ผมมองว่างานส่วนใหญ่คนรับได้นะ แล้วแต่งานแหละ ยิ่งบริษัทใหญ่ก็อาจจะยิ่งดูไม่โอเค เรื่องปฏิบัติตัวนี่สำคัญจริง ไม่งั้นคนเกลียดได้ง่ายๆเลย

ถ้าพวกงานร้านอาหารแค่มีคนบอกว่ารู้จักแม้จะผิวเผิน คนนั้นก็ได้เปรียบคนสมัครคนอื่นไปแล้วง่ายๆ

ผมว่าผิดในแง่ที่เราจะเอา ความเก่ง ของเค้ามาใช้ในงานของเรา

ผมเจอคนที่สนิท พอทำงานจริงมันก็ไม่ได้ตามที่คิด พอสนิทเยอะจะใช้อะไรไม่เต็มที่อีก


ผมบ้าหนังจีนนะ และประวัติศาสตร์ จีน

ยุคที่ฮ่องเต้แข็งแกร่ง มีการสอบจอหงวน ทั้งประเทศ เฟ้นหาคนเก่งคนดี เข้าทำงานหลวง

ฮ่องเต้ที่ออกแอ มันบ้าผู้หญิง ติด ไม่ว่าราชการ ....มักจะมีเรื่องเส้นสาย ซื้อตำแหน่ง เอาคนของตัวเองเข้าไป

ขุนนาง ขันที บ้าอำนาจ ฉ้อราษฎร์ บังหลวง ...เก็บส่วย ใครไม่จ่ายก็กลั่นแกล้ง


พอซื้อได้ มันก็ซื้อ ตั้งแต่ ล่างๆ จนถึง บนๆ ทีนี้คนเก่ง อยู่นอกระบบหมด มีแต่พวกใช้เงิน ใช้เส้น ซื้องาน

ในระบบ มีแต่ ฟอนเฟะ ..."กินตามน้ำ" "ใครเค้าก็กินทั้งนั้นแหละ" "ได้เอาไว้ก่อน"

...ผมได้ยินจากคนใกล้ตัวนี่แหละ ซึ่งไม่เคยคิดว่าโตขึ้น จะคิดงี้ ความคิด ตรรกะ บัดซบ ที่สุด


ท่านว่า ถ้าเทียบบ้านเรา ตอนนี้ เป็นยุคไหนของจีน ...ยุคที่ รุ่งเรือง หรือ ตกต่ำ

มันแค่น่าเห็นใจสำหรับคนที่ไม่มีตัวช่วยพวกนี้ แต่โลกเรามันก็ไม่ได้เท่าเทียมอยู่แล้วดังนั้นส่วนตัวมองว่าไม่ผิด เรื่องปกติ

แต่ถ้าเป็นระบบแข่งขันคะแนนหรือประเมินผลงาน อีกคนทำได้แย่กว่าแต่ใช้เส้นช่วยจนชนะอันนี้ก็น่าเกลียด

บริบทนั้น มันน่าจะเปน รู้ว่างานนี้เหมาะกับใคร ควรจะเป็นใครมาทำ เพื่อให้สำเร็จหรือมีประสิทธิภาพมากกว่านะ "ใช้เส้น" ไม่น่าจะรวมอยู่ในนั้น เช่นอยากทำหนังแล้วพอดีเราซี้กับคริสโตเฟอร์ โนแลนด์ แต่พ่อมาบอกว่า ลูกชายเพื่อนพ่อจบมาพอดี ให้มันเป็นผู้กำกับแล้วกัน

คิดว่าก้ำกึ่งครับ เรียกว่า connection ละกันครับ มีเรื่องเส้นสายส่วนนึง แต่ทำให้นึกขึ้นได้ว่าจริงๆมันต่างกันรึปล่าว

ใช้ connection เพื่อเข้าทำงานต่างกับใช้เส้นสายไหม ถ้าเทียบงานบริษัทก็คือรับคนรู้จักมาทำงานแทบที่จะรับคนอื่นที่อาจจะเก่งกว่า

เห็นด้วย สนิทมากก็ใช้งานยาก ลำบากใจ

ถ้าคนที่ใช้เส้นเข้ามาเก่งและนิสัยดีจริงก็คงโอเค ถ้าแย่ก็พัง

ถ้าระหว่างเปิดรับสมัครมีคนรู้จักมาสัครพอดีละครับ อย่างงานร้านอาหารถ้ารับคนรู้จักโดยไม่สนใจคนอื่นเลยผิดไหม แม้ว่าจะไม่ตรงเกณฑ์ไปบ้าง

ถ้าตอนนั้นยังไม่มีคนอื่นมาสมัครคุณจะปิดรับเลยมันก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ถ้ามีคนอื่นมาสมัครด้วยก็ควรคัดเลือกตามคุณสมบัติอย่างยุติธรรมนะ ยังไงมันก็เป็นประโยชน์กับร้านเอง

ถ้าเป็นบริษัทของคุณเองหรือเอกชนที่ไม่ใช่ภาครัฐ ไม่ผิดครับแบบหลายคอมเม้นท์ด้านบนบอกเพราะมันเป็นความพอใจของเจ้าของเงิน จะจ้างใครก็ได้

แต่ส่วนตัวผมเลือกที่จะไม่รับคนรู้จักร่วมงานครับ (เนื้องานหลักผมเน้นเอ้าท์ซอร์สซับคอน + ฟรีแลนซ์ต่างประเทศ มีประจำออฟฟิศเล็ก ๆ แค่พอเป็นหน้างานสำหรับลูกค้าที่อยากเข้ามาคุยครับ) อาจจะมีให้ลูกหลานเพื่อนมาฝึกงานขำ ๆ + แจกค่าขนมให้แต่ไม่ให้จับงานหลักที่สำคัญครับ เหตุผลเพราะ

1. ในชีวิตจริงผมเป็นคนสนิทคนยาก คุยง่ายแต่ไว้ใจจริง ๆ แค่ตัวเอง ไว้ใจมากก็เพื่อนไม่กี่คน นอกนั้นไม่ไว้ใจแต่ไม่แสดงออก ดังนั้นกับคนที่ผมไว้ใจมากไม่กี่คนผมจะไม่เอาพวกเค้ามาทำงานครับ มันบั่นทอนความสัมพันธ์แน่นอนและผมไม่ต้องการเสียเพื่อนไม่กี่คนนี้ไปเพราะงาน

2. เป็นคนรู้จักยิ่งสนิทอคติยิ่งเยอะครับไม่ว่าบวกหรือลบ เวลางานมีปัญหาจะพูดตรงแบบปกติก็ลำบากใจ ง่าย ๆ คุมยาก

3. ยิ่งเป็นลูกหลานเพื่อนนี่ให้จับงานสำคัญถ้าพลาดขึ้นมาก็ทำใจด่าลำบากอีก จะเรียกค่าเสียหายก็ลำบากอีก

บวกลบแล้วเสียมากกว่าได้ครับ

้ถ้าตำแหน่งงานนั้นเปิดรับสมัครทั่วไป การรับสมัครมันก็จะต้องใช้เกณฑ์ทั่วไปสำหรับทุกคนที่เข้ามาสมัคร ประกอบกับพิจารณาจากคุณค่าขององค์กรนั้นๆ

ถ้าตำแหน่งงานนั้นไม่ได้เปิดรับสมัครทั่วไป ก็เห็นว่าท่านจะรับใครมาทำงานก็สุดแท้แต่รสนิยมท่าน

ส่วนตัวผมเชื่อว่า ผมไม่อยากทำงานกับคนที่สนิทมาก (ในลักษณะการบังคับบัญชา) เพราะงานก็คืองาน แต่ถ้าเป็นงานระดับปฏิบัติการด้วยกันมันสนุกนะ แต่ถ้าเป็นระดับบริหารมันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

การใช้เส้นจริงๆถ้า ไม่สมประโยชน์ต่อกันจริงๆไม่ค่อยเกิดขึ้นหรอกครับ มันเป็นเรื่องปกติ ถ้าqualification เท่ากัน ยังไงแนวโน้มที่เราจะเลือกคนที่เรารู้จักเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเป็นหงอยทำไรไม่เป็นไรเลย แล้วได้เส้นเข้ามาทำงาน ก็ทำไรไม่ได้หรอกครับ ไม่มีใครเขาทำกัน ส่วนใหญ่อยู่ในละคร เหมือนกับการหา connection ไม่ใช่คุณเข้าสังคมไปเจอเจ้าของกิจการแต่คุณไปตัวเปล่า connection มันก็ไม่เกิดเขาไม่คุยด้วยด้วยซ้ำ

ในภาคเอกชน

ผมรู้สึกว่ามันเป็นการแนะนำเฉยๆอะครับ ว่าคนนี้ทำงานเป็นไงอะไรยังไง

ไม่ได้เป็นการเอารัดเอาเปรียบใคร เราจะรับหรือไม่รับก็ได้ เพราะมันเพียงแต่แนะนำมาว่าคนนี้ทำงานได้หรือไม่ได้

ซึ่งถ้าไม่มีการแนะนำมา ก็ไม่รู้เลยว่าเค้าทำงานเป็นยังไง ทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน ผมว่าความเสี่ยงเยอะกว่า

ส่วนถ้าภาครัฐ

การใช้เส้นแล้วได้งานเลยเช่น ไม่ต้องสอบหรือสอบสัมพาษณ์อย่างเดียวแล้วบอกว่าคนนี้ลูกนาย รับด้วย
แบบนี้ผมว่าไม่ถูกต้อง

ถ้าโปรไฟล์ดี ทำงานเก่ง เรียกคอนเนคชั่นครับ
ถ้าทำงานห่วย เรียกเด็กฝาก

ส่วนตัวผมนะ ผมคิดว่าถ้ารู้จักก็ยังมีเครดิต รู้ว่านิสัยดีไหมจะโกงไหม บ้านอยู่ไหน มีประสบการณ์จริงตามที่บอกไหมอยู่บ้าง เป็นประโยชน์กับร้านมากกว่า แต่คนอื่นอาจจะคิิดไม่เหมือนกัน

ก็จริงง