จะรบกวนพี่ๆน้องชาว ss ที่พอมีคำแนะนำเกี่ยวกับการทำกำแพงกันดิน ชี้แนะให้ผมทีครับ
เรื่องการทำกำแพงกันดินครับ ผมถมดิน สูง 2.5 เมตร จากพื้นที่ข้างๆเป็นนา แต่ยังไม่ได้มีกำแพงกันดิน
>>แบบนี้ควรทำเสา stay แบบไหนครับ

>>(เสา stay ต้องดึงเข้ามาจากแนวกำแพง กี่เมตร และเสาดึง stay

>>ต้องลึกลงไปเท่าไร(ต้องขุดลงไปให้อยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นนาข้างๆ ลงไปขนาดนั้นไหมครับ))

จำเป็นต้องมีวิศวะกรมาออกแบบไหมครับ เพราะอยู่ต่างจังหวัดคนที่จะทำเป็นญาติทำบ้านทั่วไปอยู่แถวต่างจังหวัด
แต่ผมไม่มั่นใจเขาเท่าไรเลยมาปรึกษาเพื่อนเพื่อเป็นแนวทางครับ

ปรึกษาวิศวกรดีกว่าครับ

เสียค่าวิศวกรไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามันล้มขึ้นมามันไม่คุ้มกันครับ

ตามกฏหมายคือกำแพงกันดินที่สูงกว่า 1.5 เมตรต้องมีวิศวกรรับรองครับ

รวมถึงงานขุดด้วยนะ (กำแพงกันดินก็คือ inverse ของงานขุดนั่นแหละ)

ส่วนวิธีการก็มีหลากหลายแบบครับ

ว่ากันไปตามพื้นที่และสภาพดินว่าจะลงเข็มหรือทำเป็นแบบตีนเป็ดดีครับ

ตามท่านบนเลยครับ เดี๋ยวจะเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย

ต้องบอกแบบนี้ครับ ที่มันเป้นที่ ศปก อยู่บ้านนอกสุดๆ พอดีผมเห็นส่วนใหญ่ที่นั้นเขาทำกันแบบว่านายช่างทำให้น่ะครับ ถ้าความเป็นจริงตามกฎหมายจะเป็นอะไรไหมครับ กะสร้างบ้านไว้อยู่เองน่ะครับ ของพวกนี้เราเรียน และศึกษา คำนวณเองได้ไหมครับ เอาถูกหลักแต่ไม่อยากไปทำเรื่องวุ่นวายน่ะครับ

ไม่รู้ที่ดินกว้างแค่ไหน ถ้ากว้างมากก็ใช้ปรับ slope และปลูกพืชคลุมดินแทนการใช้กำแพงกันดิน
ดินถมสูง 2.5 เมตร ก็ระยะปรับ slope สัก 5 เมตร (1:2)


เรื่องพวกนี้เรียกรวมๆว่า slope stability จะใช้กำแพงกันดิน, gabion wall, open slope ได้ทั้งนั้น

พอบอกว่าเรียน ศึกษา คำนวณเองได้นี่ยาวมากเลยนะครับ (เนื้อหา part นี้มาจาก Soil Mechanics กับ Foundation Engineering ถ้าเรียนก็คือใช้เวลา 1 ปีครับ ตามหลักสูตรวิศวกรรมโยธา 4 ปี หรืออย่างเร็วก็เทอมนึง ถ้าอ้างอิงจากหนังสือ soil mechanics ของ Terzaghi ครับ)

มันมีเงื่อนไขเยอะมาก (แล้วดินคือวัสดุที่ไม่ใช่ isotropic (คุณสมบัติของวัสดุคงที่) อีก ไม่เหมือนเหล็ก คอนกรีต หรืออย่างแย่ๆก็ไม้)
- ชนิดของดินที่ถมและดินเดิม
- ความหนาแน่นดิน
- น้ำหนักที่มากระทำ
- วัสดุที่จะใช้ทำกำแพงกันดิน
- วิธีการก่อสร้าง
- ระยะ setback จากแนวที่ดิน (เรื่องนี้ถึงจะดูไม่สำคัญ แต่ทำชิบหายมาเยอะแล้วนะครับ และน่าจะหนักกว่าเรื่องหลักการวิศวกรรมอีก)

ถ้าเอาง่าย+เร็ว ลองไปหาบ้านที่เคยทำ (ใกล้ๆบ้าน จขกท) แล้วถามเขาว่าเขาทำยังไงครับ (นี่อาจจะเป็นวิธีที่ง่ายและใกล้เคียงที่สุด แต่ก็ไม่ 100% นะครับ เพราะอย่างที่ผมบอก ดินเป็นวัสดุที่ไม่ใช่ isotropic ระยะห่างกัน 2-3 เมตร ผลลัพธ์คนละเรื่องก็มี)

ขอถามเอาความรู้นิดนึงครับท่าน ผมเคยรับงานจากออฟฯนึง เค้าชอบดีไซน์ฐานรากแผ่ ลงเข็มสั้น เค้าให้เหตุผลว่า ลงกระจายๆไปให้มันทรุดก็ทรุดพร้อมๆกัน

ท่านมองว่าอย่างไรบ้างครับ (แบบหลุมนึงมีเข็มประมาณ 4ต้นขึ้นไป สแปนเสาปกติ4เมตร)

ผมว่าไม่จบง่ายๆ อ่ะ ถ้าไม่ได้ชวนเจ้าของที่ข้างๆ มาคุยก่อนทำ ตอนนี้อาจจะยังไม่มีปัญหา
แต่หน้าฝนผมว่ายาวอ่ะ ไม่จบง่ายๆ

อันนี้เห็นด้วยครับ อาจจะต้องเสียเงินจ้างรถไถมาปรับ slope อีกรอบแถมยังพอมีเวลาก่อนจะถึงหน้าฝนปีหน้า
แต่ก็ไม่เสียงกับกำแพงถล่มหรือดินสไลด์ลงที่นาข้างๆ แน่นอนครับ

2.5 เมตร สูงมาก ส่วนตัวคิดว่าสูงเกินไป
ถ้าน้ำท่วมจริงๆ ก็ทำอะไรไปไหนไม่ได้อยู่ดี เสียค่ากำแพงกันดินซึ่งแพงมากกกก

ถ้าตัดเรื่องนั้นออกต้องเอาโจทย์ที่กว้างกว่านี้มาครับ
ไม่ใช่ว่าโยนโจทย์มาจะทำกำแพงกันดิน จบ
เพราะงานวิศวกรรมอย่างที่ คห บนๆ บอก มันมีวิธีเสริม stability หลายทางมากกก
ทางที่ถูกสุดก็อย่างที่ คห บนๆ บอก คือทำ slope เท่ากับ internal friction angle ของดินเอง

ทางอื่นๆ ก็มีอีกเพียบ แต่แพงถึงแพงมาก และควรใช้วิศวกร"ที่ชำนาญ"คำนวน
พวกวิศวกะ/นายช่างใหญ่ประจำพื้นที่ อยู่ให้ห่างๆ เพราะแพงแล้วอาจจะแถมพังมาให้ด้วย

ตอบให้ครับ ต้องดูว่าติดน้ำไหม น้ำท่วมรึป่าว ดินอ่อนแข็งไหม(อันนี้ดูได้จากพื้นที่บริเวณรอบๆ)
1.ถ้าที่กว้าง ไม่ต้องทำกำแพงก็ได้ แค่ตัดslope ให้ประมาณ 1/1.5 หรือ ชัวร์สุด 1/2.5
2.ถ้าจะทำกำแพงกันดิน ส่วนใหญ่มักจะทำรั้วขึ้นไปด้วย ถ้ารั้วสูง 3 เมตร ก้ต้องเว้นระยะตามกฏหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ทำคานคอดินและรั้งเสตย์ที่ราวๆ 3 เมตรครับ

กำแพงกันดิน ราคาสูงมากๆ เมตรละ 3,000-5,000+
ถ้าที่ข้างๆเป็นนา ไม่ได้ซีเรียสมากทำ slope ดีกว่าครับ

.