[18+] แชร์ประสบการณ์ หัวล่างนำหัวบนกันครับ
จากมู้นี้
https://www.soccersuck.com/boards/topic/2183994/2/#48386066
พึ่งรู้ว่ามีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เยอะเหมือนกันแฮะ เอาเป็นว่าเแชร์ละกันครับ เผื่อเพื่อนร่วมอุดมการจะนำไปเป็นแนวทาง
ยกตัวอย่างเคสที่ผมพูดถึงในมู้ ผมเล่าเป็นนิยายเลยแล้วกัน
คือเรารู้จักกันตอนที่เธอไปเที่ยวจังหวัดบ้านผมที่ภาคเหนือ แล้วเธอบังเอิญรถเสียอยู่กลางดอย (หม้อน้ำรั่วไม่ได้เช็คเครื่องเลย Over Heat) เธอมากับเพื่อนผู้หญิงและก็สาวสองอีกคน รวมเป็น 3 ผมเลยแวะจอดดู ซึ่งดูทรงแล้วต้องเข้าอู่อย่างเดียว เลยอาสาจะไปส่งในตัวอำเภอ ซึ่งต้องขับรถไปอีกเป็นชั่วโมงอยู่ แล้วพรุ่งนี้ค่อยให้รถลากมาเอารถไปซ่อม
ระหว่างทางเลยทำความรู้จักกัน ปรากฏว่าเธอเป็นพนักงานแบงค์สีชมพูๆ มาเที่ยวเพราะอกหัก เพื่อนๆเลยจะพามาเปลี่ยนบรรยากาศ
บังเอิญที่พักที่พวกเธอจองไว้เป็นที่พักญาติห่างๆผมพอดีเลยไม่ไกลจากบ้านผมมาก อู่ซ่อมรถบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยให้รถลากไปเอารถเพราะวันนี้ค่ำแล้ว และเผื่ออาจไม่ต้องลาก ซ่อมที่นั่นเลย
วันรุ่งขึ้นผมอาสาไปส่งเธอ (ใช่ครับเพราะเธอสวย) เพราะดูเธออยากไปดูรถด้วยแต่ก็ไม่อยากไปกับช่างตามลำพัง เพื่อนอีกสองคนขอบายอยากเที่ยวมากกว่า ปรากฏสุดท้ายก็ต้องลากกลับ ช่างบอกเหมือนฝาสูบจะโก่งหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ ต้องสั่งอะไหล่เป็นอาทิตย์เลย ตอนนั้นผมกลับบ้านเพราะมหาลัยที่ญี่ปุ่นปิดเทอมหน้าร้อนพอดี (ช่วงสิงหาคมนี่แหละ) คำนวนเวลาซ่อมแล้ว น่าจะไกล้เวลาไฟลท์กลับผมพอดี เลยเสนอว่าเดี๋ยวผมขับกลับไปส่งให้ที่ กทม. ช่วยแค่ค่าน้ำมันผมก็พอ ส่วนขากลับพวกเธออาจต้องนั่งรถทัวร์หรือบินกลับ
สามคนปรึกษากันสักพักก็คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด จะให้รอจนรถเสร็จก็คงไม่ไหวต้องทำงานอีก จะจ้างรถสไลด์ก็โคตรแพง (อยู่สุดจังหวัดชายแดนเลย) ทีแรกก็เกรงใจผมอยู่ แต่ยังไงผมก็ต้องไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิอยู่แล้ว เลยตกลงกันตามนั้น
ระหว่างนั้นผมก็ได้คอนแทคเธอมา ก็คุยถามกันตามเรื่องตามราว เป็นไกด์พาเที่ยวบ้าง จนเธอกลับไป เราก็ยังคุยกันอยู่ เพราะผมก็อัพเดทรถให้เธอทุกวัน
จนรถเสร็จ ผมเหลือเวลาอีก 1 วันกว่าๆ ก่อนบินกลับ ซึ่งแทบจะพอดีกับจังหวะเครื่องออกเลย ต้องขับแบบยิงยาวแต่ก็แอบหวั่นๆอยู่ เพราะรถก็พึ่งซ่อมเสร็จด้วย ช่างก็ยังบอกว่าจะให้ดีก็ไปให้ศูนย์เช็คละเอียดอีกที หรือร้านที่เขาทำยี่ห้อนี่โดยเฉพาะก็ได้ เพราะอาการนี้ถ้าไม่ซ่อมให้ดีมันทำไม่จบ
ผมก็ซัดยาวไปเลย 13 ชั่วโมงออกตั้งแต่ตี5 ถึง กทม ประมาณ 6 โมงเย็น ไฟลท์ผมออกประมานเที่ยงคืน ซึ่งเวลาทุกอย่างก็ลงตัวไม่มีปัญหา ผมแวะเอารถไปคืนให้เธอแถวๆบางนา ต้องรอจนเธอเลิกงานประมาณ 2 ทุ่ม (สาขาที่เธอทำงานอยู่ในห้าง) ส่วนค่าน้ำมันผมขอให้เลี้ยงข้าวผมแทนแล้วกัน (จริงๆเสียไม่เยอะ มีน้ำมันเกือบเต็มถึงอยู่แล้ว เติมเพิ่มแค่ประมานพันนิดๆ)
เราไปกินข้าวกันแถวลาดกระบังเพราะผมต้องไปถึงสนามบินก่อน 4 ทุ่ม เราก็ไปกินชาบูกันตามปกติ
แต่จุดตื่นเต้นมันเริ่มจากตรงนี้
สายการบินติดต่อมาบอกผมว่า ไฟลท์ จาก สุวรรณภูมิ ไป ฮ่องกง ดีเลย์ไปออก 8 โมงเช้า!! (ผมจอง Transit Flight สุวรรณภูมิ => ฮ่องกง => ฮาเนดะ) เธอก็ถามว่าแล้วแบบนี้ทำไง ไม่ล่มหมดเหรอ? ผมก็บอกว่าไม่หรอก ไม่ได้ซื้อตั๋วแยก สายการบินรับผิดชอบให้อยู่แล้ว เต็มที่ก็แค่ตก Night Bus เดี๋ยวขึ้นชินคันเซนแทนก็ได้ เธอก็ถามต่อว่าแล้วทำไง? ผมก็บอกว่าเดี๋ยวไปนอนรอในเกทสนามบินก็ได้ (ผมนอนบ่อยอยู่แล้ว) และแล้วเธอก็บอกว่าไปรอที่คอนโดเธอก็ได้ น่าจะสบายกว่านอนสนามบิน
มีแววว่าคืนนี้จะไม่ได้นอน
Spoil
กลับไปถึงคอนโดเธอประมาน 4 ทุ่มครับ ผมไม่บรรยายละกันนะครับ คอนโด 1 ห้องนอน 30 ตรม. ทั่วๆไป ตอนเข้ามาผมเห็นว่ามี 7-11 อยู่ข้างล่าง เลยเนียนบอกว่าลืมพกแปรงฟันมา (จริงๆแอบทำเป็นหาไม่เจอ) เลยบอกว่าจะลงไปซื้อแปรงฟันหน่อย ไม่แปรงนอนไม่ได้ เธอก็โอเคครับ และแน่นอน ผมไม่ได้ซื้อแค่แปรงฟัน
ผมอาบน้ำเสร็จก็ใส่เสื้อยืดกางเกงบอลตามปกติ ทีนี้ โซฟาเธอมันเป็นแบบตัวเล็ก ผมสูง 178 มันนอนไม่สบาย เลยเอากระเป๋ามาหนุนหัวแล้วนอนตรงพรมข้างล่าง พอเธอมาเห็นก็ถามว่า
“ทำไมไปนอนตรงนั้นล่ะ?”
ผมก็บอกว่า
“โซฟามันสั้นไป นอนไม่ถนัด ตรงนี้ก็ได้ครับ ไม่เป็นไร”
“ไม่เอาสิคะ เธอต้องเดินทางอีกไกลนะ นอนตรงนี้ก็ไม่ต่างจากนอนสนามบินเลย ไปนอนในห้องก็ได้ เตียงกว้างอยู่”
“ไม่ดีมั้งครับ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ ดีกว่ามานอนตรงนี้ ตอนไปเที่ยวเธอช่วยเค้าไว้ตั้งเยอะ”
“แต่ห้ามทำอะไรเรานะ” แล้วก็ยิ้มๆหัวเราะๆ
ตอนนั้นจินตราการเริ่มโลดแล่นแล้วครับ ก็ตอบตกลงเธอไปว่าเดี๋ยวจะเข้าไปนอน ผมต้องรอจนเธอไปอาบน้ำถึงกล้าลุกไปเข้าห้องนอน เพราะไม่งั้นเธอจะเห็นกางเกงผมตุงเด่แน่ๆ และใช่ครับ กลิ่นห้องนอนสาวโสด มันดีจริงๆ
ผมแกล้งทำเป็นหลับทั้งๆที่โคตรตื่นเต้น เธออาบน้ำเสร้จก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ปิดไฟ แล้วมานอน โดยเอาหมอนข้างมากั้นไว้ พอนอนไปสักพัก ไม่รู้บังเอิญหรือตั้งใจ เพราะเธอกอดหมอนข้างที่กันเราอยู่แล้วพลิกตัวไปอีกด้าน ทำให้ระหว่างผมและเธอตอนนี้มีแค่อากาศที่กั้นเราไว้ แสงจากด้านนอกคอนโดส่องเข้ามาให้เห็นเงาส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอที่นอนตะแคงอยู่ แม่เอ้ยอย่างกับนาฬิกาทรายเลย ไม่ต้องถามครับ แข็งเป๊ก! ตอนนั้นคิดในใจว่าเอาไงดีวะ จะเป็นสุภาพบุรุษดีมั้ยนะ หรือทำตามสัญชาติญานลิงที่มีมาแต่กำเนิดดี
ผมตัดสินใจแกล้งพลิกตัวเข้าไปไกล้ๆเธอ และสัมผัสอะไรได้บางอย่างว่าจริงๆเธอก็แกล้งหลับเหมือนกัน เอาว่ะ! ไปต่อละกันไหนๆก็ไหนๆละ ผมแกล้งละเมอเอามือไปพาดท้องเธอไว้ รู้ได้ทันทีว่าเธอหายใจไม่เป็นจังหวะเลย เธอเอื้อมมือมาจับมือผม ทีแรกผมคิดว่าจะผลักออก ถ้าเป็นงั้นผมจะขอโทษเธอแล้วหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ แต่!! เธอมาจับไว้เฉยๆ ไม่ผลักออก มือผมก็เริ่มสั่นละตอนนั้น ทีนี้เธอเปลี่ยนท่าจากนอนหงายเป็นหันหลังให้ผมอีกรอบ
คราวนี้องศาแขนผมก็อยู่ในท่าที่พร้อมดึงเธอเขามาหาพอดี จัดสิครับรออะไร และนี่คือวินาทีตัดสินใจ เพราะถ้าผมทำแบบนั้นน้องชายของผมมันจะสัมผัสกับต้นขาเธอพอดี แต่เอาว่ะ! มาขนาดนี้แล้ว
พอสัมผัสปุ๊บ... เธอไม่หือ ไม่อือ แต่มือจับข้อแขนผมแน่นขึ้นนิดนึง ไปต่อครับ สถาณีต่อไป ไฟหน้า!!
ผมค่อยๆขยับมือขึ้นไปทีละนิดๆ มีบางจังหวะที่เธอรั้งมือผมไว้ แต่สักพักก็ปล่อยให้ผมไหลต่อ พอไปถึงบริเวณฐานเท่านั้นแหละ โอ้วว โนบราว่ะพวกคุณณ!! ตอนนั้นสัมผัสได้เลยว่าเธอหายใจถี่มาก มือพยายามจะรั้งผมไม่ให้ไปต่อ แต่หยุดก็บ้าแล้ว ลุยรวดเดียวหมับเข้าให้
เต็มมือมากเลยครับทุกท่าน ตอนปลายนิ้วสัมผัสกับเจดีบนยอดดอยนั้น เธอถึงกับครางออกมา เธอฝืนนิดๆพอเป็นพิธีแต่ก็หยุด ปล่อยให้ผมคลึงไป
เราอยู่ท่านั้นสักพัก มันถึงเวลาต้องไปต่อ ผมละมือออกจากดอยเพื่อที่จะเลี้ยวลงไปเที่ยวชมทุ่งนาบริเวณภาคกลางดูบ้าง และเหมือนเดิม พอไกล้ถึงที่หมายเธอก็เอามือมารั้งไว้อีกครั้ง ตอนนั้นเลยกระซิบเบาๆเข้างหูเธอ
“ถ้าไม่ชอบ ผมหยุดก็ได้นะ”
“...”
เธอไม่ตอบ ไม่ตอบก็ลุยสิคร๊าบบ รวดเดียวถึงจุดหมายเลย แม่เจ้า ไม่ได้แค่แฉะ แต่เปียกเลย เปียกจนกางเกงนอนชุ่มอะ รออะไรละครับ พลิกตัวเข้ามาจูบเลย ทีนี้ไม่ต้องกั๊กแล้วครับ พอปากประกบปากเธอเป็นฝ่ายทะลุทะลวงเข้ามาเองเลย จากนั้นที่เหลือก็เหมือนในหนังญี่ปุ่นที่มีรหัสกำกับเลยครับ มาทุกท่าที่นึกออก หุ่นเธอโคตรดีเลย น่าจะไม่ได้มีมาสักพักใหญ่ๆแล้ว เพราะเธอ Aggressive มาก สรุป อุปกรณ์ที่ซื้อมาพร้อมแปรงฟัน หมดเลยครับ และก็ไม่ได้นอนจริงๆด้วย จนไกล้ ตี 5 ผมบอกว่าต้องลุกไปอาบน้ำแล้ว เธอก็บอกว่า
“นอนต่ออีกนิดไม่ได้เหรอ”
“นอนต่อยังไง นี่ยังไม่ได้นอนเลย”
“งั้นก็ไม่ต้องนอนเหมือนเดิมไง”
“ยังไงล่ะ ไม่มีของแล้ว”
สรุป เธอจัดแบบออรัลให้อีกดอกก่อนไปอาบน้ำ
จากนั้นผมก็เก็บของแล้วออกจากคอนโดเธอประมาน ตี 5 นิดๆ ขึ้นเครื่องทันเวลา แต่หลับเป็นตายเลยบนเครื่องๆ เพลียจัด
จากนั้นเราคบกันอีกสักพัก เธอบินมาหาผมที่ญี่ปุ่นครั้งหนึ่ง ก่อนที่เราจะเลิกกันไปเพราะปัจจัยเรื่องระยะทางกับเวลา และเธอก็กลับไปคืนดีกับแฟนเก่า ส่วนผมก็เริ่มคบกับสาวญี่ปุ่นในคณะพอดี
*EDIT ขอบคุณที่ชอบนะครับ ถ้าแผล็บถึง100 เดี๋ยวจะมาแชร์ประสบกามกับสาวญี่ปุ่นครับ