จากมู้ ท่านไหนเคยได้งาน แต่พอเข้าไปคือต้องไปรับงานต่อจากคนเก่าที่ทิ้งบอมบ์เอาไว้
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2217357

เลยขอสอบถามต่อเนื่องว่า ถ้าเราเข้าไปทำงาน แล้วเจอว่างานที่เราต้องรับผิดชอบที่ค้างอยู่มีเยอะมากๆ
หลายงานก็มีปัญหา แก้ยากมากๆ ถ้าเราขอย้าย ขอลาออก โดยภารกิจที่รับผิดชอบไม่เสร็จ
แบบนี้ถือว่าหนีปัญหา หรือเป็นสิ่งที่ไม่ดีมั้ย

เพราะผมเคยไปรับงานที่นึง ปรากฎว่ามีงานในความรับผิดชอบโคตรเยอะ
ส่วนมากร้อยละ 80 คืองานที่คนก่อนทำไม่เสร็จ

ช่วงนั้นก็ตั้งใจทำงานมาก เลิกงาน 2-3ทุ่ม หอบกลับไปทำบ้านต่อถึงเที่ยงคืน
เสาร์ อาทิตย์ ก็ทำงานตลอด
ผ่านไปหลายเดือน งานค้างเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีค้างเยอะมากๆอยู่ดี
แต่ข้อดีอย่างน้อย คือ งานเสร็จมีมากกว่างานเกิดใหม่ในแต่ละเดือน
แต่คิดว่าไม่ไหวละ ก็ขอย้ายที่ทำงาน
ทั้งที่สภาพแวดล้อมการทำงานตอนนั้นก็ดีนะ เพื่อนร่วมงานดี หัวหน้าดี

แล้วก็เหมือนทิ้งงานให้คนมารับช่วงต่ออีกที เหมือนทายาทอสูร

ถ้าค้างขนาดนั้นผมว่าการบริหารจัดการห่วย งานๆนึงที่มาโหลดอยุ่ที่คนๆเดียว
ต้องหอบมาทำที่บ้าน เสาร์อาทิตย์ยังต้องทำ work life balance จบเห่ ไม่ยั่งยืนแบบนี้

ผมเคยทำบริษัทที่งานโหลดแบบนี้แหละ จนวันนึงเราไม่ไหว เราก็บอกไปเลย ทำไมผมทำเยอะจังครับ
สุดท้ายเขาก็กระจายไปให้คนอื่นบ้าง และก็รับคนมาเพิ่ม
แต่เราก็จะได้สกิลกับจัดการงานโหลดๆแบบนี้มาเหมือนกันนะ การทำงานหนักๆแบบนี้ผมว่ามันควรเป็นแค่ช่วงๆนึงของชีวิตพอ ทำหนักตลอดไม่ไหว ตายผ่อนส่งแท้ๆ

ก็ที่เขารับเรามาทำงานก็เพื่อมาแก้ไขปัญหา ถ้างานมันไม่มีปัญหาเขาคงไม่รับเรามา

ผมนี่แหละ ที่ที่เพิ่งออกมาตอนแรกเขา offer เงิน อะไรต่างๆมาอย่างเยอะ เลยตกลงเข้าไปทำ พอเข้าไปเจอปัญหาทั้งงานโหลด งานค้างล่าช้ากว่าแผนโคตรๆ ไปถึงเขาก็จ่ายงานมาให้ผมรับผิดชอบแบบหลายส่วนมาก แต่ผมไม่มีปัญหานะ ทำได้ แต่พอทำไปทีละจุดๆ สงสัยเห็นผมทำได้ ก็จ่ายงานมาเพิ่มเรื่อยๆ จนพวกลูกน้องในทีมผมมันยังถามว่าทำไมเขาให้พี่รับผิดชอบงานเยอะจัง วันๆแทบไม่ได้ว่างพักหายใจ ไล่เคลียร์งานจุดนู้นจุดนี้ ทีมนู้นทีมนี้ทั้งวัน

เข้าไปทำได้อยู่สองเดือน ก็ดีขึ้นมาหน่อย งานเดินตามแผนมากขึ้น เทสและส่งมอบงานได้บางส่วน แต่ % ก็ยังไม่ทันตาม s-curve ละจู่ๆก็โดน PM มาด่าแบบงงๆว่าทำไมทำงานช้า งานส่วนนี้หลายเดือนแล้วทำไมมันยังไม่เสร็จมัวทำไรอยู่ (กูเพิ่งเข้ามาได้สองเดือน รับผิดชอบงานส่วนนี้ได้เดือนกว่าๆ )

ผมก็ออกแม่งวันนั้นเลย ไม่คุย ไม่เจรจาอะไรทั้งนั้น

ทุกวันนี้ก็มาได้ที่ใหม่ เงินน้อยกว่านิดนึง ราวๆ 10% แต่ใกล้บ้านกว่าเดิมสองเท่า วันหยุดเยอะ งานอย่างชิว สบายใจกว่ากันเยอะ

ผมลาออกปีนี้เป็นร้อยๆรอบ เจ้าของบริษัทไม่ให้ออกสักที จะหนีไปเฉยๆก็ไม่ได้อีกเป็นป้าเมีย

งานที่ผมได้รับ คืองานหัวหน้าคนเก่าทิ้งไว้ผ่านมา3ปีผมทำจนเป็นงานของผมโคตรเหนื่อย

อีกที่นึงเสนอให้ผมเงินเดือนมากกว่านี้2เท่า ขอออกก็ไม่ให้ออกเซ็ง

ขอบคุณครับ แสดงว่าผมปกติละ

มันอยู่ใน JD ของเรามั้ยล่ะ? นี่คือเงื่อนไขง่ายๆที่เราต้องถามตัวเอง

งานค้างถ้ายังอยู่ในกรอบนั้นอาจจะต้องทำไปก่อน ถ้าโหลดมากต้องขอเวลาในการเคลียร์

การนำงานกลับไปทำที่บ้าน หรือทำนอกเวลามากๆ ไม่ใช่ทางออกหรอกครับ

ผมเองถูกบริษัทใช้งานนอก JD มานาน ทั้งที่มีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว

แลกมากับการรู้สึกเป็นที่โปรดปรานลวงตากว่า 10 ปี

ผมขอขึ้นเงินเดือนเขาบอกตาม JD ของผมยังไม่สมควรขึ้นมากไปกว่านี้

ตอนนี้ผมบอกปัดงานทุกอย่างที่ไม่ได้อยู่ใน JD ของผม

ตอนผมย้ายออกมาก็งานเยอะ ทิ้งไว้ด้วย คนมาแทนก็ไม่มี งานใหญ่ๆในอนาคตก็เยอะด้วย แต่ผมถือว่าผมอยู่มา 4 ปีแล้ว งานที่ทำตรงนั้นก็ไม่ได้ช่วยต่อยอดทักษะที่ผมมีเลย โคตรไม่ถนัด หมดอนาคตแน่ถ้าอยู่ต่ออีกก เลยดิ้นรนหาทางย้ายออกมาจนได้ สุดท้ายจะว่าอะไรก็ว่าไป เราได้สิ่งที่เราต้องการ

ผมคงทำไปก่อนแล้วบอกหัวหน้างานตรงๆ ว่างานมันโหลดมากเกินไป ลำพังผมทำคนเดียวไม่ไหวหรอก
ถ้าแจ้งปัญหาแล้วหัวหน้าไม่แก้ปัญหาให้ ผมก็ลาออกแม่มเลย

ผมเคยบอกหัวหน้าเพราะเหตุผลนี้ หัวหน้าไม่รับคนมาช่วยอีก วันๆ นึงผมนอนดึกมากจนสุขภาพจิตเสีย สุดท้ายหัวหน้าบอกบุคคลว่าที่ผมงานเยอะเพราะรับงานมาทำเอง คือแบบว่า ไม่ทำใครจะทำก็งานผมทั้งนั้น ผมออกมาแล้วชีวิตดีขึ้นมาก เสาร์ อาทิตย์ไม่ต้องกังกวลว่าจะมีใครโทรมาตามงาน

งานโหลดนี่เคลียกับหัวหน้าก่อน

แต่ถ้าแจ้งแล้วไม่แก้ ก็ลาออกเลย ลำดับมีแค่นี้

ปฏิเสธรับงานครับ

บริษัทสมัยนี้ไม่ใช่ว่าทำงานเก่งแล้วจะชมนะครับ

จะให้เพิ่มเรื่อยๆ จนทนไม่ไหว

ถ้ามันเกินjdหรือเกินworkloadที่เคยคุยกันก็ปฏิเสธไป