จากคำพูดของสส.คนนี้



ทำให้ผมสงสัยว่าทำไมในหมู่คริสตจักรจะต้องมีปัญหากับเรื่องสมรสเท่าเทียมด้วย

ในเมื่อสอนว่าพระเจ้าหยั่งรู้ทุกอย่าง สร้างโลก สร้างมนุษย์

ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกเป็นเพศไหน ก็คือสิ่งที่พระเจ้าวางแผนไว้แล้วนี่ จะว่าไปควรจะต้องยิ่งสนับสนุนให้เสรีด้วยซ้ำ

ไหนจะอีกคำสอนสำคัญที่ผมเจอบ่อย คือให้รักเพื่อนบ้าน แต่ถ้าเป็นLGBTแล้วห้ามรักว่างั้น

เอาจริงสงสัยอิสลามด้วย แต่ไม่รู้คำสอนเขาเท่าไหร่เลย

มันคือความเชื่อทางศาสนา
แต่ละคนก็มีความเชื่อแตกต่างกัน คนไม่เชื่อในศาสนา ก็คือมีความเชื่อว่าศาสนาต่างๆ ไม่มีจริง (มันก็เชื่ออีกรูปแบบหนึ่งนั่นแหละ)

ประชาธิปไตยแท้ คือการหาทางอยู่ร่วมกัน ท่ามกลางความแตกต่าง
ความเชื่อทางศาสนา เขาไม่สนับสนุน แต่ประเด็นในเรื่องสิทธิความเป็นมนุษย์ มันก็ควรได้รับเท่าเทียมกัน
เขาก็ต้องเลือกงดออกเสียงไป เพื่อไม่ให้ผิดไปจากหลักความเชื่อตัวเอง ไม่ให้เป็นประเด็นทางศาสนาต่อ ก็ถูกแล้ว

ไอ้การมานั่งโวยวายว่าทำไมงดออกเสียง ต้องสนับสนุนสิฟะ ต้องโยนความเชื่อทางศาสนาตัวเองทิ้งไป ต้องเชื่อตามที่พวกฉันเชื่อสิ มันก็ไม่ต่างอะไรกับเผด็จการทั้งหลายหรอก
บังคับทุกคนให้เชื่อในสิ่งที่ฉันเชื่อ ห้ามแตกต่างจากฉัน

โลกไม่ได้วุ่นวายเพราะมีศาสนาหรอก แต่โลกวุ่นวายเพราะยังมีมนุษย์บางกลุ่ม พยายามบังคับคนอื่นให้เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ จนกลายเป็นความขัดแย้งต่างหาก

ปล.เพิ่มเติม เผื่อมีคนสับสนในตรรกะ
การเลือกโหวต หรือแสดงความเห็นในสิ่งที่ตัวเองคิด ไม่ใช่การบังคับในคนอื่นเชื่อตามนะ เพราะเป็นการเลือกของตัวเองคนเดียว
แต่ถ้าพยายามสั่งคนอื่นให้โหวตตาม อันนั้นน่ะ พยายามบังคับคนอื่นให้ทำตามแน่ๆ

มันมาจาก พระคัมภีร์เดิม ครับ เกี่ยวกับ เรื่อง รักร่วมเพศ
ซึ่งพระคัมภีร์เดิม ของ คริสต์ อิสลาม ยิว ใช้ร่วมกัน

ส่วนศาสนาคริสต์ มี พระคัมภีร์ใหม่ เป็นเรื่องตั้งแต่ พระเยซู เกิด
อันนี้จะค่อนข้างอัพเดตจากอันเก่าไปเยอะ
ซึ่งผมไม่แน่ใจนะ ว่า พูดถึงการรักร่วมเพศระดับไหน แต่เท่าที่จำได้ ก็คือ ไม่เห็น

คริศต์ ก้บอิสลามคล้ายๆกันครับบางอย่างที่เคร่งคือเคร่ง สอนให้เชื่อให้ทำตามก้อตามนั้นห้ามสงสัยครับ

Leviticus 20:13

‘If a man also lie with mankind as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination. They shall surely be put to death: their blood shall be upon them.

นี่เป็นสาเหตุที่ผมไม่นับถือศาสนา ผมนับถือแค่หลักสิทธิมนุษย์ชน

มนุษยธรรม ความดีเท่าไร ก้ไม่เท่ากับ ความเชื่อที่บอกกันมา....

แต่สมัยโบราณ เรื่อง ชxช มันก็มีมาอยู่แล้วนี่ แทบจะทุกที่เลย

มันก็รากเดียวกับอิสลามอ่ะ ศาสนากลุ่มอับราฮัม

แต่เอาจริงๆ มันก็เรื่องของศาสนาดิ ทำไมแยกกฎหมายกับบาปทางศาสนากันไม่ได้หรอวะ

บางเรื่องมันบาป แต่มันไม่ผิดกฎหมายได้ไง

ไม่ใช่เขาไม่ยอมรับLGBT+ ใช้คำว่าเขายอมรับไม่ได้ตามหลักการศาสนา

รับไม่ได้ตามหลักความเชื่อเขาครับ ความเชื่อเขาไม่ได้บอกเล่ากันมา มันมีบันทึกมันเลยเปลี่ยนแปลงตามความคิดคนไม่ได้

เหมือนอีโวลูชั่นอะ เขาก็ยอมรับไม่ได้ว่าคนกับลิงมีบรรพบุรุษร่วมกัน คนต้องมาจากอดัมเท่านั้น ชีววิทยาโดนรื้อทั้งแผงเลย

หลักศาสนามันไม่ได้ปรับตัวตามบริบทของสังคม พอถึงช่วงเวลาหนึ่งมันก็ไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไป คนที่เคร่งก็คงรู้แหละแต่ความเชื่อเรื่องศาสนาของตัวเองมันเข้มข้นกว่าก็เลย Bias มาทางศาสนา

เอาจริงๆ มันไม่ใช่ในแทบทุกศาสนาหรอที่ไม่สนับสุนนพวนี้ ไม่ชัวเหมือนกันต้องรอคนมาบอก

อสิลาม คริส พุทธ พรามห ไรงี้

จริงๆ แล้ว ผมคิดว่าศาสนาเนี่ยตีกรอบให้เราคิดและทำตามสิ่งที่สั่งสอนไว้ ซึ้งมันเป็นสิ่งที่คนรุ่นก่อนๆ สร้างกันมาน่ะครับ เราไม่สามารถเหมารวมได้เลยว่าชาวคริสต์ ทุกคนจะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด เพราะคริสเตียนหลายๆ คน มีหลายอย่างที่เชื่อไม่เหมือนกันครับ

ส่วนเรื่องที่ว่าพระเจ้าวางแผนไว้ ใช่ครับ พระเจ้าวางแผนไว้ แต่พระเจ้าไม่ได้แทรกแซงทุกเรื่องครับ พระเจ้าให้สิทธิ์เราในการเลือกหรือตัดสินใจครับ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกแบบไหน

และเรื่อง LGBT เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ สำหรับคริสเตียนครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าพระเจ้าไม่รัก LGBT นะครับ พระเจ้ารักมนุษย์ทุกคนครับ ขอบคุณครับ

ยอมรับไม่ได้ในแง่ของศาสนา จึงงดออกเสียงในแง่ของกฎหมาย

แสดงว่าความเชื่อก็ยังอยู่เหนือกฎหมาย

ศาสนาเป็นการควบคุมคนหมู่มากครับ

การรักร่วมเพศ คือ การทำให้เผ่าพันธ์มนุษย์ ไม่มีการขยายเผ่าพันธ์ ทำให้ต้องเกิดเป็นข้อห้าม

พูดเฉพาะพุทธนะครับ

พุทธไม่ห้าม ถ้าไม่ใช่ภิกษุ ภิกษุณี ครับ ซึ่งนักบวชจะมีกฎบังคับอยู่แล้วว่า มีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะสิ่งมีชีวิตหรือเพศไหนถือว่าขาดจากความเป็นนักบวช