เจ้าของกระทู้เคยเรียน "วิชาปรัชญา" ไหมครับ
ผมก็ไม่เคยเรียนนะครับ

แต่การให้เหตุผล มันเป็นส่วนนึงของวิชาปรัชญาครับ

แล้วซึ่งที่คนอื่นเค้าแซวๆ ตรรกะวิบัติ กันเนี่ย
fallacy มันมีคำนี้อยู่จริงนะครับ ไม่ใช่เค้าจะด่าเอาสนุกอย่างเดียว

ด้วยความหวังดีครับ

จริงๆ จขกท เค้าพูดถูกหมดทุกคำนะครับ ผมไม่รู้ว่าก่อนหน้ามีเรื่องราวยังไง แต่เค้าพูดุถูกทุกคำ แค่วิธีการ หรือการยกตัวอย่าง อาจจะไม่ดี หรือทำให้ใครหลายคนไม่เข้าใจ

ประเด็นที่ต้องแยก มี 2 คำ คือคำว่า sport กับคำว่า game
แต่ละคำ ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่ออะไร วัตถุประสงค์เเพื่ออะไร
เช่น sport เพื่อจรรโลงใจ creativity humanity เหล่านี้ต้องชัดเจนในตัวมันเองครับ
game ทำทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะ

หลายเหตุการณ์ แม้กระทั่ง กรณีซัวเรซ เอง ก็ทำลาย เป้าประสงค์ตรงนั้น เพราะงั้น บาดแผลจากเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับ game ไม่เกี่ยวกับกฎ แล้วครับ มันอยู่ใน game แต่มันไม่อยู่ใน sport

ผมจำได้ ครั้งแรกที่ มู พาเชลซีเข้าชิง ucl ตอนนั้นมีคนออกมาพูดว่า for the sake of football world มูและเชลซี ไม่ควรชนะนัดชิง(พูดก่อนจะเตะ) ถ้าเรามองแค่ game มันก็คงเถียงว่า จะเล่นบอลรับ อุด สวน อะไรก็ทำได้หมด แต่ประโยคที่คนๆนั้นพูดมามันกว้างกว่าแค่ เกมส์ (For the sake of...)

จากด้านบนจะได้ความว่า สรุป
สิ่งที่ซัวเรซทำ ได้รับการลงโทษที่เหมาะสมแล้ว ?

เห็นมีบอก ใบแดง จุดโทษ มันก็เต็มที่ที่ควรจะได้แล้ว ใช่ครับ เหมาะสมตาม game แต่ไม่เหมาะสมตาม sport

คุณมีลูกสาว โดนข่มขืน แล้วฆ่า คนร้ายโดนจับ(แต่ไม่มีโทษประหาร) หรือต่อให้มี แล้วไง ? มันเอาลูกสาวคุณคืนมาได้รึเปล่า เพราะงั้น
ในมุมมองผู้ถูกกระทำ กาน่า ไม่มีอะไรจะชดเชยความเสียหายได้แล้วครับ เอาลูกสาวคืนมาไม่ได้
ในมุมมองคนกระทำ ซัวเรซ ก็ตามกฎหมายที่ตั้งขึ้นมา คือจำคุกตลอดชีวิต

คนร้ายได้รับโทษเหมาะสมแล้วตามกฎหมาย(ขั้นสูงสุด) เหมาะสม ตามกฎ (Rules,GAME)
คนร้ายไม่ได้รับโทษเหมาะสมตาม วิถีชีวิต ความเป็นไป ใจของผู้สูญเสีย ไม่เหมาะสม(Sport,Life)

พอจะเห็นมั๊ยครับ มิติ sport มันกว้างกว่า มิติ game ก็เหมือนชีวิตเรานี่แหละ

ทั้งหมดที่ทุกคนเถียงกัน คือคุณมองคนละ universe กันครับ แค่นั้นเอง

เพราะงั้น เวลาคนเถียงจขกท ว่า ซัวเรสก็ได้รับการลงโทษแล้วไง ก็ใช่ตาม game แต่แค่ยังไม่ใช่ตาม sport ครับ กาน่าเสียลูกสาวไปแล้ว มันไม่มีวิธีการใดเรียกคืนมาได้ มัน hurt วงการฟุตบอลไปแล้ว

อ้าว แล้ว ไอ้ จขกท มันจะมาพูด อะไรให้ยืนยาววะ แม่ง ไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ

กาน่าเสียลูกสาวไปแล้ว จริงอยู่ว่าเรียกร้องลูกสาวมาไม่ได้(ก็ตายไปแล้วหนิ) และซัวเรสก็ถูกลงโทษตาม game ถึงแม้จะไม่สามารถลงโทษใดๆ ได้มากกว่านี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราสามารถ สำนึกรู้ ตระหนักรู้ ครับ สิ่งนี้มันสำคัญ ถึงแม้บาดแผลมัน แก้คืนไม่ได้ แต่ถ้าเรา ตระหนักรู้ อย่างที่ จขกท เค้าตั้งกระทู้ขึ้นมา มันก็จะช่วยย้ำเตือนว่า space ของวงการ sport นี้เค้าสร้างมาเพื่ออะไร มันอาจไม่ได้อะไรเป็นรูปธรรม แต่การตระหนักรู้ร่วมกัน มันก็เป็นนามธรรมที่สำคัญ นะคร้าบบบบบบ

เป็นสิทธิที่ซัวเรสต้องการไม่ให้ทีมแพ้ แม้ซัวเรสจะรู้อยู่เต็มอกว่ามันผิดกฎกติกา และมันก็มีบทลงโทษอยู่แล้ว(ใบแดง+จุดโทษ) เค้าก็ติดสินใจที่จะเสี่ยงทำมัน

ผลก็อย่างที่เห็นว่า กาน่าลงโทษซัวเรสและอุรุกวัยไม่ได้เอง

แล้วคุณจะมาทวงความยุติธรรมอ่ะไรตอนนี้ ในเมื่อเหตุการณ์มันผ่านมาตั้ง12ปีละ

ขนาดกาน่าเองยังไม่คิดแบบคุณเลย

มนุษย์เราก็มีหลายประเภทอะเนอะ

ชอบวะ

ป้าดด 17 หน้า คุยไรกันบ้างเนี่ย ไม่ได้ตามอ่านเลย

มันก็คือการทำผิดและลงโทษภายใต้กฏไง ก็เหมือนการล้างใบเหลืองล้างโทษแบนเพื่อที่จะลงนัดชิง มันก็คือการใช้กฏและยอมรับการลงโทษและรับความเสี่ยงจากการรับโทษ

จะว่าไงดี เคสนี้มันติดอยู่ตรงที่ว่า ซัวเรสไม่ได้ทำให้ลูกสาวเค้าตายปะครับ
ผลของเหตุการณ์มันคือการที่กาน่าตกรอบจากการยิงจุดโทษไม่เข้า
ถ้าจะมาย้อนว่าซัวเรสเป็นต้นเหตุให้กาน่าตกรอบ แล้วสาปแช่งซัวเรสทั้งประเทศ
แบบนี้ เคสอื่นๆที่แพ้ ก็ต้องโทษฝ่ายตรงข้ามหมดเลยน่ะสิ
มู้ข่าวต้นเหตุมันมาจากการที่นักข่าวไปถามซัวเรสปะ ว่าเค้าจะขอโทษมั้ย
เพราะชาวกาน่าโกรธแค้นเค้ามากทั้งประเทศ คนที่ยิงจุดโทษไม่เข้าก็ลอยตัวสิ
ถ้าเอาตามที่ท่านยกตัวอย่างเรื่องข่มขืนแล้วฆ่าลูกสาว
กียานที่ยิงลูกโทษไม่เข้าจนทำให้ทีมชนะไม่ได้ ต้องยืดไปถึงการตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ
ต้องเป็นตัวละครแบบไหนในเรื่องนี้ครับ

เพ้อกันไปใหญ่เหมือน woke twitter ไปกันเลย

เหลือจะเชื่อ 5555

ผมว่าต่างกันครับ กาน่าได้โอกาสที่จะทำให้ลูกสาวฟื้นคืนจากความตายครับคือโอกาสยิงจุดโทษและซัวเรสโดนใบแดง ซึ่งเป็นการชดใช้ที่ทางกาน่าเองก็พอใจสังเกตได้จากท่าทางและอารมณ์ผู้เล่นในสนามตอนนั้นครับ https://www.youtube.com/embed/tDpx9GGH79I&t=3s (นาที 3.30) เพียงแต่ถ้ากาน่ายิงเข้าเรื่องก็จะกลายเป็นอีกแบบลูกสาวก็จะฟื้นจากความตายและอยู่กันอย่างมีความสุขเพราะได้เข้ารอบต่อไป ต่างกับการที่ลูกสาวถูกข่มขืนและฆ่าอันนั้นไม่มีโอกาสได้แก้ไขอะไร

ผมเข้าใจที่ท่านจะสื่อนะครับ เพียงแต่ความหนักเบาของตัวอย่างที่เปรียบเทียบมันต่างกันเกินไป อารณ์ ความรู้สึก และอาจจะรวมไปถึงการใช้ชีวิต ความเสียหายที่ทิ้งรอยไว้หลังจากเกิดเหตุการณ์ของ 2 กรณีที่เปรียบเทียบของผู้โดนกระทำมันต่างกันมากนะครับ

การที่ซัวเรสเอามือปัดบอลใช่ครับทำไม่ถูก แต่ก็อย่างที่ท่านบอกถูกเลยครับ มันก็เป็นส่วนหนึ่งของเกมส์ " a part of game" ที่เป้าหมายคือการเอาชนะคู่แข่งแต่มันผิดในเรื่องของ spirit ของกีฬาเป็น unsportmanship // fair on rules, but unfair on spirit of sport

แล้วยังบอกด้วยนะ ผม Discuss แบบนี้ในชีวิตปกติอยู่แล้ว โหหห บอกตรงๆ โคตรสงสารคนรอบๆตัวไอหมอนี่เลย

เถียงข้างๆคูๆ ปักธงไว้ในใจ ใครออกความเห็นไม่เหมือนกัน ก็พยายามรั้นจะให้คนอื่นคิดเหมือนตัวเองให้ได้

ประสาทแดกชิบหาย คนประเภทไหนวะเนี่ย

ผมเห็นต่างอะครับ
ผมเชื่อว่า การที่เราทำอะไรในเกมส์ ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตจริงจะมีโอกาสทำแบบนั้น

เช่น บางคนที่ทำงานเป็นเจ้านาย ดุดันกับลูกน้อง จริงจัง ตัวตึงในงาน
แต่พอกลับบ้าน อยู่กับครอบครัว ใจเย็น อ่อนโยน สโลไลฟ์ ก็มีครับ

คนเรามันเป็นบุคคลิกอื่นได้ ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นเราสวมบทบาทอะไรอยู่

ฟตบอลก็เช่นกันครับ

ตามอ่านจนครบ ก็แค่ จขกท. ที่มีแนวคิดแบบตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล แต่ปากบอกว่าพร้อม Discuss

แต่ตัวเองขาดทักษะในการพิมตัวหนังสือเพื่อการสื่อสาร ชาวประชา SS ที่มาร่วมถกเถียงเลยงงว่าต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

พอโดนกดดัน จี้เข้ามากๆ เลยหลุดไปนอกเรื่อง ออกทะเล ตอบไม่ตรงประเด็น ลากนู่นลากนี้มาเกี่ยวจนมั่วไปหมด จนกู่ไม่กลับอีกเลย

จบข่าว