ไฟครับ
อันอื่นมันยังแค่ทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์ที่เจริญขึ้น
แต่การทำไฟเองได้เนี่ย มันคือสิ่งแรกที่ทำให้มนุษย์แยกออกมาจากสัตว์เลยนะฮะ

กระทบมากที่สุดต้องไฟเลยครับเพราะถ้ายังไม่มีไฟมาปรุงอาหารคนก็ต้องกินอาหารเยอะและบ่อยแบบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ และไม่มีให้ความอบอุ่นยากมากๆที่จะมีอย่างอื่นตามมา อย่าว่าแต่การเดินทางออกจากพื้นที่ๆอุ่นและกลางวันยาวพอจะใช้ชีวิตได้

ที่เคยอ่านๆเค้ายกให้กูเตนเบิกเป็นต้นกำเนิดกันนะ

ผมว่ามันคือ ข้อต่อการพัฒนาแต่ละยุคนะ

จะบอก ไฟสำคัญมากกว่า ไฟฟ้า แต่ถ้าไม่มีไฟฟ้าเราอาจจะยังอยู่แบบยุคกลางอยู่เลยนะ หรือ กระดาษสำคัญกว่าภาษา ไม่ได้หรอก

แน่นอนว่าไม่มีไฟย่อมไม่มีไฟฟ้า

แต่ทุกข้อต่อล้วนสำคัญ ทำให้เราก้าวกระโดดขึ้นอีกขั้น
ให้เราพัฒนาจนถึงตอนนี้ ขาดอันใดอันหนึ่ง เราก็คงไม่เป็นเราแบบนี้

แต่ผมรู้สึกว่าก้าวถัดไป คือ ai กับ แมชชีนเลิร์นนิ่งจริงๆ นะ นี้ก็พยายามเรียนไพธอนอยู่เนี่ย

การจดบันทึก

เพราะถ้าไม่มีการจดบันทึก นวัตกรรมอื่นจะไม่มีทางเกิดขึ้น

คิดเหมือนกันเลย ผมคิดว่านวัตกรรมสำคัญต่อไปคือ AI, Robotic
ช่วงแรกของ AI จะทำให้มนุษย์ และ องค์กรสะดวกสบายขึ้น

แต่ช่วงพีคของ AI จะทำให้มนุษย์เป็น Useless class หรือชนชั้นที่ไร้ประโยชน์ ตามที่หนังสือ Homodeus ได้เขียนไว้ อาจจะสัก 200 ปี และผู้ที่มีอำนาจจริงๆคือชนชั้นปกครองที่เป็นเจ้าของ AI.

เพราะระบบเศรษฐกิจหลังจากนั้น AI อาจจะสามารถตั้งบริษัทเองได้ บริหารเองได้ และจ้าง AI ด้วยกันทำงานได้ อันนี้น่ากลัว

ไฟครับ เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

1). Scientific Theory - สำคัญที่สุดเป็นรากฐาน ทุกองค์ความรู้ของมนุษยชาติเกือบทถกแขนง ถ้าไม่มี Scientific Theory ก็ใช้ประโยชน์จากไฟฟ้า น้ำมัน เครื่องจักรกลไอน้ำ ถ่านหินไม่ได้ ต่อยอกเป็นองค์ความรู้ ชีวะ ฟิสิกส์ เคมี ดาราศาสตร์ การแพทย์ แม้นแต่ทุกวันนี้วิชาสังคมศึกษายังเป็น Social Science รัฐศาสตร์ก็เป็น Political Science ด้วย ทำให้ ปฏิวัติอุตสาหกรรม เครื่องจักรกล ถนนหนทาง

2). รองมาน่าจะ Philosophy - เกิดตั้งแต่ 600 ปีก่อนคริสต์ สำคัญที่ว่าทำให้มนุาย์ตั้งทำถามว่าทำไม เพราะอะไร เหตุผล แล้วมีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม ทำให้มุ่งค้นหาแสดงหาคำตอบ และการได้มาซึ่งคำตอบ ความยากรู้ยากเห็น ทำให้มีการพัฒนาองค์ความรู้ในสมัยนั้น ไม่งั้นเนิบๆ

3). กับ เงิน - ทำให้เกิด > พาณิชย์นิยม > ทุนนิยม : ทำให้มนุษย์มีกิจกรรมหลากหลาย มีสินค้า มีกิจกรรม การทำงานเปลี่ยนไปจากที่จะอยู่ในถ้ำหรืออยู่ตามซอกตามที่กันดารก็อยู่ไม่ได้ต้องออกมารวมกลุ่มกันผลิตและแลกเปลี่ยน และที่สำคัญของทุนนิยมทำให้เกิดความจูงใจ ให้คนมุ่งคิดค้น ผลิตอะไรต่างๆ ออกมา ผ่านการแข่งขัน การพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ด้วย เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม เทคโนโลยีที่หลากหลายอย่าง MASS Production กับ ทำซ้ำได้ ปัจเจกชนทุกคนแสวงหาการเติบโต เงิน ความโลภและละโมบเป็นแรงจูงใจให้โลกขับเคลื่อน

4). บ๊วย Writing + Printing กับ Mathematics - การเขียนก็ทำให้สั่งสมองค์ความรู้ ต่อมา ต่อมามีการพิมพ์เพิ่มความ MASS Production กับ ทำซ้ำได้ ทำให้คนรู้กว้าง ส่วน Mathematics เป็นรากฐานของการ การคิด คำนวณ ที่ได้คำตอบที่ชัดเจน นำมาสู่ศาสตร์ด้านวิศวกรรม การนำเงินมาใช้มีการคิด ใช้ร่วมกับวิทยาศาสตร์ เกิดเป็นเครื่องจักรกล เครื่องคอมพิวเตอร์ การสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ

ถ้าเอาในชีวิตประจำวันของคนเรา ผมก็คิดว่าไฟฟ้าคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงโลกนะ แต่เปลี่ยนแปลงโลกในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นนะ

แต่ถ้าเอาสิ่งที่ทำให้มนุษยชาติพัฒนาแบบก้าวกระโดด จนสามารถขึ้นไปในอีกระดับหรือใกล้เคียงสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาชั้นสูงได้ ผมคิดว่าคณิตศาสตร์คือคำตอบนั้น

คณิตศาสตร์เป็นภาษาจักรวาล เราสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยคณิตศาสตร์

ไอสไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพด้วยการคำนวนทางคณิตศาสตร์ สามารถทำนายการมีอยู่ของหลุมดำได้ในยุคที่ไม่มีใครเคยรู้จัก ไม่เคยมีการค้นพบหลุมดำมาก่อน ด้วยการคำนวนทางคณิตศาสตร์ล้วนๆ

ส่วนตัวให้ไฟครับ เชื่อว่าเป็นสิ่งที่เปลี่ยนสถานะมนุษย์ขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารเลยครับ

เงิน ครับ ...เงิน เป็นตัวแปลงวัตถุ ต่างๆ

เงิน ทำให้โลภ ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ เกิดสงคราม

เช่น ยุโรป ล่าอาณานิคม เดินทางทั่วโลก, อเมริกา หลายเมือง ก็ เริ่มเป็นเมือง จากขุดทอง, นวัตกรรมต่างๆ เพราะธุรกิจ ทั้งนั้น น้ำมัน ไฟฟ้า รถยนต์ เครื่องบิน ...เงินทำให้เกิด การเคลื่อนที่ทั่ว... แล้วก็ที่เราจะไปดาวอังคาร ก็ธุรกิจ ทั้งนั้น

ถ้าไม่มีไฟ ตอนนี้มนุษย์ก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนสัตว์ กินเหมือนสัตว์

ยังไงไฟก็เป็นจุดกำเนิดของวิวัฒนาการทุกอย่าง

ผมขอโหวตแท่นพิมพ์ละกัน เห็นคนไม่ค่อยสนใจอันนี้กันเท่าไหร่

ปกติหนังสือเล่มนึง กว่าจะคัดลอกกันเสร็จก็หลายวัน เมื่อก่อนคนเลยไม่ค่อยมีความรู้

พอตีพิมพ์หนังสือได้ แค่นั้นแหละความรู้กระจายไปทั่ว จากประเทศสู่ประเทศ ทุกคนสามารถฉ่ลาดได้ง่ายขึ้น

ตอนผมฟังครั้งแรกก็ทึ่งเหมือนกันว่า แค่ไอคิดแท่นพิมพ์โง่ๆมันขนาดนั้นเหรอวะ แต่เอาเข้าจริงมันก็ขนาดนั้นแหละ เพราะมัน impact มาก จริงๆต่อให้คนจด ส่งต่อความรู้กันปากต่อปาก หรือจดนิดๆหน่อยๆ มันก็ดีนะ แต่พอเจอแท่นพิมพ์เข้าไปนี่คือพัฒนาทั้งความรู้ ทั้งความบันเทิง แบบยกระดับกันทั้งโลกได้เลย

มันตอบอย่างอื่นนอกจากไฟได้ด้วยหรอ

ล้อ เงิน การจดบันทึกเป็นตัวอักษร

มาเจออาณาจักรอินคาเข้าไป ไม่มีทั้งสามอย่าง แต่พัฒนาตัวเองเป็นจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ (ถ้าไม่เจอโรคระบาดและคนจากโลกเก่ารุกราน) ได้ ก็น่าทึ่งสุดๆ แล้ว