ทันดูนะครับ เคยเข้าไปตอนเด็กมากๆครั้งนึง นอกนั้นดูจากวิดีโอเทปล้วนๆครับ
ตอนที่เข้าไปดูในคาเฟ่ น่าจะประถมเลยมั้งครับ เลยจำอะไรไม่ค่อยได้แล้ว ส่วนเทปยังพอจะจำได้บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นคณะของโน๊ตเชิญยิ้มอ่ะครับ

ที่ละ3-500 เล่นวันละ10+ ที่ ลองคูณดูดิ

รวยดิครับ วันศุกร์เสาร์เล่นถึงเช้า

ใครทันม้วนวีดีโอ ผมว่าก็น่าจะทันตลกคาเฟ่แหละ

ผมได้ดูบ้าง ไม่ได้ดูบ้าง (เพราะอยู่ต่างจังหวัด อาศัยทีวีอย่างเดียว)

แต่ข่าวใหญ่ คือ ยิงเสี่ยพระราม 9 นั้นแหละครับ

รายการชวนชื่นคาเฟ่ ผมดูตอนกินน้ำอยู่ พุ่งเต็มจอทีวีเลย555555

คณะสี่สีรุ่นบุกเบิก สีหมึก สีเผือก สีเทพ (เทพ เทียนชัย) สีสุริยา
ต่อมามาเป็น ตลกที่จะไปประจำเล่นอยู่ วงดนตรีคณะลูกทุุ่ง มาตั้งคณะตลกจนบูม เช่น เด๋อ ดู๋ ดี๋ ดอน แดง ต่อมาเทพ โพธิ์งามและคนอื่นๆ มีล้อต๊อก และเหี่ยวฟ้า มาร่วมด้วย

ด้านดี๋ได้แยกตัวมาร่วมกับจุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก ก่อตั้งคณะซุปเปอร์โจ๊ก ซุปเปอร์โจ๊กเริ่มมีชื่อ และได้นำเครื่องดนครี มาใช้กับคณะตลกเป็นครั้งแรก ทำให้เกิดมุขเพลง มุขตลกที่ใช้กลอง ตบมุข ตึกๆ โป๊ะ เริ่มได้อรรถรสมากขึ้น ซุปเปอร์โจ๊กแตกเป็น > หม่อมเหยิน เอ็ดดี้ สุเทพ สีใส (เป็นน้องของเปี๊ยก สังข์ทอง ซุปตาร์ลูกทุ่งสมัยนั้น)
-ส่วนหนึ่ง ตลกก็มาจากสายคณะลิเก เช่น กล้วย เชิญยิ้ม, เท่งเถิด เทิง (ตู้) , โย่ง เชิญยิ้ม (ไอ้ก้านยาว พิษณุโลก) แม้นแต่หนู จ๊ะเอ๋ ก็เคยเล่นลิเกมาก่อน ก่อนจะไปสร้างชื่อกับคณะอิสระเดือนเพ็ญ ของแดง เดือนเพ็ญ

เกิดตลกยุคอวกาศขึ้น
โน้ต เชิญยิ้ม, จเร (น้องโน้ต), เป็ด เชิญยิ้ม (เป็นครู ทำงานแบงก์มาก่อน), ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม สรายุทธ์ สาวยิ้ม (โดนยิงตายได้อ้วน มาแทน) มีชูษี มาที่หลัง ก่อนตั้งคณะ "เชิญยิ้ม" โดย พระรูปหนึ่งตั้งให้ นับเป็นคณะตลกตัวเป้งรุ่นบุกเบิก ต้นแบบให้เชิญยิ้มรุ่นต่อๆไป จนดังและเกิดกระแสตลกคาเฟ่ ในเวลาต่อมา (ในเวลาต่อมา เกิดคณะชวนชื่นที่ ดมย้ายจากลิเอยากไปเล่นตลกเล่นมีการไปศึกษาดูงาน คณะเชิญยิ้มก่อนจะมาตั้งคณะชวนชื่น)

เอาไทม์ไลน์เฉพาะตัวละครที่เขียน
-โน้ต ไปตั้งคณะโน้ต จเรไปอยู่กับโน้ต รุ่นแรกมีโน้ต เต๋อ เต่า เชิญยิ้ม ตีกลองก่อนได้ดันมาเป็นตลกดัง (พี่ของไจแอนด์) จ๊อด กล้วย ถั่วแระ กระรอก แดง บิ๊กโ๗จ๊ก +อื่นๆ
-เป็ด ไปตั้งคณะ เป็ด มีรุ่น 1 ไม่ดัง มาดังพีครุ่นที่ :มี 2 หนู ขมิ้น จ๊ะเอ๋ (ย้ายมาจากคณะอิสระเดือนเพ็ญของหมอแดง เดือนเพ็ญ) ตูมตาม และบัวทอง เด็กเสริ์ฟที่เป็ดเอามาปั้น ต่อมายกคณะให้กับถั่วแระ > ถั่วแรก ไจอแนด์ นุ้ย โป้งเหน่ง หน่อย ต่าย
-ศรีหนุ่ม ไปตั้ง คณะศรีหนุ่ม: มีตัวดังๆ เช่น อุ๊ เฉิน เจี๊ยบ ตัวปูระดับท็อปอย่างเล็ก เชิญยิ้ม ต่อมาจะยกทีมเกือบทั้งหมดไปช่วยคณะหนู ที่เพิ่งจะก่อตั้งในเวลาต่อมา
-ชูษี ไปตั้งคณะชูษี ไปไม่รอด : มีตัวดังๆ เท่ง น้ำหวาน เพียว โหน่ง นุ้ย ลูกต้น
-เด๋อ ดู๋ ดี๋ ดอน แดง ต่อมาเทพ ตลกรุ่นก่อนหน้าเป็ด โน้ต ก็ล้วนไปตั้งคณะตัวเอง โดยเฉพาะ เทพ โพธิ์งาม ไปตั้งคณะเทพ มีเฉ่ง ช่อมะดัน น้อย โพธิ์งาม แดน บุรีรัมย์ ต่อฝรั่งบิลลี่ และหม่ำ จ๊กม๊ก ย้ายจากคณะเก้ายอด
-หม่ำ จ๊กม๊ก แยกจากเทพ ไปตั้งคณะตนเอง : มีตัวดังๆ ยุคแรก คือ จตุรงค์ มีเรื่องกับอาจารย์แดงต้องแยกตัวมา จตุรงค์ถือได้ว่าเป็นโนว่าตลกเลยตอนนั้น ดังฮา หม่ำเลยใช้สายตาดีไปชวนมาทำทีม ได้หยองลูกหยี อาแป๊ะ (อาของบอย ชิงร้อย) น้องสาวคือแวว จ๊กม๊ก มีเมีย มด มาร่วมเล่น และเท่ง (ตู้ เชิญยิ้ม ตามมาย้ายมาจากคณะเพื่อนอิสระ ก่อนหน้านี้เท่งไปมีเรื่องโดนเป็ด ตามคุกคาม) ต่อมาลูกทีมดังแยกไปตั้งคณะตัวเอง ต่อมายุคที่ 2 จึงดึง โหน่ง เชิญยิ้ม ที่ตอนนั้นหนูจะแยกกับเป็ด เลยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก สุดท้ายย้ายไปอยู่กับหม่ำ เพื่อความสบายใจสองฝ่าย เป็นสามช่า ได้ส่มเช้ง น้องเท่ง กับแดง คณะเด๋อมายืนเป็นตัวเซ่อ

อันนี้ตัวอย่างแล้ว ตลกก็แตกตัวออกเป็น กระแส เป็นจุดพีค เกิดตลกคนแล้วคนเล่า รายได้เข้ามาทะลัก คณะดังๆ ต้องเวียนเล่นวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 7-12+ ที่ต่อวัน คณะดังต้องทำเวลาจะไปรวมกันที่เรียกว่า สายใต้ (เรียกว่าสมาคมรวมตัวตลกก็ว่าได้) ตลกคณะพี่ใหญ่จะแบ่งงานให้รุ่นน้องๆ คาเฟ่ บูมมาก มีข่าวอุ้มไชยา มิตรชัย/โก๊ะ ตี๋กันเลยทีเดียว
บูมขนาดมีการแข่งขัน ทั้งดารา เฮียเลี้ยง วิลล่า คาเฟ่ กับ สมยศ ดารา คาเฟ่ ต่อมามีเจ๊ จรรยาสายพรชัย

คาเฟ่ บูมมาก ก็ทำให้ตลกร่ำรวยมากๆ เช่นกัน รายได้หลักของคณะตลกคณะหนึ่งนอกจากจะรับงานเป็นคิวๆ หลายที่ต่อวันแล้ว ตลกยังได้รายได้ จากการอัดวิดีโอ ที่เขาคงคุ้นชิน พี่มิสเตอร์ก้อย เฮียหนวดโยโก๊ะ พี่เสริมเวช บลาๆ

มีพีคก็มีจาก
อันนี้ผมวิเคราะห์เอง ทำให้ กระแสตลกคาเฟ่ดิ่งลง
- กาลเวลา ตามบริบท > ในสมัยนั้น สื่อบันเทิงเริงรม มีน้อย มีทีวี มีไม่กี่อย่าง คนต้องผ่อมาดูตลกถึงที่ รายได้คนในสังคมดี เศรษฐกิจเฟื่องฟู คนไทยสมัยนั้นจับจ่ายหรูหรา ฟุ่มเฟือย ผิดกับสมัยนี้ สื่อไม่ได้ผูกขาดแต่ในทีวี แต่ในวิดีโอ ทำให้ตลกไม่บูม
- หมดมุข > ตลกเริ่ม เล่นมุขเดิม แรกๆ เอามุขใหม่ๆ มาก็ตื่นตา ก็ฮา แต่นานๆ วันเข้าคนเริ่มจับทางได้ ตลกก็เล่นกันอยู่ไม่กี่มุข เช่น มุขเสี่ยมาเที่ยวคาเฟ่ มุขตับ มุขล็อค มุขเพลง
- หมดมุขเริ่มหยาบคาย เสื่อมมากขึ้น > ตลกยุคหลังๆ ดูได้จากคณะโหน่ง เริ่มเล่นแบบเสื่อม ฮาร์คคอร์ เพราะมีเริ่มหยาบ เริ่มแรง ด่าพ่อล่อมา เปิดตูด เมื่อเล่นไปแล้วก็ ต้องเล่นให้ทวีๆ ยิ่งขึ้น
- อิ่มตัว > เมื่อมีคณะตลกผุดเป็นดอกเห็ด ประกอบกับมุขตลกที่ไม่มีคนคิด มีแต่คนขโมย เอาคณะอื่นๆมาเล่น ตลกจึงอิ่มตัวไม่มีอะไรแปลกใหม่อีกต่อไป
- นโยบายภาครัฐ> ตอนนี้มีการปิดคาเฟ่ สถานเริงรมณ์ ไม่เกิน ตี 2 ขยับมาปิดเร็วขึ้น ประกอบปัจปัจจุัยตามข้างบน คาเฟ่เริ่มเสื่อมลงๆ คาเฟ่ค่อยลดความนิยมจากผู้บริโภคจนทยอยปิดตัว พอไม่มีคาเฟ่ ตลกก็มีรายได้หดหายและล้มหายตายจากกันตามไป
- ทีวีเริ่มบูม > ตลกเริ่มมีการขยับจากคาเฟ่ไปอยู่ทีวี โดยคนแรกๆ ที่เริ่มปรับตัวและเบิกทางก่อนที่ หม่ำ จ๊กม๊กไปอยู่กับเวิรคพ้อยท์ ตามนโยบายของพาณิชย์ สดสี ที่เสนอต่อเสี่ยตา ที่จะดึงเอาตลก และปรับรายการเวิร์คพ้อยให้มีตลกคู่กันไป (นับว่าปังในเวลาตาอมมา) ซึ่งหม่ำได้ไปทำทีวีก่อนใคร เช่นในชิงร้อยมีหม่ำร่วมกับเอ็ดดี้ ผีน่ารักต่อมาตามมาด้วยหนู เชิญยิ้มก็ได้ไปอยู่กับเวิร์คพ้อยเช่นกัน เกิดเป็นแก๊งค์สามช่ายุคแรกคือหม่ำ เท่ง หนู ก่อนโหน่งจะมาเสียบแทนหนู เพราะเรื่องข่าวทางลบของหนู และ โหน่งเป็นคนขับรถและได้ร่วมเล่นครั้งแรกในรายการระเบิดเทิงเถิด ก่อนจะเข้าร่วมถาวร นอกจากเวิร์คพ้อย ต่อๆมา ตลกก็ เข้าสู่รายการทีวีมากขึ้น ทิ้งจากคาเฟ่ที่เงียบเหงา

ไว้จะมาเล่าให้ฟังนะครับ พ่อผมเปิดคาเฟ่ มีเรื่องโหด มันฮาเล่าให้ฟังเยอะเลย พอดีตอนนี้พิมพ์ในมือถือไม่สะดวกเท่าพิมพ์คีย์บอร์ดคอมครับ

ไปวิลล่าคาเฟ่ค่อนข้างบ่อย ตอนวัยรุ่น
บรรยากาศ เหมือนร้านอาหาร
แต่จะมีตลกสลับกับนักร้อง เล่นกันตลอดคืน
ปิดประมาณ ตีสามตีสี่ ก่อนยุปุรชัยจะมา

ตลกที่กล่าวมาถึง จะเป็นยุคออกทีวีแล้ว
เชิญยิ้มก็แตกเป็นคณะลูกไปหมดแล้ว
ส่วนมากจะวิ่งรอก ดารา วิล่า พระรามเก้า กรุงธน
ที่นึงได้ สามถึงห้าพัน แล้วแต่ความดัง

ความเป็นปัจเจก ที่มีเฉพาะในคาเฟ่
คือพวกเสี่ย ๆ ที่มาเที่ยว
ช่างก่อนต้มยำกุ้ง แข่งกันคล้องมาลัย
สาว ๆ บางคืนได้คืนละเป็นหมื่น ตอนก๋วยเตี๋ยวชามละสิบห้าบาท

มันคือยุคศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา อังคารดูหงส์ พุธอาบอบนวด พฤหัสดูแมนยู 555

แต่ปัจจุบันทุกคนเอาแต่ก้มหน้าเล่นมือถือ/ไอแพด ไม่มองโลกรอบข้างกันแล้ว แต่งงานมีลูกกันน้อยลง ซื้อตุ๊กตายาง ดิลโด้ อีกไม่นานก็จัดกับหุ่นยนต์