ไม่ต้องพระเฉยๆก็ได้ พวกนักธรรมอะไรพวกนี้ ขอคนที่พูดสอนเข้าใจง่าย (ถึงเขาจะปฏิบัติตนตามที่สอนได้หรือไม่ได้ก็ตาม)
เคยฟังของ ว.วชิระ ก็ยาอยง่ายดี แต่ก่อนฟังมหาสมปองฟังเอาตลกเฉยๆ ช่วงนี้ปลงๆเหนื่อยๆอยากหาอะไรฟังสบายๆ

บุดด้า...เบลส

ไฟเยอร์ๆ ๆ ...

อาจารย์แดง แต่ไม่ใช่พระนะ

อาจารย์แดง ธรรมะแท้ไม่มีคำปลอบใจ

ท่านพุทธทาสครับ ตรงไปตรงมา

แพรรี่ ไพรวัลย์
เจ้ธัมมี่
โตโน่

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ วัดชลประทานฯ ครับ

พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ธรรมะของจริงเข้าใจง่าย ตั้งแต่ขั้นประถม ถึง ป.เอกเลย

ส่วนตัว
พระอาจารย์ชยสาโร ครับ ท่านเป็นต่างชาติที่เทศน์สอนได้เข้าใจง่าย
พระอาจารย์ปราโมทย์ ก็ย่อยไม่ยากมากครับ

ธรรมะ มันจะมีอะไรยากครับ
ศาสนาพุทธ focus ที่ 3 คำก็พอ

ศีล สมาธิ ปัญญา

ถ้าคิดว่า 3 คำยังเยอะไป ผม zip ให้เหลือสั้น ๆ คำเดียวคือ สติ

จริง ๆ คุณต้องรู้เป้าหมายของธรรมะในพุทธศาสนาก่อนคือการหลุดพ้น
หลุดพ้นไม่ใช่หลุดการการเวียนว่ายตายเกิดนะ

อย่าไปยึดมั่น ถือมั่นกับ พระไตรปิฏกที่ผ่านการ revise มาในยุคต่าง ๆ ที่เคลือบมาทั้งการเมือง การปกครอง และการอยู่รอดจากการกวาดล้างศาสนาให้มากนักเลย

มันไม่มีหรอกเวียนว่ายตายเกิดในพุทธศาสนา
ผมไม่เชื่อว่า คำสอนของสิทธัตถะ จะเป็นงูกินหางทางเหตุผล ที่ข้อ 10 จะค้านกับข้อ 1
เพราะงั้นการหลุดพ้น มันคือปัจจุบันนี่แหล่ะ



มีสติ เพื่อการปล่อยวาง

แค่นั้นเลยจริง ๆ

พอพูดถึงว่า มันคือการปล่อยวางแล้ว
ก็กลับมา focus ต่อว่า สุดท้ายแล้วศาสนาพุทธมันคือเรื่องของความเป็นปัจเจก

มันเป็นเรื่องส่วนบุคคล บางคนอ่านหนังสือเล่มเดียวก็คิดได้ บรรลุได้
บางคนอ่านทั้งห้องสมุดก็ยังคิดไม่ออก
มันขึ้นอยู่กับว่า หนังสือเล่มที่เลือกอ่านมาจากไหน, ระดับการรับรู้และประสบการณ์ชีวิตที่ support การคิดได้มีมากน้อยเท่าไหร่

พอมันเป้นปัจเจก มันก็เลยมีปัจจัยที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
เลือกหนังสือให้ตรงจริตกับเรา, หยิบเอาแง่มุมต่าง ๆ มาประยุกต์ได้

อ่านไปเถอะ อ่านไปเรื่อย ๆ
บางทีความเบื่อหน่ายจาก content สั่ว ๆ อาจจะสร้างปัญญาและหาโอกาสได้เอง
(เหมือนคนเบื่อเมีย, เลยหนีมาบวชจนค้นพบวิธีปล่อยวางนี่แหล่ะ)

เดี๋ยวก็คิดต่อได้ครับ

focus แค่สติก็พอ สุดท้ายเราทำทุกอย่างเพื่อไอ้ตัว สติ ล้วนๆ

หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง

ง่ายทั้งสองท่าน แสดงธรรมโดยละเอียดด้วย ฟังเป็นชั่วโมงก็ไม่เบื่อ

บนๆแนะนำพระอาจารย์ชยสโร พระอาจารย์คึกฤทธิ์ แล้วก็มีของพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ท่านพูดเรื่องวิธีรับมือกับความตายดีครับ

สำหรับผมมานอกจากหลวงปู่ชาที่สอนได้ดี บ้านเราไม่มีใครเข้าใจแก่นศาสนาพุทธเท่ากับพุทธทาสซักคน แต่ถ้าอยากรู้พุทธจริงแบบภาษาคนไปฟัง YouTube พุทธธรรมของ อ.ลอย(ฟังได้ถึงจะไม่ทั้งหมด) อยากเข้าใจแนวคิดเชิงวิชาการว่าไปฟัง อ.สมภาร พรมธา

พุทธแท้ ไม่มีกฐิน ไม่มีบวชนาค ไม่มีบูชายัน ไม่มีกราบไหว้อฐิฐานขอบุญกุศล ไม่มีบาปบุญ ไม่มีเวรกรรมเก่าตามสนอง ไม่มีชาตินี้ชาติหน้า ไม่มีผีวิญญาณ(อาตมัน)

พุทธแท้คือเรื่องของสภาวะจิต มีกฎที่ต้องเข้าใจเรื่อง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การเรียนรู้ว่าขันธ์ไม่ใช่ตัวตน มรรคแปดคือทางหลุดพ้น นิพพานคือสภาวะเข้าถึงธรรม ได้ตอนเป็นไม่ใช่ได้เมื่อตาย

ถ้าสอนวิธีปฏิบัติให้เข้าใจง่ายลงรอยกับปริยัติ ผมว่า อ.ปราโมทย์ วัดสวนสันติธรรมครับ อาจเป็นเพราะว่าท่านเรียนทางโลกสูงด้วยเลยรู้ว่าคนทำงานคิดอย่างไร ต้องอธิบายอย่างไรจึงจะเข้าใจ ทางโลกท่านจบรัฐศาสตร์จุฬาครับ
ผมอ่านพุทธประวัติไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าชายสิทธัตถะเรียนสมาธิกับสองดาบสจนได้ฌาน 8 ทำไมถึงไม่ตรัสรู้ ทำไมย้อนระลึกไปถึงฌาน 1 ที่ได้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้วเริ่มปฏิบัติใหม่ทำไมจึงตรัสรู้ได้ อ.แราโมทย์ท่านอธิบายเรื่องสมถะสมาธิกับวิปัสสนาสมาธิให้เข้าใจว่า 2 อย่างนี้ต่างกันอย่างไร และผู้ปฏิบัติมักพลาดตรงไหน
หรือปฐมเทศนาที่พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องอริยมรรคมีองค์ 8 ที่คนส่วนมากตีความเละเทะไปหมดเรื่องการใช้ชีวิต ผมก็สงสัยว่าพระพุทธเจ้าเทศน์เรื่องการใช้ชีวิตให้นักบวชผู้สละโลกอย่างปัญจวัคคีย์ฟังไปทำไม อ.ปราโมทย์ก็อธิบายให้ฟังค่อนข้างละเอียดว่ามรรค 8 เป็นวิธีปฏิบัติไปตามลำดับตั้งแต่มีสัมมาทิฏฐิก่อน เรื่อยไปจนทำให้เกิดสัมมาสมาธิได้ แล้วจึงใช้สัมมาสมาธินั้นพิจารณาธรรมให้เกิดความรู้แจ้ง

สมัยก่อนผมชอบฟังหลวงพ่อพุธ หลวงปู่สิม หลวงปู่ชา หลวงพ่อฤาษี แต่เดี๋ยวนี้ฟัง อ.ปราโมทย์เป็นหลัก เป็นพระที่ผมไม่เคยไปฟังธรรมที่วัด แต่นับถือและฟังท่านเทศน์จาก youtube ทุกวัน