ผมคิดแบบนี้เลย ไอ้คนที่มาเบียดแกร๊ปนี่แม่มโคตรง่าว ช่องแทบไม่มีไปเบียดเข้าไปเฉย

มอไซค์ ตามกม. มันขี่ซ้อนรถยนต์ไม่ได้อยู่แล้ว

เราขับแบบยอมรับความเสี่ยงกันเองเวลาไปแทรกช่องแบบนั้น

ตามกม.มันผิดอยู่แล้ว เค้าอะลุ่มอะล่วยให้แต่ก็อย่าชนแล้วกัน

ไรเดอร์ผิดขับแทรกเลน
มอไซค์ผิดขับแทรกเลนและขับประมาท

มอไซค์ชดใช้ให้ไรเดอร์ ตรงนี้พรบ น่าจะพอ
แต่ก็ต้องดูว่าไปหาหมอที่ไหนยังไง และค่าทำขวัญ และค่าซ่อมรถ

มอไซค์โดนประกันบีเอ็มไล่บี้เก็บค่าซ่อม

สุดท้ายมอไซค์ขอความเห็นใจ ถ้าคนขับบีเอ็มจิตใจเมตตา
มีออกเงินช่วยส่วนตัวต่างหาก อิๆ

ก็คือ ขี่แทรกเลนจริงๆมันผิดอยู่แล้ว แต่ปล่อยๆกันไป

แต่ถ้าเกิดเหตุเกิดการชนอะไรแบบนี้ขึ้น ก็จะผิดข้อหานี้ทันที (เพราะจริงๆมันผิดแต่แรกแล้ว)

แต่ที่โดยทั่วไปปล่อยๆกัน เพราะถ้ามันไม่ชนใครก็ไม่มีใครเดือดร้อนเท่าไหร่แบบชัดเจน

ทำผิดจนชิน ตำรวจก็แทรกเหมือนกันละ ถ้าชนก็เสียเงิน ไม่ชนก็แล้วไป

ตามกฎหมายมันต้องซ้ายอย่างเดียว
ี
ที่เห็นขับๆกันเพราะมันไม่มีความจำเป็นต้องจับอะไร นอกจากจะมีเหตุ

ให้อารมณ์แบบ ที่มีคนเอาน้ำไปราดหัวสาวนั่นละ ตำรวจก็บอกผิดคู่เหมือนกัน

กฏหมายมันก็ถูกแล้วแหละ คือถ้าไปดูกฏหมายดีๆ มอไซเค้าจะมองว่าเป็นแค่รถจ่ายกับข้าว ไว้ขับไปใกล้ๆ ไม่เกิน 5 โล เพราะลองดูจากตัวกฏหมาย ขับซ้ายเท่านั้น ห้ามขับขวา ห้ามแทรกเลน ห้ามขึ้นสะพาน ห้ามลงอุโมงค์ มองดูแล้วมันก็ไม่ต้องขับไปไหนน่ะแหละ เพียงแต่เนื่องจากบ้านเราก็รถติด คนรายได้น้อย ขนส่งสาธารณะห่วยแตก มอไซมันก็เลยเป็นทางออก และก็เป็นแบบนี้มาเป็น 10 ปี จนคนเคยชินไปล่ะ

ทีนี้ ถ้าต้องแก้มันก็ต้องแก้กฏหมาย ก็คือให้สภาพมอไซเท่าเทียมกับรถยนต์ แต่ผมเป็นคนทำกฏหมายผมก็คิดหนักเหมือนกันนะ เพราะกฏหมายบนถนนมันต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งบ้านเรานี่ก็คนตายบนนถนนอันดับ 1 จากมอไซนี่แหละ เพราะงั้นแนวโน้มจะให้มอไซเท่าเทียมกับรถได้โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โอกาสแทบไม่มีเลย เราก็คงอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆแหละ ซึ่งตามตัวบทกฏหมายก็ถูกแล้ว ถ้าจะแทรกเลน ก็ต้องรับความเสี่ยงเอง ทีนี้เรื่องค่าชดใช้ก็อยู่ที่ศาลล่ะว่าผิดมากผิดน้อย คือแกร๊บอาจจะรับผิดชอบน้อยหน่อยเพราะไม่ใช่ต้นเหตุ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรอดเลย 100%

มาอีกละตรรกะ ถ้าแบบนี้ผิดกฎหมาย ทำไมไม่จับทั้งประเทศ

เมื่อก่อนตั้งด่านก็โวยวายกัน ปรับเงินก็บอกรังแกคนจน แค่ตักเตือนก็พอ

พอเขายกเลิก อลุ่มอล่วย ก็บอกไม่จับจริงจัง กฎหมายอ่อน

อิหยังวะ

ถ้าร่วมกันเขาไม่เรียกประมาทหรอกจ่า

มันผิดกฏอยู่แล้ว ไอขับรถตามช่องไฟอะ แต่มันเป็นความผิดที่ไม่ปรากฏผลชัดเจน คือถ้าไม่ชน ก็ไม่มีอะไร คนก็เลยเฉยๆ แต่ถ้าชนก็ผิด แค่นั้น

คดีมันก็คงไม่พ้นไปกว่าคำว่าขับขี่โดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหายหรอก

สำหรับผมเคสนี้ ไรเดอร์อ่ะซวยล้วนๆ

มันแบ่งเป็น สองเคส คือ

ผู้เสียหายที่ 1 BM ผู้ก่อเหตุ คือ มอไซดำ กับ ไรเดอร์ ทั้ง สองคันชน BM เคสนี้ต้องจ่าย BM ทั้งคู่ โดยไม่สนสาเหตุ

ผู้เสียหายที่ 2 คือ ไรเดอร์ ผู้ก่อเหตุคือ มอไซดำ จริงๆ มอไซดำต้องรับผิดชอบให้ไรเดอร์ แต่เคสนี้ออกประมาทร่วม เพราะอยู่เลนช่องไฟทั้งคู่ แม้คันดำจะผิด แต่ก็ผิดบนพื้นฐานกฏหมายเดียวกัน ก็เลยถูกตีคลุมเป็นประมาทร่วมไปซะได้ เพราะขี้เกียจแล้ว จบแค่นี้พอ

น่าแปลกที่คนขับมอไซค์หลายคนไม่รู้ว่า มอไซค์มันรถไปปากซอย แต่ประเทศเรามันห่วย เดินทางสาธารณะก็ลำบาก แถมรถคันนึงก็แพงเสียเหลือเกิน รายได้ก็น้อยนิดติดดิน วันนึงมันเลยกลายมาเป็นพาหนะเดินทางไปไหนมาไหน จริงๆแล้วมอไซค์ถ้าจะขับมันก็เสียเวลาพอๆกับรถยนต์นะชะ ที่มันไปไหนมาไหนเร็วเพราะซอกแซกไปเรื่อย มันเลยไม่ต้องคอยมาอยู่หลังแถวไฟแดงแบบรถใหญ่ จริงๆผมรำคาญมากพวกมุดซอกแซก เกี่ยวกระจกขัางทุกวัน

"การที่รถจักรยานยนต์ของไรเดอร์ ขี่มาแทรกระหว่างเลน ตามกฎหมายแล้วถือว่ามีส่วนประมาท ทำให้เกิดอุบัติเหตุ"

กฎหมายที่มันไม่ practical ผมว่าแก้หน่อยก็ดีนะครับ

ตำรวจก็ทำตามที่ง่ายที่สุดนั่นละ ถ้าไรเดอร์ไม่พอใจก็ต้องยื่นฟ้องมอไซเอา ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยอมๆไปไม่อยากเสียเวลาแล้วมีประกัน

แต่ประกัน2เจ้าเขายอมกันไหมละนะ

นอกเรื่อง ทรงแบบไอคนที่มาแทรกเห็นแล้วโคตรรำคาญสายตา ทรงพวกนี้มันเหมือนกันหมด ไม่ใสหมวก ขับตูดส่ายๆ ไม่รู้เอามาจากไหนกัน

คือกฎหมายกับการใช้งานจริงและความปล่อยปละละเลย มันพังแล้วให้กลายเป็นขี้ปากจากคนขับรถยนต์แบบทุกวันนี้ไง

แค่ในมู้นี้คนแอนตี้มอไซค์ก็มีเยอะแยะนะ แล้ววิธีแก้เหรอ อ้อปลายเหตุอย่างเดียวสินะ จิตสำนึกต้องพึงมีไว้ก่อนถึงแม้ว่าสิ่งที่ภาครัฐออกแบบถนนหรือกฎหมายมันจะห่วยแค่ไหนก็ตาม