[RE: มีพระรูปไหนสอนธรรมง่ายๆไหมครับ]
babyboom พิมพ์ว่า:
babyboom พิมพ์ว่า:
ถ้าสอนวิธีปฏิบัติให้เข้าใจง่ายลงรอยกับปริยัติ ผมว่า อ.ปราโมทย์ วัดสวนสันติธรรมครับ อาจเป็นเพราะว่าท่านเรียนทางโลกสูงด้วยเลยรู้ว่าคนทำงานคิดอย่างไร ต้องอธิบายอย่างไรจึงจะเข้าใจ ทางโลกท่านจบรัฐศาสตร์จุฬาครับ
ผมอ่านพุทธประวัติไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าชายสิทธัตถะเรียนสมาธิกับสองดาบสจนได้ฌาน 8 ทำไมถึงไม่ตรัสรู้ ทำไมย้อนระลึกไปถึงฌาน 1 ที่ได้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้วเริ่มปฏิบัติใหม่ทำไมจึงตรัสรู้ได้ อ.แราโมทย์ท่านอธิบายเรื่องสมถะสมาธิกับวิปัสสนาสมาธิให้เข้าใจว่า 2 อย่างนี้ต่างกันอย่างไร และผู้ปฏิบัติมักพลาดตรงไหน
หรือปฐมเทศนาที่พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องอริยมรรคมีองค์ 8 ที่คนส่วนมากตีความเละเทะไปหมดเรื่องการใช้ชีวิต ผมก็สงสัยว่าพระพุทธเจ้าเทศน์เรื่องการใช้ชีวิตให้นักบวชผู้สละโลกอย่างปัญจวัคคีย์ฟังไปทำไม อ.ปราโมทย์ก็อธิบายให้ฟังค่อนข้างละเอียดว่ามรรค 8 เป็นวิธีปฏิบัติไปตามลำดับตั้งแต่มีสัมมาทิฏฐิก่อน เรื่อยไปจนทำให้เกิดสัมมาสมาธิได้ แล้วจึงใช้สัมมาสมาธินั้นพิจารณาธรรมให้เกิดความรู้แจ้ง
สมัยก่อนผมชอบฟังหลวงพ่อพุธ หลวงปู่สิม หลวงปู่ชา หลวงพ่อฤาษี แต่เดี๋ยวนี้ฟัง อ.ปราโมทย์เป็นหลัก เป็นพระที่ผมไม่เคยไปฟังธรรมที่วัด แต่นับถือและฟังท่านเทศน์จาก youtube ทุกวัน
เพิ่มเติมถึงคนที่ไม่ฟังบ้าง
ไม่ฟัง ว. เพราะคำคมเยอะไป เทศน์แต่เรื่องดาดๆ ทางโลก หาอะไรที่เป็นธรรมะไม่ค่อยเจอ ผมให้อยู่เกรดเดียวกับสมปองตอนยังเป็นพระคือหาสาระธรรมไม่ค่อยเจอเหมือนกัน แต่ถูกจริตคนฟังเลยมีคนชอบเยอะแล้วไปเข้าใจว่าศาสนาพุทธสอนแค่นี้ จริงๆ ท่านพูดแต่เรื่องใบไม้นอกกำมือทั้งนั้น
ไม่ฟัง คึกฤทธิ์ เพราะตีครูบาอาจารย์ทุกรูป ยกตนข่มท่านว่าตัวเองเชี่ยวชาญพุทธวัจนะ เวลาพูดถึงพระอรหันต์ในครั้งพุทธกาลก็เรียกแบบขาดความเคารพ อย่างเช่นพูดถึงพระสารีบุตรก็จะเรียกว่าสารีบุตรเฉยๆ ทำเหมือนเป็นคนระดับเดียวกัน หรือทำเหมือนตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าเรียกชื่อพระสาวกแบบนั้น ตอนไปโปรดปัญจวัคคีย์ ปัญวัคคีย์เรียกพระพุทธเจ้าว่าสมณโคดม คือ สมณะจากตระกูลโคตมะ มีคำว่าสมณะนำหน้า เทียบกับสมัยนี้คือใช้คำว่าพระต่อด้วยชื่อ พระพุทธเจ้ายังตรัสเลยว่าอย่าเรียกเราด้วยชื่ออย่างนั้น เราเป็นผู้ตรัสรู้โดยชอบแล้ว เป็นการเรียกชื่อที่ขาดความเคารพ
ไม่ฟัง สุจินต์ สมัยก่อนตอนศึกษาธรรมะใหม่ๆ เคยคิดว่าคนนี้รู้ธรรมะลึกซึ้ง แต่พอฟังมากๆ ก็ไม่ไหว เหมือนฟังพวกเดียรถีย์ในครั้งพุทธกาล คือพวกนี้มีธรรมเนียมเรียนคัมภีร์จนท่องจำขึ้นไป แล้วก็ชอบไปรวมกลุ่มตามชุมนุมชนแล่วก็ท้าคนอื่นโต้วาทะกัน คือเถียงเอาชนะกันด้วยคารม คนนี้ก็มีอาดาริย่างนี้เลยคือกดข่มเอาชนะคนอื่นด้วยวาทะ เป็นพวกใบลานเปล่า ท่องคัมภีร์จนเต็มท้องแต่ไม่ได้ปฏิบัติ
ผมนี้โคตรปราบปลื้มเลย ที่มีคนหลุดออกมาจากมิจฉาทิฐิได้ มันยากนะ ยิ่งคนที่เขากำลังฟังการสอนแบบของคนเหล่านี้อยู่แล้วเราไปเตือนเขา เขาเถียงเราด่าเรายับเลยนะ
สาวกของพุทธวะ-จน นี้ก็ด่าหลวงปู่มั่นด่าสมเด็จโต ด่าพระอานนท์แต่งคำสอนใหม่ ด่าคนภาวนาพุทโธไปนรก ด่าคนไหว้พระพุทธรูปไม่ดี
ไม่มีแม้แต่ทิพยจักขุญานไปดูความจริงกันเลย ตัดสินกันไปแล้ว
ทำไมหนอคนพวกนี้ถึงชอบสร้างวจีกรรมให้แก่ตนเอง
สุจินต์นี้ ผมเห็นใจคนที่มีโอกาสได้ถามตอบกัน เขาต้องการหาคำตอบเพื่อคลายสงสัย ไปตอนให้เขาจนมุม กดดันให้เครียด ทั้งๆที่ธรรมะ ให้กันแล้ว ต้องมีความเบิกบานใจนะนั้น