1.คนไทยเงี่**บุญน้อยลง เพราะเริ่มมองภาพใหญ่ของปัญหาออกแล้ว
2.โนไม่ใช่ตูน
3.มันมีคนเคยทำแล้ว ดังมาก่อนแล้ว ของใหม่มันไม่มี novelty แล้ว

ตอนพี่ตูนผมก็ไม่อินนะ

ผมเป็นคนนึงที่ไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งที่ตูนทำมาตลอด แล้วแฟนคลับบอดี้สแลมนี่พูดเลยว่าแตะต้องไม่ได้

แค่ในบอร์ดนี้ผมเคยบอกว่าเล่นกีต้าร์สู้ frontman วงที่เค้าเล่นกีต้าร์เป็นหลักไม่ได้หรอก เน้นถือไว้เท่ๆเท่านั้น โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ โดนด่าว่าไม่รู้เรื่องดนตรี ต้องยอมอ่ะ เก่งไร้ที่ติจริงๆ



ยิ่งเรื่อง"วิ่งทำความดี"ยิ่งแทบ เคยแซะในเฟสบุ๊คตัวเองไปทีนึงแทบจะจมดิน มีเพื่อนคนนึงมาด่าผมว่าทำตัวเป็นสลิ่มเพราะแซะพรี่ตูนด้วยนะ ทุกวันนี้ก็คงเขินๆหน่อย

หลายคนก็คิดอะไรตื้นเขินเกินไป เราเสียภาษีปีนึงๆเงินไปไหนหมด ไม่ตั้งคำถามว่าทำไมเราต้องบริจาคเพื่อสิ่งจำเป็นเหล่านั้นอีก


ยุคนักวิ่งนี่โปรโมทแบบโปรโมทชิบหาย ยิงแอด รับบริจาคทุกช่องทาง เงินสด โทรไป โอนเงิน เค้าท์เตอร์เซอร์วิส กล่องบริจาคมีทุกห้าง เห้ย การกุศลมีเงินโปรโมทขนาดนี้เลยหรอ งั้นให้พวกเจ้าสัว 1% ทั้งหลายบริจาคดีกว่ามั้ย?

คนมันไม่อินอะ กะแค่ประโยคว่า หมอพยาบาลเสี่ยงกว่าผมอีก แค่นี้ก็รู้ละว่าแม่งพูดไปเรื่อย เกี่ยวไรกันวะ

มันถึงยุคที่คนไม่อินกับการทำกิจกรรมขอเงินแล้วครับ
เพราะทั้งเรื่องเศรษฐกิจกับคนมองภาพรวมกันออกแล้วด้วย
ยกเว้นเรื่องบริจาคสิ่งที่จำเป็นอย่างเลือดหรือปัจจัยสำคัญที่คนพร้อมให้ความช่วยเหลือ

แต่ก็มีกรณีที่ยกเว้นอย่างเด็กกตัญญูที่คนเต็มใจให้
แต่มาวิ่งมาว่ายน้ำขอเงิน คนคงไม่ค่อยให้เหมือนเดิมแล้ว

เอาตามเนื้อหาจริงๆนะ
1.ว่ายข้ามแม่น้ำโขงตอนนี้เสี่ยงตายมาก เรือเล็กเขายังเลี่ยงๆเลย เขาเลยบอกว่ามีวิธีอื่นเยอะแยะ
2.เตือนไม่ฟัง ดื้อด้าน อันเนี้ยสาเหตุที่ทำให้โดนด่าเยอะสุด คนจากหลายๆวงการเริ่มวิจารณ์มากขึ้นเรื่อยๆ
3.ถ้าตายหรือสูญหายขึ้นมา ลำบากบุคลากรอีกนะ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย

ถ้าถามว่าทำไมไม่อินเท่าพี่ตูน
1.อิงจากข้างบน วิ่งมันไม่เสี่ยงเท่าว่ายน้ำ กระแสต่อต้านเลยน้อยกว่า
2.ตอนพรี่อูนทำ คนยังเห็นภาพรวมไม่ชัด ทั้งทีมงานว่าต้องใช้ใครบ้าง ผลลัพธ์คืออะไร แต่ตอนนี้เราเห็นหมดแล้ว ละโตโน่กำลังจะตามรอยแบบเดียวกัน
3.ยุคนั้นแม้จะก่อนวิ่งพรี่อูนก็อยู่ใน Position ที่ดีมากๆในสังคมไทยอยู่แล้ว เป็นไอดอล เป็นแรงบันดาลใจ พอคนคิดต่อจากตรงนั้นมันก็คือฮีโร่ดีๆนี่แหละ ตัดภาพมาที่โตโน่ เอ็งมีอะไรบ้างเนี่ย ตั้งแต่กปปส.นับคำพูดเสร่อได้เยอะมาก ละตอนนี้ก็ยังจะดื้อดึงทำไรเสร่อๆอีก


ส่วนตัวคือไม่ว่าใครเป็นคนทำและทำเพื่ออะไรก็ตาม การว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงเป็นอะไรที่ปัญญาอ่อนมากๆ

สำหรับผมมองแบบพื้นๆนะ
การวิ่ง กับ ว่ายน้ำ มันต่างกัน
วิ่ง ดูเป็นการทำที่ง่ายกว่า
ให้ไปว่ายน้ำ ข้ามอะไรก็ไม่รู้มันดูไม่สมเหตุผลเท่าไร

ปล.คนแบบ ตูน โตโน่ ผมเข้าใจในมุมแกนะ มีความต้องการชนะใจตัวเองแหละ
แต่มันต้องเอาความต้องการตัวเองไปผูกกับอะไรสักอย่าง ผมคิดว่าผมเคยเป็นแบบนี้
ทำอะไรยากๆ โดยตัวเองมองว่าถ้าทำได้มันก็สุดยอด ชนะใจตัวเอง
แต่ก็เอาสิ่งที่ทำไปผูกกับ Object อะไรสักอย่าง
ซึ่ง 2 คนนี้ มี Object คือ การให้ทุกคนมองว่า ผมมาทำบุญ

1. โตโน่ คือ เป็นส่วนนึงของสารตั้งต้นของความชิบหาย ที่เกิดกับการเมืองและสังคมบ้านเรา

2. โตโน่ ไม่ได้มีภาพลักษณ์ให้คนเอ็นดู หรือ สงสาร

3. ไร้สาระ คำตอบเดียวกับที่พี่ตูนทำรอบ 2 ....คือ ด้วยบริบท ความมีชื่อเสียง ของเขา มีวิธีที่หาเงิน หรือเป็นกระบอกเสียงได้มากกว่าการมาทำตัวเป็น ขอทานใจบุญ แบบนี้ครับ ...

ตอนพรี่อูนไปเม้นแค่ว่าเป็นนักบุญทุนชาวบ้านโดนโถมจนปิดเฟสหนีไปพักนึงอ่ะครับ

1.กิจกรรมที่ทำ อันนี้ผมว่าหนักสุดๆแบบไม่ต้อง bias คือ จะโตโน่โตไหน ไปว่ายน้ำข้ามโขงตอนนี้ ชาวบ้านก็ด่าทั้งนั้นหละผมว่า

อยู่ดีไม่ว่าดี มันไม่ใช่กิจกรรมที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ หรือเป็นแรงบันดาลใจอะไรให้เยาวชนเลย

อย่างพี่ตูนวิ่ง ถ้าเยาวชนลอกเลียนแบบ ออกมาวิ่งด้วยเหมือนกัน ผมว่ามันยังส่งผลดีนะ (แค่อย่าไปวิ่งกลางถนนก็พอ)

แต่ถ้าเยาวชนไปเลียนแบบ ไม่ต้องว่ายน้ำข้ามโขงหรอก ว่ายน้ำข้ามคลอง ว่ายน้ำแบบไม่มีผู้ดูแลและอุปกรณ์ที่เหมาะสม

โคตรรอันตรายเลยนะ แล้วไทยนี่มีเหตุเด็กและเยาวชนจมน้ำตายเยอะมากๆ ไม่ควรจะเอากิจกรรมอะไรแบบนี้มาเสนอต่อสังคมเลย

2.เคยเป่านกหวีด อันนี้ถ้าคนที่ไม่ชอบเรื่องนกหวีดอยู่แล้ว ต่อให้โตโน่ไปทำอะไรก็คงโดนแซะอยู่ดี ทำใจฮะ ภาพมันอยู่ในปวศ.ไปแล้ว

มันไม่ใช่เวลาอะ

โควิดเพิ่งจะซา แกก็จะดันทุรัง

ถึงตัดเรื่องสลิ่มไป ยังไงก็อินน้อยกว่าอยู่ดี คนนึงวิ่งมาทั้งชีวิต วันนึงเลยจะวิ่งจากใต้สุดไปเหนือสุด มันเลยเข้าใจได้ ไม่ได้เสี่ยงตายอะไรเลย ค่ำไหนนอนนั่น มากสุดร่างกายไม่ไหวก็แค่พัก แต่อีกคนไม่รู้นึกอะไรขึ้นมา ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงเนี่ยนะ? ถึงจะมีเซฟตี้ก็เถอะ แต่แม่งโคตรไม่ใช่เรื่องเลยจริงๆ

คือตูน เขาวิ่งมันไม่ได้ทำให้คนอื่นเสี่ยงและเดือดร้อนไปด้วยไง หมอเขาสามารถขี่รถตามได้ แต่นี้่ว่ายน้ำ คือหมอกับกู้ภัยเขาก็ต้องนั่งเรือตามป่ะ แล้วถ้าเกิดอะไรขี้นมาเขาก็ต้องลงน้ำไปช่วยมีสิทธิโดนน้ำพัดไปด้วยกันอีก น้ำโขงนะคุณ ทรายดูดอย่างเยอะ และดินมันไม่ได้สโลบลงแบบหาดทะเลนะ มันเป็นหลุมลงไปเลย ผมเคยไปเล่นน้ำโขงทีหนึ่งคือโดนทรายดูดเกือบจมลงไปในหลุมอะ

เหมือนแกเลอะเทอะอ่ะ เจตนารมย์มั้นคนละอย่างเลย ตูนนั่นวิ่งเพื่ออยากให้การออกกำลังกายเป็นกระแส เลยชวนกันออกมาวิ่ง ส่วนโตโนนี่ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงเพื่ออออออ

นักวิ่งยังดูดีกว่านะ อย่างน้อยก็ช่วยให้คนสนใจออกกำลังกาย


นักว่ายน้ำ ว่ายทำเพื่อ ภาระชิบหาย