เห็นด้วยกับเรื่องทรงกระบอก - ขอโน๊ตเพิ่มเก็บไว้ครับ ขอบคุณครับ

ผมมองว่าในภาพสื่อคือการให้ฝ่ายที่จะช่วยเหลือใครมองถึงตัวตนของคน ๆ นั้นก่อนที่จะช่วยจริงครับ เพราะทุกการช่วยมีราคาที่ต้องจ่าย ในภาพจะสื่อว่าด้านขวาช่วยโดยไม่มองให้รอบด้าน (ตามองเชือกที่จะตัดเพื่อช่วยอีกคนแต่ไม่ได้เหลือบมองว่าอีกคนเตรียมจะทำอะไรที่เป็นภัยกับตัวเองอยู่)

ส่วนกรณีที่คุณถามมาถ้ารอให้ตัดเสร็จแล้วค่อยยืนเท้าไปคืออาจไม่ทันเพราะอีกฝ่ายสังเกตเห็นและเตรียมป้องกันหรือสวนกลับแล้ว ผมเดาว่าแบบนั้นนะครับ

ในสถานการณ์จริงเคสแบบนี้ถ้าอีกฝั่งจะดัดหลังเราเค้าจะทำตอนที่เราเชื่อใจไว้ใจและในสถานการณ์ที่ดูเหมือนเค้าไม่น่าจะทำอะไรเรานี่แหละครับ มันถึงมีเคสเพื่อนหรือคนสนิทหักหลังตลอดครับ

เข้าใจอยู่ครับ ในส่วนของคนตัดเชือก แต่ไม่เข้าใจในส่วนของคนถีบเก้าอี้ มันโง่มากเลยนะ เค้าตัดเชือกให้อยู่ไปถีบเก้าอี้เฉย มันโง่เกินไปอะ

จริงแต่อันนี้ประมาณเปรียบเปรยมากกว่าครับ ในชีวิตจริงมันมีอะไรแบบนี้เรื่อย ๆ ครับ เช่น ลูกจ้างที่ฆ่านายจ้างเพื่อหวังทรัพย์สิน เพื่อนสนิทที่ฆ่าเพื่อนตัวเองที่ช่วยเหลือมาเพราะหวังลูกหรือเมียเค้า มนุษย์มันมีอะไรคาดไม่ถึงในความคิดได้ตลอดครับ

รูปอธิบายไอ่ตู่ได้โคตรชัดเจน

ดีเลยครับ ชุดนี้

ผมว่าความหมายมันกว้างๆ นะ รูปก็ทำแบบให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น

ทำไงยังไงถึงจะไปได้เร็วและไม่ต้องเหนื่อยมาก นี่แหละทำงานฉลาด เพราะจะดันกล่องสี่เหลี่ยมมันยากกว่าเยอะ แต่แน่นอนว่าต้องเสียเวลาในตอนแรก ที่คนทำงานหนักดันกันไปหมดแล้ว แต่คนฉลาดพยายามทำบางสิ่งในตอนแรก เหนื่อยกว่าในตอนแรก แต่มันคุ้มค่า

เข้าใจครับว่าต้องการเปรียบเปรย

เพียงแต่การทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดมันคือผลลัพธ์ถูกไหมครับ

คุณทำงานเร็วแค่ไหน เหนื่อยน้อยแค่ไหน แต่ผลลัพธ์ผิด ยังไงก็ไม่ผ่านครับ

ยกตัวอย่างสมมติมีข้อมูลเยอะมากๆชุดนึงมาประมวลผล

คนนึงทำลงกระดาษ

อีกคนใส่ excel ใล่ใส่สูตร

อีกคนใส่ excel เขียน visual basic งานจบใน 1 click

ซึ่งอันนี้คือ work intelligent จริงๆ เพราะตอนจบได้ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่ทำเร็วกว่าเยอะ

รูปนี้ผมจะไม่อะไรเลย ถ้าเค้าวาดคนที่ intelligent เป็นการหาแผ่นอะไรสักอย่าง เอามาใส่ล้อ

แล้วเอาลูกบาศก์วางลงละเข็น

ทุกวันนี้ ชีวิตผมไม่มีความสุข เพราะทำข้อนี้ไม่ได้ ข้อเดียวเลย