ลูกๆผมก็เล่นเกมส์แทบไม่เล่นบอลเลย พวกนั้นมันคงสนุกกว่านะ

พอกันกับละครหลังข่าวอาทิตย์ละ 2 วันเลย ต้องมาคอยดูสดไม่กี่ชม.อีก น่าเบื่อ ยุคใหม่อยากดูตอนไหนต้องได้ดู สตีมทีจบ

เพื่อนที่ทำสนามบอล ก็ว่าพวกเด็กที่มาเรียนคลาสเห็นมีแต่เด็กที่พ่อแม่คลั่งบอลยัดเยียดมา เด็กไม่มีอินเนอร์อะไรกับเกมกับข่าวฟุตบอลเลย ถามผลบอลเมื่อคืนบางคนบอกไม่รู้ แล้วนอกคลาสแทบไม่มีกิจกรรมจับกลุ่มเตะกันเอง หรือไปแข่งขันที่ไหนในไลน์กลุ่ม เหมือนแค่มาออกกำลังกายตามพ่อแม่ส่งมา

ถ้าเป็นรุ่นก่อนที่ไม่มีมือถือไม่มีอินเตอร์เน็ต ถามเหอะกลางวันมันทำอะไรกันได้มากมาย เตะบอล/เล่นบาส เข้าร้านเกม เล่นไพ่ คือมีไม่กี่อย่างให้เลือก สมัยนี้เด็กมีมือถือหากิจกรรมหาเพื่อนในมือถือได้

เทคโนโลยี ก้าวหน้ามากขึ้น ทางเลือกมีหลากหลาย
มีบางส่วนบ้างแหละ ที่ยังชอบดูบอล อยากเป็นนักฟุตบอล
ต่อให้หมดความนิยมจริง ๆ บอลลีกแต่ละที่ ยังคงนิยม ยังเข้าไปดูกันเต็มสนาม ไม่สนใจว่านอกประเทศ หรือในไทยนิยมดูกันมั้ย แต่ประเทศเค้ายังนิยมกันอยู่

โตมากับ บอลแหละครับ คิดไรม่ายออก ก็ มาเตะบอลหลังเลิกเรียน แค่นี้มันก็มีความสุขละครับ

และการดูบอลมันต้องดูถ่ายทอดสด พอมาดูย้อนหลัง มันก็ไม่สนุกละ 55555

ผมดูแต่ไฮไลท์ครับ​ ตั้งแต่เรียนจบไม่ค่อยมีเวลาได้ดูบอลเลยเพราะต้องไปทำอย่างอื่น​
5ปีมานี้​ ผมดูเต็มเกม​ไม่ถึง20เกม​ ถ้าเตะก่อน2ทุ่มผมดูได้​ เกินกว่านั้นดูผ่านๆ

ส่วนใหญ่ดูแมนซิกับลิเวอร์พูล​ เพราะสนุก

ส่วนมิลานทีมรัก ตั้งแต่เรียนจบดูไม่ถึง5ครั้ง​ เตะดึกเหลือเกิน
ทำไงได้มันรักไปแล้วมันก็ต้องคอยติดตามข่าวตลอด​ แต่แค่ไม่ได้ดูถ่ายทอดสด

ผมว่าฟุตบอลมันไม่ได้ดูฟรีเหมือนอีสปอร์ตอะมันเลยเข้าถึงยาก อีสปอร์ตสมัยนี้ไม่ว่าจะรายการใหญ่แค่ไหนก็ดูฟรีหมดนะแถมฉายในแพลตฟอร์มใหญ่ๆด้วย ภาพคมชัดไม่มีกระตุกดูได้ในมือถือเลย
ผิดกับฟุตบอลที่มันต้องเสียเงินแล้วยังไปฉายในแพลตฟอร์มเฉพาะอีกซึ่งแม่งกระตุกชิบหาย ไปดูเถื่อนก็กระตุกไม่ต่างกัน แล้วอีกอย่างเด็กสมัยนี้มันเล่นเกมเยอะเวลาดูแข่งเกมที่ตัวเองเล่นมันเลยยิ่งอิน ไม่เหมือนฟุตบอลที่ต้องออกไปเตะท่ีสนาม

คนรุ่นเดียวกันเองผมเห็นไปดูบาสกันเยอะขึ้น เผลอๆเยอะกว่าบอลอีก
เกมมันไวกว่า จังหวะเข้าทำต่างๆ

บอลนี่บางแมชจบ 0-0 เกมอย่างเนือยงี้

จริงครับ เด็กสมัยนี้เชียร์ซิตี้เยอะมาก แล้วผญที่เริ่มดูบอลจะเชียร์ลิเวอร์พูลหรือแมนซิตี้เป็นหลัก แต่ก็มีแมนยูบ้างนิดหน่อยแต่จะเป็นคนที่เริ่มเชียร์ได้ประมาณ 4-5ปีแล้ว
แต่ยุคหลังๆมานี่แมนซิตี้มาแรงจริงๆครับ เด็กๆ10ขวบขึ้นไป

ไม่ต้องแปลกใจครับท่าน พวกเด็กในอคาเดมี่ต่างๆที่พ่อแม่ส่งไปฝึกฟุตบอล กับเด็กๆทีมโรงเรียนต่างๆ เดี่ยวนี้แทบจะไม่ดูบอลกันเลย
แต่เข้าใจได้นะสื่อเดี่ยวนี้มีให้เลือกดูเยอะ แต่ก็เสียดายส่วนตัวผมมองว่าการได้ดูบอลตั้งแต่เด็กมันซึมซับอะไรได้หลายอย่าง แค่ได้ดูบ่อยๆความสามารถเด็กๆก็เพิ่มขึ้นแล้วทางใดทางนึง

ตอนซุปเปอร์ลีคเปเรซก็เคยออกมาพูดไงว่าไม่อยากให้เด็กเอาแต่ก้มหน้า ถึงมีโปรเจ็คท์จะให้วงการฟุตบอลยังยืนได้บนหัวแถวของกีฬาเอนเตอร์เทน

ขนาดฟีฟ่าเองยังอยากจะปรับเปลี่ยนบอลโลกเป็นสองปีครั้งเลย ซึ่งสี่ปีมันนานเกินกว่าโลกยุคปัจจุบันที่วิ่งไวแบบก้าวกระโดดไปแล้ว อนาคตก็จะยิ่งไวมากขึ้นไปเรื่อยๆ

แต่ผมก็รู้จักเด็กม.ต้นสองคนนะที่มีทีมเชียร์

เดิมคนดูบอล 100 คน

คนเกิดก็น้อยลง แทนที่คนตาย

คนที่เกิดมาใหม่ก็ใช่ว่าจะแทนที่คนดูบอลคนตายไปแล้ว

คนที่เกิดมาใหม่ ถ้าแบ่งไปดู E-sport แทนสัก 2 คน จากคนดูบอล 100 คน ก็เหลือ98 คน แล้ว

ผมกลับไป รร เก่าช่วงก่อนเกิดโควิด สมัยก่อนสนามหญ้าเด็กต้องเตะบอลกันเต็มพื้นที่

ตอนนี้เหมือนมันน้อยลงไปสัก 30-40% พวกเด็กผู้ชายนะ เดินไปโรงอาหาร เห็นนั่งตีป้อมเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 5 คนบ้าง บางกลุ่มก็ 10 คนบ้าง


เด็กยุคผมมันไม่มีนะครับมือถือเล่นเกมได้ มือถือยังไม่มีพกเลย ก็เตะบอล ซึบซับและกลายเป็ฯความบ้าบอล เด็กยุคนี้มันก็คงเป็นอีกแบบแหละ ยุคสมัยไปเปลี่ยนไปแล้ว แต่สุดท้ายฟุตบอลผมว่ายังคงอยู่ต่อไป แค่โดนแบ่งๆไปบ้างเท่านั้น

หลานๆ เพื่อนๆที่พอรู้ความ 3คน อยู่ ม 1-3 ถามดู เขาก็ไม่ดูบอลกันไปละ 3 คน หรือ เด็กที่มันดู ผมไม่เจอไม่รู้