทพก็เยอะ ผังเมืองก็ไม่มี โซนนิ่งก็ไม่มี วิศวกรขนส่งอะไรหว่า ไม่เอาเรื่องบริบททางสังคม พฤติกรรมผู้โดยสารเข้าไปรวมด้วย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Nov 2008
ตอบ: 26958
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:50
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
ผมว่าbrt bus laneไม่ตอบโจทย์ประชาชนส้นตีนวนประเทศนี้ครับ
ลองดูbrtปัจจุบันก็ได้

ไม่นับเรื่องฝังเมืองไรอีกนะ รถเมล์ยังไงก็วิ่งไม่ครบทุกซอย
ฟุตบาตดีๆให้เดินแบบประเทศเจริญแล้วก็ไม่มี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 1138
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 13:52
[RE]ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย
กรุงเทพมีจำนวนรถเยอะกว่าที่ infrastructure ที่มีจะรองรับได้ไปเยอะครับ แถมมีมอเตอร์ไซค์วิ่งอีก เอาไปเทียบกับที่ยุโรปไม่ได้หรอก
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ชื่อ Declan Rice อ่านว่า เด๊คแล่น (Dec-lan) ไรซ์ ไม่ใช่ ดีแคลน (De-clan) ไรซ์
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Sep 2010
ตอบ: 3592
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 14:02
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
ผมมาอ่านอันนี้ ผมเข้าใจแล้วว่าหลักๆท่านมีปัญหากับเรื่องนี้ยังไง และหลายๆคนก็น่าจะคิดแบบนี้
เอาเป็นว่าถ้าไม่ใช่ก็บอกด้วยว่าไม่ใช่นะครับ

ปัญหาหลักที่ว่าคือ พวกท่านคิดว่า เราต้องออกแบบเมือง ออกแบบถนน ให้สอดรับกับพฤติกรรมของคนในพื้นที่นั้นๆ

ปัญหาคือผมเชื่ออีกอย่าง มันเลยคุยกันไม่รู้เรื่อง

ผมเชื่อว่า การออกแบบเมือง จะเปลี่ยนพฤติกรรมคน

ซึ่งผมไม่ได้เชื่อเปล่าๆนะ มีงานวิชาการรองรับด้วย ยกตัวอย่างหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนี้ก็ได้ "Livable Streets" by Donald Appleyard

Spoil
อันนี้เป็นงานวิชาการที่ไปศึกษาความแตกต่างของถนนใหญ่ รถหนาแน่น กับถนนเล็ก รถเบาบาง ซึ่งสำรวจในหลายๆมิติเลยล่ะ

ผมยกมา 1 มิติ การที่ถนนใหญ่ รถหนาแน่น จะทำให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันน้อยกว่า การที่ถนนเล็ก เบาบาง

 


ซึ่งเค้าสรุปชัดเจนนะครับ การสร้างเมือง ออกแบบถนน มีผลต่อพฤติกรรมของคน ลองไปอ่านดูได้

อย่างเมืองที่ผมอยู่ เค้าจะเอาเลนไปทำแทรม (ซึ่งก็คล้ายๆการปิดเลนทำ BRT หรือ Bus Lane นั่นแหละ) ก็ถกเถียงกันระหว่างนักการเมืองขวาและซ้าย (นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมผมถึงดึงเรื่องซ้ายขวาเข้ามาเกี่ยวข้อง)

ขวาในยุโรป จะโปรถนน อยากให้ถนนกว้างๆ
ซ้ายในยุโรป จะโปรขนส่งสาธารณะ ทางเดิน จักรยาน

ก็เถียงกันไป อ.มหาวิทยาลัยคนหนึ่งก็ลุกขึ้นพูดกลางวงถกเถียงว่า เราลองจินตนาการดูว่าเราอยากให้เมืองเป็นแบบไหน ก็ให้ออกแบบอย่างนั้น

สุดท้ายฝ่ายซ้ายก็โหวตชนะ ได้เลนมาทำแทรม

ซึ่งถ้าคุณจะเชื่อว่าเมืองต้องออกแบบตามคน ผมก็คงต้องแล้วแต่ครับ แต่แวดวงขนส่ง พร้อมทั้งหลักฐานทางวิชาการ มันชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมคนเปลี่ยนได้ ตามการออกแบบเมือง

ปล.หนังสือที่ผมแนะนำด้ายบนสนุกมาก ควรหาอ่านอย่างมาก และถูกนำไปอ้างอิงในหนังสือเรื่องการออกแบบเมืองอยู่เสมอ
แก้ไขล่าสุดโดย Kmul เมื่อ Sat Dec 03, 2022 14:03, ทั้งหมด 1 ครั้ง
9
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2374
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 14:18
ถูกแบนแล้ว
ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย
Kmul พิมพ์ว่า:
ผมมาอ่านอันนี้ ผมเข้าใจแล้วว่าหลักๆท่านมีปัญหากับเรื่องนี้ยังไง และหลายๆคนก็น่าจะคิดแบบนี้
เอาเป็นว่าถ้าไม่ใช่ก็บอกด้วยว่าไม่ใช่นะครับ

ปัญหาหลักที่ว่าคือ พวกท่านคิดว่า เราต้องออกแบบเมือง ออกแบบถนน ให้สอดรับกับพฤติกรรมของคนในพื้นที่นั้นๆ

ปัญหาคือผมเชื่ออีกอย่าง มันเลยคุยกันไม่รู้เรื่อง

ผมเชื่อว่า การออกแบบเมือง จะเปลี่ยนพฤติกรรมคน

ซึ่งผมไม่ได้เชื่อเปล่าๆนะ มีงานวิชาการรองรับด้วย ยกตัวอย่างหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนี้ก็ได้ "Livable Streets" by Donald Appleyard

Spoil
อันนี้เป็นงานวิชาการที่ไปศึกษาความแตกต่างของถนนใหญ่ รถหนาแน่น กับถนนเล็ก รถเบาบาง ซึ่งสำรวจในหลายๆมิติเลยล่ะ

ผมยกมา 1 มิติ การที่ถนนใหญ่ รถหนาแน่น จะทำให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันน้อยกว่า การที่ถนนเล็ก เบาบาง

 


ซึ่งเค้าสรุปชัดเจนนะครับ การสร้างเมือง ออกแบบถนน มีผลต่อพฤติกรรมของคน ลองไปอ่านดูได้

อย่างเมืองที่ผมอยู่ เค้าจะเอาเลนไปทำแทรม (ซึ่งก็คล้ายๆการปิดเลนทำ BRT หรือ Bus Lane นั่นแหละ) ก็ถกเถียงกันระหว่างนักการเมืองขวาและซ้าย (นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมผมถึงดึงเรื่องซ้ายขวาเข้ามาเกี่ยวข้อง)

ขวาในยุโรป จะโปรถนน อยากให้ถนนกว้างๆ
ซ้ายในยุโรป จะโปรขนส่งสาธารณะ ทางเดิน จักรยาน

ก็เถียงกันไป อ.มหาวิทยาลัยคนหนึ่งก็ลุกขึ้นพูดกลางวงถกเถียงว่า เราลองจินตนาการดูว่าเราอยากให้เมืองเป็นแบบไหน ก็ให้ออกแบบอย่างนั้น

สุดท้ายฝ่ายซ้ายก็โหวตชนะ ได้เลนมาทำแทรม

ซึ่งถ้าคุณจะเชื่อว่าเมืองต้องออกแบบตามคน ผมก็คงต้องแล้วแต่ครับ แต่แวดวงขนส่ง พร้อมทั้งหลักฐานทางวิชาการ มันชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมคนเปลี่ยนได้ ตามการออกแบบเมือง

ปล.หนังสือที่ผมแนะนำด้ายบนสนุกมาก ควรหาอ่านอย่างมาก และถูกนำไปอ้างอิงในหนังสือเรื่องการออกแบบเมืองอยู่เสมอ  


โอเค ถ้าคุยกันแบบนี้ค่อยรู้เรื่องหน่อยครับ ใช่ครับ

การออกแบบเมืองเพื่อ เปลี่ยนนิสัยคน เป็นเรื่องที่ดี และควรทำ แต่มันจะทำได้ก็ต่อเมื่อ เมืองและคนได้รับการวางรากฐาน อย่างถูกต้องมาล่วงหน้าก่อนแล้ว มันถึงจะสามารถทำได้

แต่ใน กทม อย่างที่ผมตอบไปแล้ว เราไม่ได้รับการวางผังเมืองที่ถูกต้องตั้งแต่แรก มันก็ทำให้นิสัยคนก็ลื่นไหลไปกับความไม่ถูกต้องตามไปด้วย

พอมันใช้เวลานานเข้าการจะไปปรับเปลี่ยน เพื่อหวัง จะเปลี่ยน นิสัยคน มันทำยากมากครับในระยะเวลาสั้นๆ อุปสรรค มหาศาลทั้งในแง่ข้อจำกัดพื้นที่ และ การ Movement ของสังคม

ไม่ใช่ว่าไม่ควรเปลี่ยน แต่มันควรที่จะ Adaptให้สอดคล้อง กั บ บริบทสังคม ที่เป็นมา และพัฒนาให้ดีขึ้น ภายในข้อจำกัดที่มี

ผมเดาถูกใช้มั้ยหละครับ เมืองที่คุณอยู่ ใช้ ระบบขนส่งคน จำพวก Tram ที่ใช้พื้นที่ผิวถนน ได้ โดยไม่กระทบ กับการจราจร ของรถมาก นิสัยพื้นฐานเค้า รถไม่ใช่สิ่งจำเป็นครับ ใช้เพื่อเดินทางระยะไกลๆ ในเมืองเค้าเลือกที่จะใช้ขนส่งมวลชนมากกว่า หรือถ้าใกล้ๆเดินเอาก็ได้ จำนวนรถที่อยู่ ถนน เลยน้อยกว่า จนไม่ได้รับผลกระทบ ถ้าจะหายไป 1เลน

แต่เมืองไทยนี่ตรงกันข้ามครับ จำเป็นต้องต้องดิ้นรนเพื่อมีรถ ไม่งั้นเดินทางลำบาก ขนาดในเมืองก็เถอะ ยังไม่รวมปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศ ถ้าบ้านเราเวลาร้อนๆ นี่ แค่เดินขึ้น สถานีรถไฟฟ้า หรือยืนรอ รถเมล์ หรือ รอเรียก แท็กซี่​เหงื่อยังท่วม เลยครับ คนเลยเลือกวิธีที่จะสบายมากกว่า จะไปผจญ กับสิ่งแวดล้อม แตกต่างกับยุโรป ที่คุณบอก อากาศค่อนข้างเย็น และสบายกว่า ที่สามารถเดินได้ และใช้ชีวิตกลางแจ้งได้

ผมย้ำว่าการยกโมเดล มา ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การจะนำมาใช้ให้เกิดผล จริงๆ มันต้องศึกษา ให้รอบด้าน ให้สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่ ไม่สามารถ ยกแล้วมาวางใช้ได้เลย แล้วมันจะเป็นผลดี

ตัวอย่างแค่นี้ ก็คงพอเข้าใจ ใช่มั้ยครับ


โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
แก้ไขล่าสุดโดย FreezE[v] เมื่อ Sat Dec 03, 2022 14:36, ทั้งหมด 4 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Apr 2021
ตอบ: 848
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 14:31
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
ทำไมผมคิดว่า ถ้าจำนวนรถยนต์ส่วนบุคคลในกทมไม่ลดลงให้เท่า หรือใกล้เคียงเมืองในยุโรป แนวคิดต่างๆวิธีคิดต่างๆมันก้เอามาใช้ไม่ได้แล้วป่าว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Sep 2010
ตอบ: 3592
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 03, 2022 14:37
[RE: ขออนุญาต​ เลอะเทอะ...... นี่ผมคุยกับอะไรอยู่วะเนี่ย]
Spoil
FreezE[v] พิมพ์ว่า:
Kmul พิมพ์ว่า:
ผมมาอ่านอันนี้ ผมเข้าใจแล้วว่าหลักๆท่านมีปัญหากับเรื่องนี้ยังไง และหลายๆคนก็น่าจะคิดแบบนี้
เอาเป็นว่าถ้าไม่ใช่ก็บอกด้วยว่าไม่ใช่นะครับ

ปัญหาหลักที่ว่าคือ พวกท่านคิดว่า เราต้องออกแบบเมือง ออกแบบถนน ให้สอดรับกับพฤติกรรมของคนในพื้นที่นั้นๆ

ปัญหาคือผมเชื่ออีกอย่าง มันเลยคุยกันไม่รู้เรื่อง

ผมเชื่อว่า การออกแบบเมือง จะเปลี่ยนพฤติกรรมคน

ซึ่งผมไม่ได้เชื่อเปล่าๆนะ มีงานวิชาการรองรับด้วย ยกตัวอย่างหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนี้ก็ได้ "Livable Streets" by Donald Appleyard

Spoil
อันนี้เป็นงานวิชาการที่ไปศึกษาความแตกต่างของถนนใหญ่ รถหนาแน่น กับถนนเล็ก รถเบาบาง ซึ่งสำรวจในหลายๆมิติเลยล่ะ

ผมยกมา 1 มิติ การที่ถนนใหญ่ รถหนาแน่น จะทำให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันน้อยกว่า การที่ถนนเล็ก เบาบาง

 


ซึ่งเค้าสรุปชัดเจนนะครับ การสร้างเมือง ออกแบบถนน มีผลต่อพฤติกรรมของคน ลองไปอ่านดูได้

อย่างเมืองที่ผมอยู่ เค้าจะเอาเลนไปทำแทรม (ซึ่งก็คล้ายๆการปิดเลนทำ BRT หรือ Bus Lane นั่นแหละ) ก็ถกเถียงกันระหว่างนักการเมืองขวาและซ้าย (นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมผมถึงดึงเรื่องซ้ายขวาเข้ามาเกี่ยวข้อง)

ขวาในยุโรป จะโปรถนน อยากให้ถนนกว้างๆ
ซ้ายในยุโรป จะโปรขนส่งสาธารณะ ทางเดิน จักรยาน

ก็เถียงกันไป อ.มหาวิทยาลัยคนหนึ่งก็ลุกขึ้นพูดกลางวงถกเถียงว่า เราลองจินตนาการดูว่าเราอยากให้เมืองเป็นแบบไหน ก็ให้ออกแบบอย่างนั้น

สุดท้ายฝ่ายซ้ายก็โหวตชนะ ได้เลนมาทำแทรม

ซึ่งถ้าคุณจะเชื่อว่าเมืองต้องออกแบบตามคน ผมก็คงต้องแล้วแต่ครับ แต่แวดวงขนส่ง พร้อมทั้งหลักฐานทางวิชาการ มันชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมคนเปลี่ยนได้ ตามการออกแบบเมือง

ปล.หนังสือที่ผมแนะนำด้ายบนสนุกมาก ควรหาอ่านอย่างมาก และถูกนำไปอ้างอิงในหนังสือเรื่องการออกแบบเมืองอยู่เสมอ  


โอเค ถ้าคุยกันแบบนี้ค่อยรู้เรื่องหน่อยครับ ใช่ครับ

การออกแบบเมืองเพื่อ เปลี่ยนนิสัยคน เป็นเรื่องที่ดี และควรทำ แต่มันจะทำได้ก็ต่อเมื่อ เมืองและคนได้รับการวางรากฐาน อย่างถูกต้องมาล่วงหน้าก่อนแล้ว มันถึงจะสามารถทำได้

แต่ใน กทม อย่างที่ผมตอบไปแล้ว เราไม่ได้รับการวางผังเมืองที่ถูกต้องตั้งแต่แรก มันก็ทำให้นิสัยคนก็ลื่นไหลไปกับความไม่ถูกต้องตามไปด้วย

พอมันใช้เวลานานเข้าการจะไปปรับเปลี่ยน เพื่อหวัง จะเปลี่ยน นิสัยคน มันทำยากมากครับในระยะเวลาสั้นๆ อุปสรรค มหาศาลทั้งในแง่ข้อจำกัดพื้นที่ และ การ Movement ของสังคม

ไม่ใช่ว่าไม่ควรเปลี่ยน แต่มันควรที่จะ Adaptให้สอดคล้อง กั บ บริบทสังคม ที่เป็นมา และพัฒนาให้ดีขึ้น ภายในข้อจำกัดที่มี

ผมเดาถูกใช้มั้ยหละครับ เมืองที่คุณอยู่ ใช้ ระบบขนส่งคน จำพวก Tram ที่ใช้พื้นที่ผิวถนน ได้ โดยไม่กระทบ กับการจราจร ของรถมาก นิสัยพื้นฐานเค้า รถไม่ใช่สิ่งจำเป็นครับ ใช้เพื่อเดินทางระยะไกลๆ ในเมืองเค้าเลือกที่จะใช้ขนส่งมวลชนมากกว่า หรือถ้าใกล้ๆเดินเอาก็ได้

แต่เมืองไทยนี่ตรงกันข้ามครับ จำเป็นต้องต้องดิ้นรนเพื่อมีรถ ไม่งั้นเดินทางลำบาก ขนาดในเมืองก็เถอะ ตัวอย่างแค่นี้ ก็คงพอเข้าใจ ใช่มั้ยครับ

 
 


อ้างอิงจาก:
การออกแบบเมืองเพื่อ เปลี่ยนนิสัยคน เป็นเรื่องที่ดี และควรทำ แต่มันจะทำได้ก็ต่อเมื่อ เมืองและคนได้รับการวางรากฐาน อย่างถูกต้องมาล่วงหน้าก่อนแล้ว มันถึงจะสามารถทำได้

แต่ใน กทม อย่างที่ผมตอบไปแล้ว เราไม่ได้รับการวางผังเมืองที่ถูกต้องตั้งแต่แรก มันก็ทำให้นิสัยคนก็ลื่นไหลไปกับความไม่ถูกต้องตามไปด้วย  

- อันนี้คือท่านพูดตามความรู้สึก หลักฐานทางประวัติศาสตร์ หรืองานวิชาการครับ ถ้าพูดตามความรู้สึกก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพูดตามหลักฐานทางวิชาการอันนี้บอกผมด้วยครับ เผื่อเป็นความรู้ใหม่


อ้างอิงจาก:
ผมเดาถูกใช้มั้ยหละครับ เมืองที่คุณอยู่ ใช้ ระบบขนส่งคน จำพวก Tram ที่ใช้พื้นที่ผิวถนน ได้ โดยไม่กระทบ กับการจราจร ของรถมาก  

- อันนี้ไม่จริงครับ มีแทรมวิ่งบนถนนกับรถเสมอ และหลายอันก็พยายามตัดพื้นที่ถนนมาทำเลนรถเฉพาะ บางทีถึงขั้นปิดถนนเพื่อแทรม/Busเลยครับ


อ้างอิงจาก:
นิสัยพื้นฐานเค้า รถไม่ใช่สิ่งจำเป็นครับ ใช้เพื่อเดินทางระยะไกลๆ ในเมืองเค้าเลือกที่จะใช้ขนส่งมวลชนมากกว่า หรือถ้าใกล้ๆเดินเอาก็ได้  

- ก็กลับไปที่เดิมครับ ว่าเชื่อว่าการมีขนส่งที่ดีทำให้คนไม่ใช้รถ หรือคนเลือกขนส่งแล้วค่อยสร้างตาม

อ้างอิงจาก:
แต่เมืองไทยนี่ตรงกันข้ามครับ จำเป็นต้องต้องดิ้นรนเพื่อมีรถ ไม่งั้นเดินทางลำบาก ขนาดในเมืองก็เถอะ ตัวอย่างแค่นี้ ก็คงพอเข้าใจ ใช่มั้ยครับ  

- ดังนั้นต้องออกแบบเมืองเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมครับ การที่ทำให้ถนนแคบลงนี่คือการบังคับโดยอ้อมให้คนเลิกใช้รถ และการสร้างทางพิเศษสำหรับขนส่งมวลชน คือการดึงดูดคนมาใช้ขนส่งมวลชนครับ
ความคิดนี้ผมไม่ได้คิดเองครับ ผมบอกแล้วว่าตามวิชาการขนส่ง ถ้าอยากไปอ่านเรื่องนี้ต่อลองไปตาม Hermann Knoflacher ที่เป็นศาสตราจารย์ด้านขนส่งของ TU Wien (Vienna University of Technology) ก็ได้ครับ คนนี้มีชื่อเสียงและเป็นผู้นำองค์กรขับเคลื่อนการขนส่งระดับยุโรปและโลกหลายอันมาก ปัญหาคือส่วนใหญ่เป็นภาษาเยอรมัน และถ้าท่านอ่านได้ไม่ว่าด้วยวิธีใด ก็จะรู้สึกเหมือนกับโดนด่าอยู่ตลอดแน่นอนครับ ผมยกโควทหนึ่งมาให้ดูว่าเหมือนโดนด่ายังไง

แต่ผมเตือนอย่างหนึ่ง อ่านแล้วจะเหมือนโดนด่า และผมไม่ได้ด่านะครับ Professor ท่านนี้เป็นคนด่า ดังนั้นอย่าด่าผมกลับครับ

Spoil
อ้างอิงจาก:
Das Auto hat sich wie ein Virus in unserem Gehirn festgesetzt. Und zwar nicht irgendwo, sondern genau da, wo wir mit rationalen Argumenten nicht mehr zu erreichen sind. Wenn es ums Auto geht, reagieren wir dumpfer als Steinzeitmenschen  


https://www.spiegel.de/spiegel/autos-in-innenstaedten-wir-haben-systematisch-stau-erzeugt-a-1196234.html

แปลได้ว่า
รถยนต์ฝังรากในหัวสมองของเราเหมือนกับไวรัส และไปอยู่ในจุดที่เราไม่สามารถถกเถีนงอย่างเป็นเหตุเป็นผลได้ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์ เราจะตอบโต้โง่ยิ่งกว่าคนในยุคหิน  

แก้ไขล่าสุดโดย Kmul เมื่อ Sat Dec 03, 2022 14:38, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel