จริงๆแล้วเรื่องไฟจราจรคือเรื่องเล็กครับ ให้คนตาบอดสีจำตำแหน่งยังได้เลย

อย่างอาจจะให้ไฟแดงอยู่บน กับซ้ายสุดเสมอ ไฟเหลืองตรงกลางเสมอ

แต่พวกป้าย เส้นอื่นๆมันก็สำคัญ

คือสีเนี่ยมันเหมือนเป็นสัญชาติญาณตอนเราเห็นอ่ะครับ แบบเหลืองต้องระวัง แดงคือระวังมากๆ

มันช่วยให้การรับรู้เวลาขับรถซึ่งกำลังเคลื่อนที่ทำได้ไวขึ้นอ่ะครับ

อย่างของนักบินก็แทบไม่ได้ต่างอะไรกับการขับรถนะครับ

เส้นขอบ runway สีนึง เส้น taxi-way สีนึง เวลาร่อนลงต้องมองแยกไฟสีขาวกับแดง

มันก็เลยไม่แปลกที่สอบใบขับขี่จึงค่อนข้างบังคับเรื่องการแยกสีครับ

คือจริงๆก็อันตรายสำหรับคนอื่นเหมือนกันนะ

* ผมอยากให้ทดสอบอะไรที่มันเอามาใช้ได้จริงๆ บนท้องถนนมากกว่า ตาบอดสีเอย หรือ การควบคุมอารมณ์ คือเน้นปฏิบัติให้มากกว่าทฤษฎีก็จะดีมากๆ หน่อย


ไอ้เรื่องเหยียบบงเหยียบเบรค เอาในมุมมองผมบางคนขี่รถมาทั้งชีวิต ไอ้จังหวะเหยียบเบรคกระทันหันยังไม่มีเลยมั้ง คือแบบทดสอบอะไรที่มันได้ใช้ในชีวิตจริงๆ เวลาขับขี่เลย ผมว่าโอเคกว่า

ผมนี่กระทืบซะฐานกระจาย

ตอนนี้ต่อใบขับขี่ง่ายกว่าสั่งซัพเวย์แล้วครับ

มีทริค จองคิวมั้ยครับ ในกทม.เต็มยันธันวาเลยเซ็ง

ไปต่อของรถยนต์มาปีที่แล้ว กับมอไซค์ปีนี้ ด่านนี้ไม่มีแล้วครับ

เพิ่งต่อ 5 ปีมา ผมมีแต่เทสบอดสี เหยียบเบรค

โคตรชิว ไม่ต้องจองคิว ผมวอคอินไปเลย 8.30 ได้คิวแรก เวลารวมทั้งหมดไม่ถึง 30 นาที

เผื่อน้าสนใจมาได้ครับ ขนส่งจังหวัดนราธิวาส 55555

อยากให้มีสอบด้วยเครื่อง Simulator จำลองสถานการณ์ ว่าถ้าขับๆไปแล้วเจอสถานการณ์ต่างๆจะรับมือได้ดีแค่ไหน

2 เดือนก่อนเพิ่งไปต่อ ขนส่ง นน มาไม่มีด่านยี้นะครับ

ด่านนี้ถูกตัดออกไปแล้วครับ เหลือแค่เหยียบ​เบรคกับมองจุดสี

ไปมาตอนต้นปีเอามองหางตาออกไปแล้ว ไม่รู้เพราะโควิดด้วยมั้ยแจ่อย่าเอากลับมาเลย

ตอนผมต่อจาก 2 ไป 5 ผมไม่ต้องสอบใหม่นะ แค่ทดสอบสมรรถภาพร่างกายแค่นั้นเอง ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม ที่ขนส่งจตุจักร

ไปต่อมาเมื่อเดือน ก.พ. ด่านนี้ถูกตัดออกครับ แต่ด่านอื่นยังอยู่ครบถ้วนครับ