มีใครยังจำดีลเมสซี่กับเชลซีได้บ้าง
เห็นคลิปในยูทูปของฟาบริซิโอ้ โรมาโน่ล่าสุด แกคอนเฟิร์มว่าดีลเมสซี่กับเชลซีเกือบจะสำเร็จเมื่อปี 2014 คือเรื่องจริง ทุกวันนี้เมสซี่ก็ยัง follow เชลซีใน instagram อยู่ (เป็นหนึ่งในสองสโมสรที่เจ้าตัวไม่เคยเล่นให้แต่ follow IG ,อีกทีมก็แมนซิตี้) เห็นแล้วเลยอยากย้อนวันวานหน่อย
โดยเป็นข้อมูลจากดิมาร์ซิโอ้ นักข่าว sky sports ชื่อดังที่เปิดเผยเรื่องราวลับสุดยอดในตลาดซื้อขายนักเตะ ผ่านหนังสือ Grand Hotel Calciomercato ของเจ้าตัว
สถานะเมสซี่ ณ ขณะนั้น
เริ่มจากสถานะเมสซี่กันก่อน ในตอนนั้นเจ้าตัว อายุ 26 ปี คว้าบัลลงดอร์มาแล้ว 4ลูก ฤดูกาลที่ผ่านมาก็เพิ่งยิงไป 60ลูกทุกรายการ เฉพาะในลีกพี่แกซัดไป 46ลูก จากการลงเล่น 32นัด!! ว่ากันตามตรงคืออยู่ในช่วงพีคสุดๆในอาชีพของเจ้าตัว
แต่กลางปี 2013 เจ้าตัวและคุณพ่อโดนสื่อโจมตีข่าวเรื่องเลี่ยงภาษีอย่างหนักหน่วง ทั้งแวดวงสื่อ,การเมือง,ประชาชนคนสเปน ฯลฯ เรียกได้ว่าตอนนั้นโดนรุมจวกยับ มีการขึ้นศงขึ้นศาลกันเป็นว่าเล่น ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาเผยเรื่องนี้เมื่อปี 2017
ว่าตอนนั้นคิดอยากออกไปจากสเปนจริงๆ สุดท้ายเรื่องก็จบลงโดยที่เมสซี่ต้องจ่ายค่าปรับแต่ไม่ต้องติดคุกใดๆ
เปิดโต๊ะเจรจา
จากสถานการณ์ตอนนั้นเอง ทำให้เมสซี่เริ่มไม่มีความสุขกับชีวิตในสเปน มีข่าวลือหนาหูว่าเมสซี่กำลังจะย้ายออกจากบาร์เซโลน่า และทีมที่ออกมารับลูกข่าวนี้และแสดงความสนใจในตัวเมสซี่ในตอนนั้นก็คือเชลซี
ดิมาร์ซิโอ้เล่าในหนังสือตัวเองว่า เมสซี่ได้มีการพูดคุยกับเดโก้เป็นการส่วนตัว และตัวเดโก้เองก็รับปากว่าจะประสานและพูดคุยกับอับราโมวิชนายใหญ่เชลซี ณ ขณะนั้นให้ แต่..เรื่องราวไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะในความเป็นจริงเมสซี่ไม่ได้คุยกับเดโก้คนเดียว แต่ได้คุยกับเพื่อนอีกคนนึงที่เขารู้จักด้วย ซึ่งดิมาร์ซิโอ้เล่าว่าเพื่อนคนนี้มีเส้นสายและสามารถประสานงานเรื่องการย้ายทีมได้เช่นกัน
เพื่อนคนนี้ของเมสซี่ไม่รอช้า ตัดสินใจ call สายตรงหามูริญโญ่ผู้จัดการทีมเชลซี ณ ขณะนั้นทันที หลังจากนั้นเจ้าตัวก็จัดแจง ให้มีการพูดคุยกันผ่านวิดิโอคอลที่แมนชั่นของมูริญโญ่ในลอนดอน ดิมาร์ซิโอ้เล่าว่า ณ ตอนนั้น มูริญโญ่แทบไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดอะไรขึ้น มีการเปิดโต๊ะเจรจากันขึ้นในแมนชั่นของเขาพร้อมกับคนกลาง 3คน
มูริญโญ่โน้มน้าวเมสซี่
และแล้วการเจรจาจากคำบอกเล่าในหนังสือของดิมาร์ซิโอ้ก็เริ่มต้นขึ้น
"ว่าไงเลโอ นี่โจเซ่นะ ,เป็นไงบ้าง champ!?" มูริญโญ่เปิดบทสนทนาอย่างเป็นกันเองเพื่อไม่ให้สถานการณ์อึดอัดเกินไป
"พวกเขาเพิ่งเล่าให้ฉันฟังถึงความต้องการของนาย อืม.. นายไม่รู้หรอกเวลาเจอกับนายในสนาม ฉันแทบไม่เป็นอันกินนอนเพื่อที่จะหาวิธีหยุดนาย ฉันนั่งคิด นอนคิดแผนการนับไม่ถ้วนเพื่อที่จะหยุดนายคนเดียว รู้มั้ย?"
และแล้วมูริญโญ่ก็แสดงความเจ้าเล่ห์ ด้วยการโชว์การใช้ไหวพริบในการเจรจา อยู่ๆมูริญโญ่ก็บอกเมสซี่ว่า
"นายอยู่ที่นั่น(บาร์เซโลน่า) แหละที่แล้ว นายควรจะอยู่ในที่ๆนายควรอยู่"
ทุกคนในห้องที่ต่างรอฟังอยู่ถึงกับช็อค "เห้ย! ตรุให้มึงมาเจรจาดึงเมสซี่เข้าทีมนะเว้ย! ไม่ใช่มาผลักไสกันแบบนี้!" แม้แต่สีหน้าของเมสซี่ที่ฟังอยู่ตอนนั้นก็แสดงสีหน้างุนงง คิดว่าตอนนี้กำลังถ่ายรายการซ่อนกล้องอะไรอยู่รึเปล่า
ดิมาร์ซิโอ้เล่าต่อว่า มูริญโญ่เริ่มพูดจาตล่อมใส่เมสซี่ ทั้งบอกว่าเมสซี่ไม่ควรไปจากบาร์เซโลน่า ทั้งบอกว่าเขาคือตำนาน บอกว่าที่นั่นเขาจะสร้างรูปปั้นให้ด้วยซ้ำ
แต่เมื่อจบประโยคตล่อม มูริญโญ่ก็ปิดท้ายประโยคว่า
"อืม แต่ว่านะ...." นั่น! ถึงตอนนี้ทุกคนในห้องที่รอฟังเริ่มรู้แล้วว่านี่คือแผนการของ the special one
"..ถ้านายตื่นขึ้นมาตอนเช้า นายไปกินข้าว ไปสนามซ้อม จิบกาแฟแล้วรสชาติไม่เหมือนเดิม อยู่ดีๆ ท้องฟ้าก็ดูครึ้มหมอง นายเริ่มไม่ชอบรถที่ตัวเองขับอีกต่อไปแล้ว นายรู้สึกเศร้าตอนกำลังกลับบ้าน นายและครอบครัวของนายเริ่มไม่มีความสุข ถึงตอนนั้นนายควรจะเปิดประตูแห่งความสุขให้กับตัวเองอีกครั้งนะ และหลังประตูบานนั้น นายจะเจอฉัน ,โจเซ่ มูริญโญ่ คนนี้รอนายอยู่!"
ดิมาร์ซิโอ้บอกว่าเมสซี่ถึงกับหลุดขำ แต่คนในห้องต่างรู้ดีว่าสถานการณ์แบบนี้ checkmate! แล้วแน่ๆ
messi fabregas deco
คุณพ่อ ฟาเบรกัส เดโก้?
หลังจากการพูดคุยระหว่างเมสซี่กับมูริญโญ่เสร็จสิ้น ดิมาร์ซิโอ้คิดว่าหลังจากนี้เชลซีคงจะเริ่มประชุมหารือในหมู่ผู้บริหาร และมาริน่า หนึ่งในผู้บริหารของทีมเองก็จะเริ่มเปิดฉากเดินดีลอย่างเป็นทางการ แต่วันนึงก่อนการซ้อมช่วงบ่ายของทีม เชสก์ ฟาเบรกัสซึ่งเพิ่งย้ายร่วมทีมเชลซีใหม่ๆ ได้วิ่งเข้าไปหามูริญโญ่ก่อนการซ้อม
"บอส! เลโอต้องการย้ายมาที่นี่ เดโก้โทรมาบอกผม ผมแทบไม่อยากจะเชื่อ ผมกับเขาเป็นเพื่อนกันมานาน เดโก้บอกว่าเขาโทรหาคุณด้วยแต่คุณไม่รับสาย"
"ฉันรู้ทุกอย่างแล้ว ฉันเพิ่งโทรคุยกับเมสซี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เอง" มูริญโญ่ตอบเชสก์
ตอนนั้นเอง ดิมาร์ซิโอ้เล่าว่า เชสก์ ฟาเบรกัสเริ่มรู้สึกเอะใจและสงสัย ,มูริญโญ่จะไปคุยกับเมสซี่โดยตรงได้ยังไง เพราะถ้าคุยกัน ยังไงก็น่าจะต้องผ่านฮอร์เก้ คุณพ่อและเอเยนต์ส่วนตัวของเมสซี่ก่อน
หลังจากนั้นเชสก์ก็โทรไปเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับเดโก้ ตัวเดโก้เองก็งุนงงเช่นกัน เพราะเขาไม่ใช่คนที่จัดแจงให้เมสซี่คุยกับมูริญโญ่แบบส่วนตัว เดโก้เลยตัดสินใจส่งข้อความไปบอกฮอร์เก้ คุณพ่อของเมสซี่
เมื่อพ่อเมสซี่รู้ข่าว ก็บอกทันทีว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครมาคุยกับเขาเลย ค่าเหนื่อยที่เชลซีจะจ่ายร่วม 50ล้านยูโรต่อปีมันเป็นไปไม่ได้ ไหนจะส่วนแบ่งค่าลิขสิทธ์ภาพลักษณ์กว่า 70% ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่
ดิมาร์ซิโอ้เล่าต่อว่าฮอร์เก้ พ่อของเมสซี่รีบต่อสายหาเมสซี่ทันทีว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
"ผมไม่รู้ว่าพ่อพูดเรื่องอะไร ผมสาบานได้เลย" และนั่นคือคำพูดสุดท้ายของเมสซี่ที่ปรากฏในหนังสือ
Grand Hotel Calciomercato ของดิมาร์ซิโอ้
ปิดฉากเรียบร้อยกับดีลมหากาพย์เมสซี่กับเชลซี, ดีลนี้ก็จะเป็น what if ต่อไปว่าถ้าเมสซี่ย้ายมาอยู่เชลซีในวันนั้น วันนี้ชีวิตเจ้าตัวจะเป็นอย่างไร จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างในโลกฟุตบอล หากเมสซี่ย้ายมาอยู่เชลซีสำเร็จ!?
https://www.skysports.com/football/news/11668/12103898/how-jose-mourinho-persuaded-lionel-messi-to-join-chelsea-from-barcelona-in-2014