วันนี้หนูขอมาอธิบายทำไมว่าหลายๆคนยังวุ่นวายหรือมีปัญหาในการดูบอลโลกทั้งๆที่มี Must Have
ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักกับเทคโนโลยีการออกอากาศ
การออกอากาศกระจายสัญญาณโทรทัศน์/วิทยุ Broadcasting ดำเนินการผ่านเสาส่งสัญญาวิทยุที่มีการจัดสรรคลื่นความถี่ โดยมีเสาส่งสัญญาณตั้งตรงกลางแล้วกระจายคลื่นออกไปเป็นวงรอบ แล้วมีเสารับสัญญาณเกี่ยวสัญญาณเพื่อรับสัญญาณภาคพื้นดิน และแปลงข้อมูลผ่านกล่องรับสัญญาณ ปัจจุบันออกอากาศผ่านสัญญาณดิจิตอล เรียก Free TV หรือ Digital TV โดยใครก็สามารถเกี่ยวสัญญาณไปรับชมได้
การออกอากาศดาวเทียม c-band/ku band ดำเนินการโดยจานดาวเทียมยิงสัญญาณตบกระทบมายังโลก บีบเป็นมุมที่แคบ หรือกว้างตามแต่หน้าที่ของดาวเทียมหรือการส่งสัญญาณนั้น เพื่อครอบคลุมพื้นที่ที่ให้บริการ แล้วมีจานรับสัญญาณเกี่ยวสัญญาณเพื่อรับสัญญาณภาคพื้นดิน และแปลงข้อมูลผ่านกล่องรับสัญญาณ
Cable TV (Fiber Optic)ดำเนินการผ่านการลากสายส่งสัญญาณถึงบ้านผู้ใช้บริการ และแปลงภาพด้วยกล่องรับสัญญาณ โดยปัจจุบันนิยมส่งมาทางอินเตอร์เน็ต
กฎ Must Have มีขึ้นเมื่อปี 2555 โดยมีรายการดังต่อไปนี้
การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final)
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ (SEA Games)
การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ (Asian Games)
การแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ (ASEAN Para Games)
การแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ (Asian Para Games)
การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก (Olympic Games)
การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก (Paralympic Games)
กฎ Must Have มีอยู่ง่ายๆว่า ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าของสิทธิ์ ต้องนำมาออกอากาศผ่านฟรีทีวี ที่กสทช.ดูแล โดยห้ามปิดกั้น และป้องกันไม่ให้การออกอากาศต้องสดุด
กฎ Must Carry ผู้ให้บริการทีวี ไม่ว่าจะดาวเทียม กล่องรับสัญญาณ หรืออินเตอร์เน็ตต้องเอาช่องที่ประมูลคลื่น กสทช. ไปออกทั้งหมดทุกช่อง
FIFA เจ้าของสิทธิ์ฟุตบอลโลก จ้างนายหน้าไปขายตามภูมิภาคต่างๆ
โดยกฎมีอยู่ว่า ตัวแทนสามารถให้บริการได้แค่ในประเทศคุณเท่านั้น
ทุกประเทศต้องมาซื้อกับตัวแทน หรือ FIFA เท่านั้น