BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ARSENAL till i die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 4315
ที่อยู่: YG stan/ITZY/Taeyeon/BIBI/Zico/Jaypark/Sik-k/NewJeans
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 09:29
#Update IT (Wed May 18, 2022)

update IT สั้นๆ กันค้าบ
\( ̄︶ ̄*\))(*  ̄3)(ε ̄ *)o(* ̄▽ ̄*)o






หลุมดำ SgrA* ใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือก
ถูกบันทึกภาพได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

Spoil

https://www.bbc.com/thai/international-61426351

หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ซีกโลกใต้แห่งยุโรป (ESO) และเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ขอบฟ้าเหตุการณ์ (EHT) ที่เคยบันทึกภาพหลุมดำภาพแรกได้สำเร็จในปี 2019 ร่วมกันเผยแพร่ภาพถ่ายภาพแรกของหลุมดำมวลยิ่งยวด ซาจิตทาเรียสเอสตาร์ (SgrA*) ที่ใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือก

ภาพถ่ายนี้เป็นหลักฐานเชิงรูปธรรมชิ้นแรกที่ยืนยันว่า ดาราจักรที่เราอาศัยอยู่มีหลุมดำมวลยิ่งยวดเป็นศูนย์กลางจริง หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักดาราศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลปี 2020 ได้ทำนายไว้ว่า ลักษณะการโคจรของดาวฤกษ์หลายดวงที่แถบใจกลางดาราจักร แสดงถึงการได้รับอิทธิพลจากแรงโน้มถ่วงมหาศาล ซึ่งมาจากวัตถุมวลมากที่มองไม่เห็น โดยวัตถุนี้น่าจะตั้งอยู่ห่างจากโลกราว 26,000 ปีแสง

ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติกว่า 300 คน ร่วมกันวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล 6 เทราไบต์ ที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์วิทยุบนโลกรวม 8 แห่ง เป็นเวลานานหลายปี จนสามารถบันทึกภาพหลุมดำมวลยิ่งยวด SgrA* ได้ในที่สุด ทั้งที่ตามปกติแล้วเราไม่อาจจะทำได้เลย เนื่องจากมีกลุ่มฝุ่นและก๊าซที่หนาแน่นมากปกคลุมบริเวณใจกลางดาราจักรอยู่

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยสังเกตการณ์ในย่านรังสีอินฟราเรด ทำให้สามารถมองทะลุกลุ่มฝุ่นและก๊าซที่บดบังแสงสว่างของ SgrA* จนเข้าไปเห็นหลุมดำมวลยิ่งยวดที่ขอบฟ้าเหตุการณ์ของมันส่องแสงสว่างเจิดจ้า เนื่องจากมีกลุ่มก๊าซร้อนหมุนวนอยู่โดยรอบด้วยความเร็วสูงถึง 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งกลุ่มก๊าซนี้จะแผ่คลื่นวิทยุออกมา ทำให้เครือข่ายกล้องโทรทรรศน์วิทยุบนโลกสามารถตรวจจับได้

หลุมดำมวลยิ่งยวด SgrA* มีมวลถึง 4 ล้านเท่าของดวงอาทิตย์ มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างใหญ่ถึง 60 ล้านกิโลเมตร แต่ก็ยังมีขนาดเล็กกว่าหลุมดำมวลยิ่งยวด M87* ที่ถูกบันทึกภาพเป็นแห่งแรกเมื่อสามปีก่อนถึง 1,000 เท่า ทำให้ SgrA* บันทึกภาพได้ยากกว่ามาก เพราะกลุ่มก๊าซร้อนที่หมุนวนอยู่โดยรอบจะไม่เสถียรและเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายของหลุมดำมวลยิ่งยวดทั้งสองมีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายคลึงกัน ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถสรุปได้ว่า แม้หลุมดำจะมีขนาดหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันแค่ไหน แต่ห้วงอวกาศโดยรอบของหลุมดำก็จะถูกควบคุมด้วยแรงโน้มถ่วงมหาศาลอยู่เสมอ

การบันทึกภาพหลุมดำมวลยิ่งยวด SgrA* ในครั้งนี้ นอกจากจะใช้การสังเกตการณ์ผ่านกล้องโทรทรรศน์วิทยุ ALMA ในประเทศชิลีแล้ว เครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ขอบฟ้าเหตุการณ์ (EHT) ที่ตั้งอยู่ในหลายประเทศ ยังใช้เทคนิคที่เรียกว่าการตรวจวัดการแทรกสอดระยะไกล (VLBI) สร้างเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ที่ทำงานได้เหมือนเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวกัน แต่มีประสิทธิภาพเสมือนว่ากล้องมีขนาดใหญ่เท่ากับโลกทั้งใบเลยทีเดียว
 







นักธรณีวิทยาดาวอังคารชี้ “ประตูเอเลียน”
เกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติ

Spoil

https://www.bbc.com/thai/international-61448753

หลังจากองค์การนาซาเผยแพร่ภาพถ่ายน่าพิศวงของภูมิประเทศบนดาวอังคาร ซึ่งหุ่นยนต์ตระเวนสำรวจคิวริออซิที (Curiosity Rover) ได้บันทึกภาพช่องหินที่ดูคล้ายกับประตูทางเข้าสถานที่ลับเอาไว้นั้น ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาของดาวอังคารหลายคนชี้ว่า มันเป็นร่องรอยการกัดเซาะตามธรรมชาติ ไม่ใช่ประตูที่สร้างโดยฝีมือมนุษย์หรือเอเลียนแต่อย่างใด

นีล ฮอดจ์กินส์ นักธรณีวิทยาชาวอังกฤษ รองประธานบริษัทวิจัยทางธรณีศาสตร์ Searcher ผู้ศึกษาสภาพภูมิประเทศของดาวอังคารมานาน กล่าวให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Live Science ว่าแม้ช่องหินดังกล่าวจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม เหมือนถูกตัดหรือขุดเจาะด้วยฝีมือของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา แต่สำหรับเขาแล้วมันดูเหมือนร่องรอยการกัดเซาะด้วยลมหรือน้ำตามธรรมชาติมากกว่า

ดร. นิโคลาส แมนโกลด์ นักธรณีวิทยาดาวเคราะห์จากมหาวิทยาลัยน็องต์ของฝรั่งเศสระบุว่า มีหลายสิ่งในภาพที่บ่งชี้ว่ามันไม่ใช่ "ประตูเอเลียน" อย่างแน่นอน อันดับแรกคือเรื่องของขนาดที่ประเมินแล้วน่าจะมีความสูงไม่ถึง 1 เมตร ประกอบกับแสงเงาที่ปรากฎทำให้ดูเสมือนว่าเป็นช่องลึกเปิดเข้าไปด้านใน ทั้งที่จริงแล้วเป็นเพียงช่องวางตื้น ๆ ในเนื้อหินเท่านั้น

ฮอดจ์กินส์บอกว่า "เนินเขาที่ช่องหินคล้ายประตูตั้งอยู่ มีลักษณะเป็นชั้นหินที่เกิดจากการทับถมของดินและทรายที่เป็นตะกอนก้นแม่น้ำ หรือไม่ก็เป็นเนินทรายที่ถูกลมพัดมาทับถมกันตั้งแต่ราว 4,000 ล้านปีก่อน โดยส่วนของทรายที่แข็งกว่าจะยื่นออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด"

ในบริเวณใกล้เคียงยังพบรอยแตกของหินในแนวตั้งจำนวนมาก ซึ่งฮอดจ์กินส์ชี้ว่าเมื่อรอยแตกเหล่านี้ขยายตัวจนมาพบกับชั้นหินที่ทับถมกันในแนวนอน สามารถจะทำให้เนื้อหินแตกหลุดออกมาเป็นก้อนใหญ่ โดยมีรูปทรงบางส่วนคล้ายกับมุมเหลี่ยมและขอบบางด้านแทบจะเป็นเส้นตรงได้ ซึ่งจากในภาพยังคงมีชิ้นส่วนของหินที่แตกหลุดออกมาให้เห็นอยู่

"นี่เป็นเรื่องธรรมชาติมาก และเราก็พบชั้นหินที่แตกออกเป็นรูปทรงคล้ายกันนี้ได้ ตามพื้นที่แห้งแล้งหลายแห่งทั่วโลก" ฮอดจ์กินส์กล่าวอธิบาย

ดร. แมนโกลด์กล่าวสนับสนุนความเห็นข้างต้นว่า "โครงสร้างของชั้นหินที่ประกอบกันขึ้นเป็นเนินเขาแห่งนี้ มีรอยแตกอยู่ทั่วไปทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง ทำให้ง่ายต่อการเกิดก้อนหินที่จะแตกหลุดออกเป็นทรงกล่องสี่เหลี่ยม"

"แต่ผมไม่เห็นด้วยกับที่บางคนบอกว่า แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงบนดาวอังคารเมื่อปลายปีที่แล้วและเมื่อต้นเดือนพ.ค. ทำให้เกิดช่องคล้ายประตูนี้ขึ้น เพราะรอยแตกในชั้นหินที่เป็นสาเหตุหลักนั้นมีมานานหลายล้านปีแล้ว จากการกัดเซาะของแม่น้ำโบราณที่เคยมีอยู่บนพื้นผิวดาวอังคาร"

"แผ่นดินไหวน่าจะมีผลต่อการกะเทาะหลุดร่วงของชั้นหินนี้น้อยมาก เมื่อเทียบกับแรงเค้นที่กระทำต่อเนื้อหิน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิตามฤดูกาลบนดาวอังคาร" ดร. แมนโกลด์กล่าวสรุป

ประตูปริศนานี้เป็นภาพที่บันทึกได้จากภูเขาชาร์ป (Mount Sharp) ภายในแอ่งหลุมเกล (Gale Crater) ซึ่งหุ่นยนต์สำรวจคิวริออซิทีจับภาพของมันได้ ขณะกำลังไต่ระดับขึ้นเขาสูง 5,500 เมตร โดยตั้งอยู่ตรงส่วนเนินเขาชันที่เรียกว่า Greenheugh Pediment ซึ่งมีพื้นผิวขรุขระคล้ายหลังจระเข้
 







แรงในธรรมชาติชนิดที่ 5 อาจสร้างกำแพงที่มองไม่เห็น
แบ่งพื้นที่ของแต่ละกาแล็กซีแยกจากกัน

Spoil

https://www.bbc.com/thai/international-61461601
ทีมนักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยน็อตติงแฮมของสหราชอาณาจักร เสนอแนวคิดใหม่ที่จะช่วยไขคำตอบให้กับปริศนาสำคัญของวงการดาราศาสตร์ เรื่องการโคจรที่เป็นระเบียบผิดปกติของดาราจักรบริวารที่อยู่โดยรอบกาแล็กซีทางช้างเผือกและกาแล็กซีใกล้เคียงอื่น ๆ

ปริศนาทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์ดังกล่าวเรียกว่า "ปัญหาจานบริวาร" (Satellite Disk Problem) ซึ่งเกิดจากการค้นพบว่ากาแล็กซีหรือดาราจักรขนาดเล็กที่เป็นบริวารของกาแล็กซีขนาดใหญ่ ในห้วงอวกาศบริเวณที่อยู่ใกล้กับกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรานั้น มีการโคจรโดยจัดเรียงตัวอย่างเป็นระบบระเบียบ บนระนาบคล้ายจานแบนที่ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เหมือนวงแหวนของดาวเสาร์

ลักษณะการโคจรดังกล่าวถือว่าผิดจากคำทำนายตามแบบจำลองแลมบ์ดา - ซีดีเอ็ม (ΛCDM ) ที่ใช้อธิบายโครงสร้างของจักรวาลในภาพรวม ซึ่งได้ระบุไว้ว่าตำแหน่งและวงโคจรของดาราจักรบริวารควรจะกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ ตามแต่แรงโน้มถ่วงจากกาแล็กซีศูนย์กลางจะกระทำต่อพวกมัน
ในอดีตเคยมีการเสนอแนวคิดเพื่อไขปริศนานี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ล่าสุดทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยน็อตติงแฮมชี้ว่าแบบจำลองแลมบ์ดา - ซีดีเอ็มนั้น ไม่สามารถอธิบายโครงสร้างของจักรวาลในระดับย่อยได้ดีเท่าที่ควร จึงต้องการเสนอแนวคิดใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า อนุภาคบางชนิดที่ยังค้นหาไม่พบ ซึ่งอาจเป็นสื่อนำพาแรงพื้นฐานในธรรมชาติชนิดที่ 5 (the fifth force) เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการแบ่งอาณาเขตในห้วงอวกาศ ซึ่งช่วยจัดระเบียบให้ดาราจักรบริวารดังกล่าว

ดร. อนีศ นาอิก หนึ่งในสมาชิกทีมวิจัย อธิบายในรายงานที่เผยแพร่ในคลังเอกสารวิชาการออนไลน์ arXiv.org ว่าอนุภาค "ซิมเมตรอน" (Symmetron) หนึ่งในอนุภาคเชิงทฤษฎีที่สร้างขึ้นเพื่ออธิบายสสารและพลังงานมืด รวมทั้งแก้ไขข้อบกพร่องในแบบจำลองมาตรฐานของฟิสิกส์อนุภาค อาจเป็นตัวการสร้าง "กำแพงอาณาเขต" (domain walls) ที่มองไม่เห็น คอยกั้นกลางระหว่างดาราจักรบริวารต่าง ๆ ให้เรียงตัวและโคจรอย่างเป็นระเบียบ

มีการทดสอบแนวคิดข้างต้น โดยสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ของเอกภพที่ขยายตัวด้วยอัตราเร่ง จนสภาพความหนาแน่นของอนุภาคซิมเมตรอนในพื้นที่ต่าง ๆ ของห้วงอวกาศลดลงอย่างมาก และเมื่อความหนาแน่นลดลงจนเกินขีดที่อนุภาคชนิดนี้จะคงค่าความเป็นกลาง หรือสภาวะสมมาตรที่พลังงานระดับต่ำสุดเท่ากับ 0 เอาไว้ได้ มันจะปรับเปลี่ยนมามีค่าพลังงานเป็นบวกหรือลบทันที ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของห้วงอวกาศแต่ละแห่งที่ไม่สม่ำเสมอกัน

"มีโอกาส 50/50 ที่อนุภาคซิมเมตรอนจะเปลี่ยนไปมีค่าเป็นบวกหรือลบ ดังนั้นพื้นที่โดยรอบกาแล็กซีต่าง ๆ จึงขยายตัวออกโดยมีค่าพลังงานที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดการแบ่งอาณาเขตด้วยกำแพงที่มองไม่เห็นออกเป็นส่วน ๆ โดยไม่ปะปนกัน" ดร. นาอิกกล่าวอธิบาย

อย่างไรก็ตาม ทีมผู้วิจัยยังต้องการจะทดสอบความถูกต้องของแนวคิดนี้ต่อไปอีก โดยสร้างแบบจำลองความเปลี่ยนแปลงของอนุภาคซิมเมตรอน ตั้งแต่ช่วงต้นของกำเนิดจักรวาลหลังเหตุการณ์บิ๊กแบง เปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มดาราจักรท้องถิ่นใกล้กาแล็กซีของเรา เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าการเรียงตัวที่เป็นระเบียบของดาราจักรบริวารนั้น เกิดขึ้นโดยทั่วไปในเอกภพ หรือเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะแถบกาแล็กซีทางช้างเผือกกันแน่
 







เปิดตัว WH-1000XM5 หูฟังไร้สายแบบครอบหูระดับพรีเมียม
เปลี่ยนดีไซน์ใหม่พร้อมอัปเกรดระบบ Noise Cancelation

Spoil

https://www.flashfly.net/wp/388571
Sony WH-1000XM5 ปรับดีไซน์ใหม่ที่ดูสลิม เพรียวบางกว่าเดิม โดยเฉพาะตรงก้านตัวเชื่อมต่อระหว่างที่คาดศรีษะและหูฟังจะดูมีขนาดที่เล็กลงชัดเจน และมีจุดหมุนแบบใหม่ พร้อมน้ำหนัก 250 กรัม เบาลงกว่ารุ่นก่อน 4 กรัม และยังรองรับการสั่งงานผ่านระบบสัมผัสหูฟังและมีการปรับเพิ่มขนาดพื้นที่สัมผัสใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย

ปุ่ม NC/Ambient ถูกแทนที่ด้วยปุ่ม Custom ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าการใชงานปุ่มนี้ให้เป็นการใช้คำสั่งอื่นได้ เช่น เปลี่ยนมาเป็นปุ่มเรียกผู้ช่วยดิจิตอลอย่าง Siri แทนได้ และยังมาพร้อมกับช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.

หูฟังมีไมโครโฟนมากถึง 8 ตัว (รุ่นก่อนหน้ามีเพียง 4 ตัว) มีการวางตำแหน่งตามหูฟังต่างๆ เพื่อการตัดเสียงรบกวนที่ดีขึ้น และตัดเสียงที่ความถี่มากขึ้นด้วย จะทำให้ปลายสายได้ยินเสียงการสนทนาที่ชัดเจนและเคลียร์มากขึ้น

Sony WH-1000XM5 มีไดรเวอร์ขนาด 30 มม. เทคโนโลยี LDAC รองรับไฟล์เสียงความละเอียดสูง และยังรองรับ SBC และ AAC อยู่ แน่นอนว่ายังมาพร้อมเทคโนโลยี DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) Extreme ที่พัฒนาร่วมกับทาง Sony Music เป็นการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยยกระดับคุณภาพไฟล์เสียงดิจิตอลที่ถูกบีบอัด ให้กลับมามีรายละเอียดและมีคุณภาพใกล้เคียงกับไฟล์เสียงต้นฉบับ อีกทั้งยังรองรับ 360 Reality Audio อีกด้วย

ด้านแบนเตอรี่ เมื่อเปิดโหมด active noise cancelation สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมง และเมื่อปิดจะสามารถใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง โดยการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง จะใช้เวลา 3 ชั่วโมง และยังรองรับ Power Delivery ชาร์จเพียง 3 นาที สามารถใช้งานได้ถึง 3 ชั่วโมง

แต่ว่าค่าตัวก็แอบเพิ่มขึ้นด้วยนะ เพราะเปิดราคามาที่ 399.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13,900 บาท (รุ่นก่อนเปิดมาที่ 349 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 12,140 บาท)
 







นักพัฒนาสร้างสถานีรถไฟ Etchū-Daimon จาก Unreal Engine 5
สมจริงจนแยกไม่ออก (ชมคลิป!!)

Spoil

https://www.flashfly.net/wp/388348
ผู้ใช้ YouTube รายหนึ่ง (subjectn) แชร์คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นบรรยากาศของสถานีรถไฟ Etchū-Daimon ในจังหวัดโทยามะ ของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเวลากลางและกลางคืน โดยไม่มีผู้คนอยู่ในบริเวณนั้นเลย เนื่องจากภาพที่เห็นไม่ใช่ของจริง

ความจริงแล้วบรรยากาศของสถานีรถไฟ Etchū-Daimon ที่ subjectn นำมาให้ชม ไม่ใช่สถานที่ในโลกจริง แต่เป็นโลกเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นโดย Unreal Engine 5 ซึ่งเป็นเอนจิ้นที่ผู้พัฒนาเกมหลายค่ายต่างก็นำไปใช้สร้างเกมยอดนิยม

จากคลิปวิดีโอที่ subjectn แชร์ให้ชม ได้แสดงให้เห็นโครงสร้างอาคารของสถานีรถไฟ Etchū-Daimon ในเวลากลางวันที่มีแสงจากดวงอาทิตย์ สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างจนเกิดแสงและเงาที่สมจริงจนแยกไม่ออกว่าเป็นสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ ขณะที่ช่วงเวลากลางคืนก็ให้รายละเอียดที่สมจริงมากยิ่งขึ้น ทั้งทางเท้าที่มีน้ำขัง โครงสร้างที่ดูเหมือนผ่านการใช้งานมานาน และ แสงเงาที่เกิดจากไฟฉายสาดส่อง


 







Sony เปิดตัว Xperia 1 IV จัดเต็มกล้อง ลำโพง และฟีเจอร์การเล่นเกม
เพิ่มไมค์เกรดโปร พร้อมแอปอัดเสียงสำหรับคนทำเพลง

Spoil

https://droidsans.com/sony-xperia-1-iv-launch-specs/

สเปค SONY XPERIA 1 IV
จอภาพ : OLED ขนาด 6.5 นิ้ว
– ความละเอียด 4K
– สัดส่วน 21:9
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– ขอบเขตสี 100% ของ DCI-P3
– รองรับ HDR
ชิป : Snapdragon 8 Gen 1
หน่วยความจำ : RAM 12GB
สตอเรจ : UFS 256GB, รองรับ microSD card สูงสุด 1TB
กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 12MP, ระยะเลนส์ 24 มม.
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP, ระยะเลนส์ 16 มม.
– กล้องเทเลโฟโต 12MP, ระยะเลนส์ 85 – 125 มม.
– โคตติง ZEISS T*
กล้องหน้า : 12MP
ลำโพง : สเตอรีโอ
– รองรับ 360 Reality Audio
– รองรับ DSEE Ultimate
– รองรับ Dolby Atmos
เครือข่าย : 5G
การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
– Bluetooth 5.2
– NFC
เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ
แบตเตอรี่ : 5000mAh
ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP65 / IP68
ระบบปฏิบัติการ : Android 12
ขนาด : 165 x 71 x 8.2 มม.
น้ำหนัก : 185 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย
Sony จะเริ่มเปิดให้พรีออร์เดอร์ Xperia 1 IV ในยุโรปในวันพรุ่งนี้
ราคา 1,399 ยูโร หรือประมาณ 51,199 บาท แล้วจะเริ่มวางจำหน่ายเต็มรูปแบบต่อไปในเดือนมิถุนายน
รวมถึงที่ภูมิภาคอื่น ๆ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ ขาว และม่วง


 







Sony Xperia 10 IV มือถือไซส์กะทัดรัด หน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว
พร้อมแบต 5000 mAh น้ำหนักแค่ 161 กรัม

Spoil

https://droidsans.com/sony-xperia-10-iv-officailly-announced/
สเปค XPERIA 10 IV
หน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2520 x 1080)
CPU : Snapdragon 695 5G
RAM : 6GB
ความจุ : 128GB รองรับ microSD 1TB
กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลักความละเอียด 12MP (f/1.8), ระบบกันสั่น OIS
– กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2)
– กล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (f/2.2)
กล้องหน้า : 8MP (f/2.0)
การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi IEEE802.11a / b / g / n / ac, BT 5.1
เซนเซอร์สแกนนิ้วมือด้านข้าง
ระบบเสียง : มีรูหูฟัง 3.5 มม., รองรับ LDAC, DSEE Ultimate, 360 Reality Audio
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น : IP65 / 68
แบตเตอรี่ : 5000 mAh
ระบบ Android 12

Xperia 10 IV มีราคาอยู่ที่ 499 ยูโร หรือประมาณ 18,300 บาท


 







Google Maps เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เอาใจขาเที่ยว Immersive View
เยี่ยมชมสถานที่แบบ 3D และฟีเจอร์ค้นหาเส้นทางประหยัดน้ำมัน

Spoil

https://droidsans.com/google-maps-new-features-immersive-view-eco-friendly-routing/

IMMERSIVE VIEW
บอกเลยว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าจะถูกใจสายเที่ยวแน่นอน เพราะ Immersive view ใน Google Maps เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้แอปนี้เป็นมากกว่าแอปนำทางทั่วไป เพราะเราจะสามารถค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องการ แล้วกดเข้าไปดูภาพของสถานที่จริงได้ทันที โดยภาพดังกล่าวไม่ใช่แค่ภาพ 2 มิติ ธรรมดา ๆ นะครับ แต่มันเป็นภาพแบบ 3 มิติ ที่ทาง Google ใช้ระบบ AI ในการรวบรวมภาพของสถานที่นั้น ๆ มาประมวผลจนเราสามารถส่องได้ทุกซอกทุกมุมเหมือนไปอยู่ในสถานที่นั้นจริง ๆ

แถมพวกร้านดัง ๆ ยังมีภาพ 3 มิติ ภายในให้ดูกันได้อีกต่างหาก ว่าในร้านเป็นยังไง บรรยากาศน่านั่งแค่ไหน พร้อมข้อมูลกำกับว่าตอนนี้คนเยอะรึเปล่า หรือการจราจรบริเวณร้านนั้นเป็นยังไงบ้าง จะได้เลือกขับรถไปเองหรือจะใช้ขนส่งสาธารณะดี

นอกจากนี้ยังมากับฟีเจอร์ที่จะแสดงภาพของสถานที่นั้นตามเวลาต่าง ๆ ของวัน หรือแยกดูตามฤดูก็ยังได้ด้วย ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเราอยากจะไปเยี่ยมเยียนสถานที่นั้นตอนไหน เพราะบางที่ก็อาจจะให้บรรยากาศตอนกลางคืนที่ดีกว่าตอนกลางวัน บางที่อาจจะวิวสวยตอนพระอาทิตย์ขึ้น บางที่ให้อารมณ์โรแมนติคในช่วงหน้าหนาวมีหิมะปกคลุม เป็นต้น

ตอนนี้ฟีเจอร์ Immersive view สำหรับ Google Maps เริ่มให้บริการแล้วในลอส แองเจลิส, นิวยอร์ค, ซานฟรานซิสโก, โตเกียว และจะขยายการใช้งานต่อไปยังหัวเมืองใหญ่ ๆ ตามประเทศอื่น ๆ ต่อไปครับ

ECO-FRIENDLY ROUTING
ปกติแล้วเวลาที่เราใช้ Google Maps ในการค้นหาเส้นทางเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายเนี่ย เรามักจะเลือกเส้นทางที่มันใกล้ที่สุดเพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยประหยัดเวลาและประหยัดเชื้อเพลิงในการเดินทางได้ แต่จริง ๆ แล้วเส้นทางที่ใกล้ที่สุดอาจไม่ได้เร็วที่สุดก็ได้ เพราะอาจมีทั้งการจราจรที่ติดมากกว่า มีถนนแคบทำความเร็วไม่ได้มาก พื้นถนนยังไม่ดี หรืออื่น ๆ

ซึ่งคราวนี้ระบบนำทางใน Google Maps ได้เพิ่มตัวเลือกของการนำทางด้วยเส้นทางที่ประหยัดเชื้อเพลิงที่สุด โดยเส้นทางแบบนี้จะมีสัญลักษณ์รูปใบไม้กำกับไว้ให้รู้ว่าเป็นเส้นทางที่ขับได้สะดวก ถนนไม่ขรุขระทำความเร็วได้สม่ำเสมอ และแน่นอนว่ารถไม่เยอะจนแออัด ซึ่งตอนนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวเปิดให้ใช้ได้แล้วในสหรัฐอเมริกา กับแคนาดา และกำลังจะเริ่มขยายการใช้งานในโซนยุโรปต่อไป

สำหรับฟีเจอร์เจ๋ง ๆ เหล่านี้อย่างที่บอกว่า Google พึ่งเริ่มเปิดให้ใช้ได้ในบางประเทศเท่านั้น และคาดว่าน่าจะใช้เวลาอักพักใหญ่ ๆ กว่าที่เราจะได้ใช้กัน…แต่ก็นับว่าเป็นอะไรที่น่าตั้งตารอใช้เลยล่ะ เพราะนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง การท่องเที่ยวแล้ว มันยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเดินทาง แถมยังช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นลงไปได้อีกด้วยนะ
 







สรุปฟีเจอร์ใหม่ Android 13 ยกระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
เตรียมอัปเดตแอปให้รองรับแท็บเล็ตเต็มรูปแบบ

Spoil

https://droidsans.com/android-13-whats-new-feature/

1. แยกสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์มีเดียตามหมวดหมู่
ใน Android 13 ผู้ใช้งานจะให้สิทธิ์ในการเข้าถึงไฟล์สื่อแก่แอปต่าง ๆ ได้เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น จากเดิมคือ กดให้สิทธิ์ครั้งเดียวเป็นการเหมารวมไฟล์มีเดียทั้งหมด แต่ล่าสุดมันได้ถูกแยกหมวดหมู่ออกจากกันแล้ว เป็น “ไฟล์รูปภาพและวิดีโอ” กับ “ไฟล์เพลงและเสียง” ยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันง่ายขึ้น เช่น แอปแกลเลอรี มีเอาไว้ดูรูปภาพและวิดีโอ ก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเข้าถึงไฟล์เพลงและเสียง และในทางตรงกันข้าม แอปเครื่องเล่นเพลง มีหน้าที่เล่นเพลง การให้สิทธิ์เข้าถึงได้เฉพาะไฟล์เพลงอย่างเดียวนั่นก็เพียงพอแล้ว

2. แอปไหนจะส่งแจ้งเตือน ต้องขออนุญาตก่อนในครั้งแรก
เดิมที เราสามารถตั้งค่าได้ว่า จะให้แอปไหนส่งหรือไม่ส่งการแจ้งเตือนอยู่แล้วก็จริง แต่ Google ได้ทำให้มันง่ายขึ้นไปอีก โดยกำหนดให้แต่ละแอปต้องมีการขอสิทธิ์จากผู้ใช้งานก่อนเสมอในครั้งแรก เป็นอัปเดตที่ดูแล้วมีประโยชน์มาก ลดขั้นตอนและความวุ่นวายลงไปได้เยอะทีเดียว

3. ลดการขอสิทธิ์ระบุตำแหน่งโดยไม่จำเป็น
Google บอกว่า กำลังพยายามลดการขอสิทธิ์เข้าถึงการระบุตำแหน่งของแอปที่ไม่จำเป็นออกไป หนึ่งในตัวอย่างที่เพื่อน ๆ บางคนอาจเคยเจอกันคือ มันจะมีแอปบางตัวที่บังคับให้เราเปิด GPS ขณะสแกน Wi-Fi และ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อะไรสักอย่าง เป็นต้น

4. เพิ่มฟังก์ชันลบข้อความในคลิปบอร์ดโดยอัตโนมัติ
เมื่อแอปเข้าถึงคลิปบอร์ด ระบบจะส่งแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานทราบแบบเรียลไทม์ พร้อมการปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 2 อย่าง (เป็นอย่างน้อย) อย่างแรกคือ ฟีเจอร์ลบเนื้อหาในคลิปบอร์ดโดยอัตโนมัติ เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ข้อความ รูปภาพ หรือคอนเทนต์อื่น ๆ ที่ถูกก๊อบปี้อยู่ในคลิปบอร์ดจะหายไปเอง เดิมทีฟีเจอร์นี้มีอยู่แล้วใน Gboard ที่เป็นแอปคีย์บอร์ดติดเครื่องของ Pixel และสมาร์ทโฟนอีกหลายยี่ห้อ แต่คราวนี้ Google ฝังเข้ามาในระบบ Android 13 เลย

อย่างถัดมาคือ Clipboard editor ลักษณะเดียวกับเวลาที่เราจับภาพหน้าจอใน Pixel แล้วจะมีโอเวอร์เลย์โผล่ขึ้นมา ให้แก้ไขเนื้อหา ลบทิ้ง หรือแชร์ต่อไปยังแอปอื่น ฟีเจอร์นี้ Google ใส่มาตั้งแต่ Beta 1 แต่ไม่ได้มีการพูดถึงในงาน

5. มีระบบตรวจสอบความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในเครื่อง
ภายในสิ้นปีนี้ Security & Privacy ใน Settings จะได้รับการยกเครื่องใหม่ เป็นการต่อยอดจาก Privacy dashboard ใน Android 12 โดยรวมเอาสถานะเกี่ยวกับความปลอดภัยเข้าไปด้วย และสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวย้อนหลังได้นานขึ้น จาก 24 ชั่วโมง เป็น 7 วัน พร้อมแบ่งประเภทออกเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน และจะมีคำแนะนำให้ผู้ใช้งานเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์ คล้าย ๆ กับ Device care ของฝั่ง Samsung

6. ไอคอนแอปเปลี่ยนสีตามธีมได้แล้ว
Themed icons หรือฟีเจอร์เปลี่ยนสีไอคอนตามธีม ที่คาอยู่ในสถานะ Beta ให้ชาว Pixel ได้ขัดใจมานานตั้งแต่ Android 12 ในที่สุดก็ถูกปรับปรุงให้รองรับกับทุกแอปบนแพลตฟอร์ม Android แล้ว ไม่ได้จำกัดแค่แอดของ Google อีกต่อไป
นอกจากนี้ Media controls หรือหน้าต่างควบคุมเพลงยังได้ปรับดีไซน์ใหม่ โดยนำเอาหน้าปกเพลงมาแสดงผลเป็นพื้นหลังเต็มพื้นที่ของการ์ด กลับไปคล้ายกับสมัย Android 10 แต่ผสมผสานความเป็น Material You ลงไป และเพิ่มลูกเล่นโดยการใส่เอฟเฟกต์แอนิเมชันเป็นคลื่นเสียงยุกยิกบริเวณแถบเวลา ตามภาพด้านล่าง

7. รองรับการตั้งค่าภาษาแยกกันแต่ละแอป
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Google ซุ่มพัฒนามานาน คือการให้ผู้ใช้งานกำหนดภาษาในแอปต่าง ๆ แยกกันอย่างอิสระได้จากตัวระบบเลย อยากจะใช้ YouTube ภาษานึง Facebook ภาษานึง ก็ไม่มีปัญหา แต่ข้อจำกัดที่ต้องแจ้งให้ทราบก่อนคือ แอปต้องรองรับภาษานั้น ๆ ด้วยนะ ไม่อย่างนั้นถึงเปลี่ยนการตั้งค่าไปก็ไม่มีผล

8. เตรียมอัปเดตแอปให้รองรับกับแท็บเล็ตเต็มรูปแบบ
ในรอบปีที่ผ่านมา การกระทำหลายอย่างของ Google บ่งชี้ว่า บริษัทกำลังจะหันมาให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ในกลุ่มแท็บเล็ต ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาว Android บ่นกันมานานนมถึงการถูกปล่อยปละละเลย ถึงแม้ Android 12L จะเริ่มปรับปรุงอินเทอร์เฟซบางส่วนของระบบ และยกระดับฟังก์ชันด้านมัลติทาสกิงให้เหมาะสมกับหน้าจอขนาดใหญ่ไปบ้างแล้ว แต่ “แอป” ที่เป็นหัวใจสำคัญยังไม่มีเจ้าไหนอัปเดตตาม

ทาง Google รับรู้ถึงปัญหานี้เป็นอย่างดี เพราะไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่พัฒนามามันก็แทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย Google เลยประกาศว่า แอปของ Google จะนำร่องปรับโฉมให้เข้ากับอุปกรณ์หน้าจอขนาดใหญ่ในเบื้องต้นกว่า 20 แอปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และรองรับการทำงานแบบ Drag and drop ลากนิ้วเพื่อก๊อบปี้ข้อความหรือรูปภาพข้ามไปมาระหว่าง 2 หน้าต่างได้ง่าย ๆ หลังจากนั้นจะมีแอปอื่น ๆ ตามมาอีกในอนาคต รวมถึงแอปดัง ๆ อย่างเช่น TikTok, Facebook, Zoom

ในขณะที่ Play Store สำหรับแท็บเล็ตก็จะถูกปรับปรุงอินเทอร์เฟซใหม่เช่นกัน มีฟิลเตอร์ Tablet แยกออกมาโดยเฉพาะ สำหรับกรองพวกแอปที่ถูกปรับแต่งให้เข้ากับหน้าจอขนาดใหญ่

9. ทำงานร่วมกับปากกาสไตลัสได้ดีขึ้น
และสุดท้ายคือ ปรับปรุงการทำงานร่วมกับปากกาสไตลัส โดยเพิ่มฟีเจอร์ Palm rejection เข้ามาใน Android 13 ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้หน้าจอไม่ตอบสนองการทัชกับสันมือที่ไปแตะโดนหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถขีดเขียนหน้าจอได้ถนัดมากขึ้น

ทั้งนี้ย้ำกันอีกทีว่า Google กำหนดไทม์ไลน์คร่าว ๆ ของ Android 13 โดยจะออกรุ่น Beta ราว 3 ถึง 4 รุ่นจนถึงเดือนกรกฎาคม ก่อนที่รุ่น Stable ตัวเต็มจะตามมาภายหลังจากนั้น


 







Google ใช้ระบบ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบน Workspace

Spoil

https://droidsans.com/google-ai-increases-workspace-performance/

AUTO-SUMMARIES สรุปการประชุมด้วยระบบ AI
หนึ่งในฟีเจอร์สุดเจ๋งที่ Google นำเอาระบบ AI เข้ามาช่วย ก็คือ Auto-summaries ในแอป Google Doc ที่จะใช้ Machine Learning ในการประมวลผลภาษา และการเขียนของเอกสารการประชุม จากนั้นจึงแยกเอาเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำออกไป และคัดเอาส่วนที่สำคัญ ๆ ออกมารวบรวมไว้ให้สรุปกันได้ง่าย ๆ ว่ามันคือเรื่องอะไร
นอกจากนี้ Auto-summaries ยังถูกนำมาใส่ไว้ในแอป Google Spaces (แอปสำหรับแชทเป็นกลุ่ม) ให้มันช่วยประมวลผลการพูดคุยในแอปดังกล่าวให้ออกมาเป็นไฮไลท์ที่จับเฉพาะใจความสำคัญเป็นข้อ ๆ ให้ดูได้เลย


ปรับปรุงภาพวิดีโอคอล GOOGLE MEET ให้ชัดเจนและสว่างขึ้น
การประชุมทางไกลผ่าน Google Meet จะมองเห็นหน้าของแต่ละคนได้แบบชัดเจนแจ่มแจ๋วมากขึ้น แม้ว่าตอนนั้นจะประชุมอยู่ในห้องที่มีไฟสลัว ๆ หรือเว็บแคมจะเป็นรุ่นเก่าเก็บแล้วก็ตาม เพราะระบบ AI จะเข้ามาช่วยในการปรับปรุงภาพให้สว่างไสวจนมองเห็นกันได้แบบชัดเจนเลยล่ะ


PORTRAIT LIGHT ปรับแสงสำหรับวิดีโอคอลได้เหมือนอยู่ในสตูดิโอ
ถ้าหากว่าแค่ปรับปรุงภาพวิดีโอคอลให้ชัดเจนและสว่างยังไม่พอ Google Meet ยังใช้ระบบ Machine Learning เพื่อช่วยในการจำลองทิศทางของแสงได้เหมือนกับอยู่ในสตูดิโอเลย จะเลือกให้หน้าฝั่งไหนสว่าง หรือจะให้ผ่องเท่ากันทุกด้านก็ทำได้ง่าย ๆ เลย

ตัดเสียงสะท้อนสำหรับวิดีโอคอล
ประชุมทางไกลแบบภาพจัดเจนอย่างเดียวก็พาลจะคุยกันไม่รู้เรื่องเอา Google ก็เลยปรับปรุงระบบเสียงด้วยระบบ de-reverberation เพื่อช่วยลดเสียงสะท้อนแม้อยู่ในห้องแคบ ๆ ทำให้คุยกันได้แบบชัดเจนมากขึ้น

แชร์คอนเท้นต์ให้คนในทีมได้
ในการประชุมทางไกลด้วย Google Meet คราวนี้เราสามารถแชร์คอนเท้นต์ต่าง ๆ ให้ผู้ร่วมประชุมคนอื่นสามารถร่วมควบคุมได้ด้วย อย่างเช่นเราแชร์คลิปวิดีโอไปในห้องประชุม ผู้ร่วมประชุมคนอื่น (ที่ได้รับอนุญาต) ก็จะกดเล่น กดหยุด กดเร่งวิดีโอได้ด้วย ไม่จำกัดอยู่แค่คนแชร์คอนเท้นต์แค่คนเดียวเท่านั้น

แปลงเสียงการประชุมให้เป็นตัวหนังสือ
สำหรับคนที่มาร่วมประชุมใน Google Meet ไม่ได้ ในอีกไม่นานนี้ Google จะเอาระบบ Automated transcriptions เข้ามาช่วยในการถอดเสียงประชุมให้ออกมาเป็นตัวอักษรพร้อมอ่านได้เลย ไม่ต้องมานั่งฟังการประชุมใหม่อีกรอบ

เพิ่มความปลอดภัยให้กับ WORKSPACE
หากไฟล์ใน Gmail, Google Slides, Docs และ Sheets มีอะไรไม่ชอบมาพากล ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์ที่แฝงมา หรือจะเป็นลิ้งค์แบบ Phishing หลอกดูดรหัสผ่านต่าาง ๆ ระบบจะมีการแจ้งเตือนทันที
นับว่าเป็นการนำระบบ AI ที่แสนจะอัจฉริยะมาใช้งานควบคู่กับการทำงานได้แบบถูกที่ถูกทางจริง ๆ เพราะแต่ละอย่างที่ใส่เข้ามาเนี่ย เรียกว่าเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายให้กับการทำงานเยอะเลย…แต่ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น Auto-summaries หรือ Automated transcriptions ในช่วงแรกจะยังรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้นนะครับ สำหรับภาษาอื่น ๆ อาจต้องรอกันอีกซักพักเลยล่ะ

 







แก้ปัญหาอ่านแชทไม่ทัน กูเกิลใช้ AI ช่วยสรุปประเด็นให้ใน Google Chat/Spaces
Spoil

https://www.blognone.com/node/128485
หลายคนอาจเคยประสบปัญหาข้อความแชทเยอะเกินไปจนอ่านไม่ไหว แต่จะไม่อ่านก็ไม่ได้เพราะเป็นเรื่องงาน

กูเกิลแก้ปัญหานี้ด้วยการให้ machine learning อ่านแชททั้งหมดให้เรา และสรุปเป็น summary สั้นๆ ประมาณ 2-3 บรรทัด (TL;DR) ที่ด้านบนของข้อความแชท เพื่อให้เราอ่านก่อนเป็นไอเดียว่าคนอื่นคุยเรื่องอะไรกัน

ฟีเจอร์นี้ใช้เอนจินสรุปข้อความตัวเดียวกับ Google Docs ใช้มาก่อนหน้านี้ และจะใช้ได้กับบริการแชทองค์กร Google Chat กับ Google Spaces
 







กูเกิลโชว์ Android Auto โฉมใหม่ ใช้กับหน้าจอได้หลายขนาด แบ่งจอแสดงข้อมูลได้
Spoil

https://www.blognone.com/node/128474
กูเกิลโชว์ Android Auto อินเทอร์เฟซสำหรับหน้าจอรถยนต์เวอร์ชันใหม่ ปรับดีไซน์ใหม่เป็น Material Design และออกแบบให้ยืดหยุ่นต่อหน้าจอทุกขนาด จะเป็นจอแนวนอนยาวๆ หรือหน้าจอแนวตั้งก็ได้เช่นกัน หากแสดงผลบนหน้าจอที่มีพื้นที่มากพอ ระบบจะแสดงแบบ split screen ให้เห็นข้อมูลอื่นๆ นอกจากหน้าจอหลัก ช่วยลดความจำเป็นในการสลับหน้าจอลงไป

ในแง่ฟีเจอร์อื่นๆ Google Assistant จะเข้ามาช่วยแนะนำข้อมูลที่เราน่าจะสนใจบนหน้าจอได้มากขึ้น เช่น บอกระยะเวลาที่น่าจะเดินทางถึงปลายทาง และเราสามารถตอบข้อความแชทผ่านปุ่มบนหน้าจอได้แล้ว โดยเป็นปุ่มพร้อมข้อความที่ใช้บ่อยๆ เช่น OK, no thanks หรือเป็น emoji เป็นต้น (ของเดิมทำไม่ได้ ต้องตอบด้วยเสียงเท่านั้น)

กูเกิลบอกว่าอัพเดตตัวนี้จะปล่อยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า (coming months) แต่ไม่บอกช่วงเวลาที่ชัดเจน
 







กูเกิลจะขยาย Google Cast ไปยังจอภาพในรถยนต์ และจอโน้ตบุ๊ก Chromebook ด้วย
Spoil

https://www.blognone.com/node/128473
หลายคนอาจรู้จักฟีเจอร์ Google Cast ส่งคลิปวิดีโอหรือเพลงขึ้นไปเล่นบนจอทีวี (ไม่ว่าจะผ่าน Android TV หรือผ่าน Chromecast) กันอยู่แล้ว

ในงาน Google I/O ปีนี้ กูเกิลประกาศว่าจะขยายฟีเจอร์ Google Cast ให้กว้างไกลขึ้น โดยจะสามารถส่งคลิปไปยังจอ Chromebook หรือจอภาพในรถยนต์ได้ด้วย แต่กูเกิลยังไม่เผยรายละเอียดและกำหนดการว่าจะได้เห็นกันเมื่อไร

นอกจากนี้ กูเกิลยังประกาศว่าแอพ Google TV จะเพิ่มฟีเจอร์ cast ไปยังทีวีด้วยเช่นกัน (เพิ่งมี)
 







10 ปีไม่สาย Google Keep จะสามารถปรับตัวอักษร
เป็นตัวหนา, ตัวเอียง และอื่น ๆ ได้สักที

Spoil

https://www.blognone.com/node/128469
หลังจากเปิดตัวเมื่อปี 2013 ในที่สุด Google ก็อาจพัฒนาให้ Google Keep แอปพลิเคชันจดโน้ตสามารถปรับแต่งรูปแบบตัวอักษรได้สักที เพราะล่าสุดทีม 9to5Google ได้เจาะรายละเอียด APK ของแอปฯ ดังกล่าวในเวอร์ชัน 5.22.182.00 ที่ยังไม่ปล่อยให้ดาวนโหลดทั่วไปบน Play Store พบว่ามีชุดคำสั่งทำตัวหนา, ตัวเอียง, ขีดเส้นใต้ และล้างรูปแบบ เหมือนกับที่ใช้ใน Google Docs, Sheets และ Slides

Google Keep ที่ผู้เขียนใช้งานปัจจุบันอยู่ในเวอร์ชัน 5.22.162.00.90 และยังไม่สามารถปรับแต่งตัวอักษรได้ และต้องรอว่าสุดท้ายแล้ว Google จะปล่อยฟีเจอร์นี้ออกมาจริงหรือไม่ในอนาคต
 







Google Translate รองรับภาษาเพิ่ม 24 ภาษารวมถึงภาษาสันสกฤต
ใช้ปัญญาประดิษฐ์ฝึกแปลโดยไม่ต้องมีคำแปลตัวอย่าง

Spoil

https://www.blognone.com/node/128431

Google Translate เพิ่มภาษาที่รองรับอีก 24 ภาษา โดยส่วนมากเป็นภาษาท้องถิ่นที่มีคนใช้เฉพาะในพื้นที่เท่านั้น แม้ว่าบางภาษาจะมีคนใช้งานถึง 50 ล้านคน โดยรวมแล้วภาษาอีก 24 ภาษาที่เพิ่มเข้ามา มีผู้ใช้งานรวมกว่า 300 ล้านคน ภาษาที่คนใช้งานน้อยที่สุดคือภาษาสันสกฤตที่มีคนใช้งานราว 20,000 คนเท่านั้น

ความยากของภาษาเหล่านี้คือกูเกิลไม่มีชุดข้อมูลเทียบสองภาษาให้ฝึกปัญญาประดิษฐ์ แต่มีเอกสารข้อความในภาษาเหล่านี้เดี่ยวๆ เท่านั้น (monolingual text) ทำให้ต้องใช้เทคนิค Zero-Shot Machine Translation

กระบวนการฝึกปัญญาประดิษฐ์เช่นนี้ อาศัยชุดข้อมูลภาษาเป้าหมายที่ไม่มีคำแปล แล้วฝึกปัญญาประดิษฐ์ด้วยงานเติมเต็มคำในช่องว่าง (Masked Sequence to Sequence - MASS) เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์เรียนรู้โครงสร้างภาษา โดยฝึกควบคู่ไปกับการฝึกแปลภาษาจากชุดข้อมูลที่มีคำแปลตัวอย่างจำนวนมาก โดยตัวปัญญาประดิษฐ์จะได้อินพุตเป็นคำสั่งว่าให้แปลข้อความเป็นภาษาใด โดยไม่ระบุว่าอินพุตเป็นภาษาอะไร อินพุตอาจจะเป็นคนละภาษากับคำสั่งที่ให้แปล หรือภาษาเดียวกันแต่เป็นแค่ประโยคที่ถูกลบบางคำออกก็ได้ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ถูกสั่งให้แปลเป็นภาษาฝรั่งเศส โดยอินพุตอาจจะเป็นประโยคภาษาอังกฤษ หรืออาจจะเป็นภาษาฝรั่งเศสที่ไม่สมบูรณ์ให้ปัญญาประดิษฐ์เติมคำ

กูเกิลพบว่าแนวทางนี้ตัวปัญญาประดิษฐ์สามารถแปลภาษาที่ไม่มีข้อมูลคำแปลตัวอย่างเลยได้ดีอย่างน่าแปลกใจ แต่กูเกิลก็ปรับปรุงคุณภาพการแปลด้วยการฝึกให้แปลภาษาไปกลับ (round-trip translation) เพิ่มเติม ก่อนจะย่อโมเดลให้เล็กลงเพียงพอสำหรับการให้บริการ

แม้ว่าการวัดผลประสิทธิภาพการแปลข้อความจะดีจนน่าประหลาดใจแต่กูเกิลก็เตือนว่าเทคโนโลยียังจำกัดและต้องปรับปรุงให้ใกล้เคียงกับคู่ภาษาที่มีตัวอย่างจำนวนมากอีก
 







กูเกิลกลับมาทำแท็บเล็ตอีกครั้ง
โชว์ภาพแท็บเล็ตแอนดรอยด์แบรนด์ Pixel ขายปี 2023

Spoil

https://www.blognone.com/node/128438

กูเกิลหวนคืนวงการแท็บเล็ต โชว์ภาพของแท็บเล็ตรุ่นใหม่ที่ใช้ชิป Google Tensor มีกำหนดวางขายปี 2023

จากภาพที่เห็นเป็นแท็บเล็ตขนาดประมาณ 9-10 นิ้ว ใช้ขอบโค้งมน ใช้กล้องหลัง 1 ตัว แต่ยังไม่มีรายละเอียดอื่นตามมา ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ากูเกิลจะใช้ชื่อ Pixel Tablet ทำตลาดหรือไม่ ถ้ายังจำกันได้ กูเกิลเคยมีแท็บเล็ต Pixel Slate ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Chrome OS ออกมาในปี 2018 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก
 







Google เปิดตัวหูฟังไร้สาย Pixel Buds Pro
Spoil

https://droidsans.com/google-announces-pixel-buds-pro-google-watch-coming-later-this-year/
Pixel Buds Pro เป็นหูฟังไร้สายแบบ True wireless ขนาดจิ๋ว (แต่แจ๋ว) ด้วยไดรเวอร์สั่งทำพิเศษขนาด 11 มม. ที่ให้พลังเสียงทรงพลังถึงใจ
และยังช่วยให้ดำดิ่งสู่โลกของดนตรีได้มากขึ้นไปอีกด้วยระบบตัดเสียงรบกวนแบบ ANC ควบคู่กับจุกหูฟังที่ออกแบบมาในลักษณะ Silent Seal ช่วยกันเสียงภายนอกออกได้อีกระดับนึง
Pixel Buds Pro มีฟีเจอร์ Transparency Mode ที่จะรับเสียงจากภายนอกเข้ามาในหูฟังได้ ทำให้ไม่ต้องถอดหูฟังออกเมื่อต้องคุยกับคนอื่น หรือต้องฟังเสียงรถเวลาเดินข้ามถนน และยังเหมาะกับการใส่ออกกำลังด้วยมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX4 ไม่กลัวเหงื่อกลัวฝนด้วย
สะดวกกว่าด้วยเซนเซอร์ตรวจจับการใส่หูฟังที่จะหยุดเล่นเพลงทันทีเมื่อถอดหูฟังออก และเล่นเพลงต่ออัตโนมัติเมื่อใส่กลับเข้ามาในหูแล้ว ส่วนการควบคุมเพลงต่าง ๆ จะใช้ระบบสัมผัสที่อยู่บนตัวหูฟังเพื่อกดเล่น หยุด เปลี่ยนเพลง ปรับระดับเสียง.
แบตเตอรี่ของ Pixel Buds Pro สามารถฟังเพลงได้ต่อเนื่องถึง 7 ชม. เมื่อเปิดโหมด ANC และใช้ได้สูงสุดถึง 11 ชม. เมื่อปิดระบบ ANC หากใช้ร่วมกับเคสชาร์จก็จะฟังได้ยาว ๆ รวมแล้วถึง 31 ชม. กันไปเลย นอกจากนี้ยังมีระบบชาร์จไวแค่ 5 นาที ก็ฟังเพลงได้อีก 1 ชม.
Pixel Buds Pro จะเริ่มเปิด Pre-order วันที่ 21 กรกฎาคม 2022 โดยมีราคาอยู่ที่ 199.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,900 บาท (ไม่รวมภาษี)
 







นาฬิกา Pixel Watch มาแล้ว ดีไซน์วงกลมไร้ขอบ มีฟีเจอร์ฟิตเนสจาก Fitbit ขายปลายปี 2022
Spoil

https://www.blognone.com/node/128435
กูเกิลเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของตัวเอง Pixel Watch ที่ลือกันมานาน ใช้ดีไซน์โค้งเป็นโดมวงกลมไร้ขอบตามภาพที่เคยหลุดออกมา

เท่าที่เห็นจากในคลิป สายของนาฬิกา Pixel เป็นแบบแม่เหล็กที่แปะติดได้ง่าย วัสดุของตัวเรือนเป็นสเตนเลสรีไซเคิล ข้อมูลอื่นที่ทราบคือระบบปฏิบัติการ Wear OS ใหม่ที่ให้ "ประสบการณ์กูเกิล" มีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสจาก Fitbit และมีแอพสำคัญๆ ฝั่งกูเกิลอย่าง Maps, Assistant, Wallet

ตอนนี้ยังมีข้อมูลสเปกของ Pixel Watch ออกมาไม่เยอะ กูเกิลบอกว่าเป็น first look นำมาโชว์ให้ดูกันก่อนเฉยๆ และจะเปิดเผยรายละเอียดตามมาในภายหลัง กำหนดการวางขายคือฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 ซึ่งก็น่าจะตรงกับรอบเปิดตัว Pixel ใหม่ช่วงเดือนตุลาคม
 







มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เผยวิดีโอใช้งาน Project Cambria แว่น VR รุ่นใหม่
ผสานภาพกราฟิกกับโลกจริงแบบ Mixed Reality

Spoil

https://droidsans.com/meta-project-cambria-vr-headset-mixed-reality-usage/
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาระลอกนึงแล้วว่า Meta (Facebook เดิม) กำลังพัฒนาแว่น VR รุ่นใหม่ใช้โค้ดเนมว่า Project Cambria โดยแว่นดังกล่าวสามารถใช้งานได้ทั้งแบบ VR และ Mixed Reality ที่จะผสานภาพกราฟิก 3D เข้ากับภาพของโลกจริง ๆ รอบตัว เพื่อใช้ในการเล่นเกมหรือจะใช้เพื่อการทำงานก็ยังได้…ซึ่งล่าสุด มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ได้ออกมาเผยคลิปการใช้งานคร่าว ๆ ของ Project Cambria ให้เห็นกันแล้ว ว่ามันสามารถทำอะไรได้บ้าง


ในคลิปวิดีโอดังกล่าวจะได้เห็นตามาร์ค ใส่ Project Cambria (ยังเซ็นเซอร์ตัวแว่นเอาไว้ เพราะตัวขายจริงอาจไม่ใช่หน้าตาแบบนี้) เพื่อใช้งานแบบ Mixed Reality เรียกว่า The World Beyond ผู้ใช้จะสามารถมองภาพสิ่งแวดล้อมที่เป็นโลกจริงได้ แต่จะมีกราฟิก 3D เข้ามาผสมผสานอยู่ด้วย โดยในคลิปจะมีตัวการ์ตูน 3D โผล่มาซ้อนกับภาพของโลกจริง และผู้ใช้จะโต้ตอบกับตัวการ์ตูนนั้นได้ด้วยมือเปล่าเลย

และไม่ได้มีประโยชน์แค่สำหรับการเล่นเกมเท่านั้น เพราะเรายังใช้ Project Cambria ในการทำงานได้อีกด้วย อย่างเช่นเอามาใช้แทนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่สามารถเปิดหน้าจอแยกเอามากแค่ไหนก็ตามใจ แถมยังเอาไปใช้ที่ไหนก็ได้เพราะอุปกรณ์จะมีแค่ตัวแว่นเท่านั้น (จะนั่งทำงานบนรถไฟฟ้าก็ยังได้ ไม่มีใครเห็นหน้าจอด้วย)

Project Cambria จริง ๆ แล้วจะมีการทำงานที่คล้ายกับ Holo Lens ของทาง Microsoft แต่ต่างกันตรงที่ Holo Lens จะใช้การยิงภาพกราฟิกไปที่เลนส์ใสเพื่อผสานกับภาพของโลกจริงก็เลยใช้งานได้แค่แบบ Mixed Reality เท่านั้น ในขณะที่ Project Cambria จะเป็นแว่น VR ที่มีกล้องรับภาพของโลกจริงเข้ามาแสดงบนหน้าจอด้านในแทน ทำให้มันใช้งานได้ทั้งรูปแบบ VR หรือ Mixed Reality ก็ได้

จริง ๆ แล้วฟีเจอร์ Mixed Reality แบบนี้มีให้ใช้ในแว่น VR อย่าง Quest 2 แล้ว แต่กล้องของแว่น VR ตัวนี้เป็นกล้อง Monochrome ที่สามารถรับภาพได้เฉพาะสีขาวดำเท่านั้น เพราะ Meta ไม่ได้ตั้งใจแต่แรกว่าจะเอามาใช้งานแบบ Mixed Reality แต่แค่มีไว้ใช้กับฟีเจอร์ Passthrough สำหรับมองรอบข้างโดยที่ไม่ต้องถอดแว่น VR ออก แต่ก็มีเหล่า Developer เอามา Mod ให้สามารถใช้งานแบบ Mixed Reality ได้ แต่มาร์คก็บอกว่าอีกซักพักจะปล่อย The World Beyond ออกมาให้ได้ทดลองเล่นเทคโนโลยี Mixed Reality กันได้บน Quest 2 ด้วย

Mark Zuckerberg บอกว่า Project Cambria จะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ โดยมันจะเป็นสินค้าประเภทแว่น VR ระดับไฮเอนด์ภาคต่อจาก Quest 2 นั่นเองครับ (แต่ไม่รู้ว่ามันจะเป็น Quest 3 หรือจะเป็นซีรีส์อื่นไปเลยนะ)
 







เปิดตัวซีพียู Intel Gen 12 รหัส HX
ขุมพลังโน้ตบุ๊คตระกูลใหม่จาก Intel ที่ได้ชื่อว่าแรงที่สุด ณ เวลานี้

Spoil

https://droidsans.com/intel-core-12-th-gen-hx-series-introduction-2022/
ในงาน Intel Vision 2022 ครั้งที่ผ่านมา ทาง Intel ได้ประกาศเปิดตัวซีพียูไลน์อัปโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ 7 ตัว ในตระกูล Intel Core Gen 12 รหัสท้าย “HX” ซึ่งเป็นรหัสใหม่ล่าสุดครั้งแรกของทาง Intel นับตั้งแต่มีการเปิดตัวซีพียูมา (ก่อนหน้านี้จะมีแค่รหัส HK, H, P และ U) โดยทาง Intel ระบุว่ารหัส HX นี้จะเป็นซีพียูรุ่นที่ทรงพลังที่สุดในตระกูล Intel Core Mobile ตั้งแต่ที่เคยมีมา หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นรุ่นท็อปที่แรงที่สุดในปัจจุบันแล้วนั่นเอง

Intel กล่าวว่าซีพียู Core Gen 12 รหัส HX จะเป็นซีพียูที่ใช้ซิลิคอนขนาดเดียวกับซีพียูบนเดสก์ท็อป ออกแบบมาเพื่อการทำงานด้าน Mobile Workstation ที่ต้องการพลังการประมวลผลขั้นสูงบนค่า latency ที่ต่ำโดยเฉพาะ ไปจนถึงการสร้างสรรค์งานด้านคอนเทนต์ การเล่นเกม หรือความบันเทิงในรูปแบบอุปกรณ์พกพา ซึ่งมีข้อมูลสเปคต่าง ๆ ได้แก่

●มีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 16 คอร์ (8 Performance-cores และ 8 Efficient-cores) 24 เธรด ที่ทำงานด้วยกำลังของโปรเซสเซอร์ที่ 55W
●รองรับ x16 PCIe 5.0 และ 4×4 PCIe 4.0 จาก Platform Controller Hub (PCH)
●เป็นซีพียู Mobile ตระกูลแรกในอุตสาหกรรมที่ถูกปลดล็อกและสามารถโอเวอร์คล็อก (OC) ได้
●รองรับหน่วยความจำสูงสุดที่ 128GBs จาก DDR5/LPDDR5 (สูงสุดที่ 4800MHz/5200MHz) และ DDR4 (สูงสุดที่ 3200MHz/LPDDR4 4267MHz) พร้อมความสามารถ Error Correcting Code (ECC)
●มาพร้อมกับ Wi-Fi 6/6E (Gig+) และการเข้าถึงคลื่นความถี่ 6 GHz
 







ใกล้หมดยุคคอนโซล?…Microsoft มีแผนเปิดตัว Xbox Streaming Stick
เล่นเกมผ่านระบบ Cloud ไม่ต้องซื้อเครื่อง

Spoil

https://droidsans.com/microsoft-could-soon-launch-an-xbox-game-streaming-stick/
เครื่องเกมอย่าง Xbox Series X หรือ PS5 อาจจะมีราคาที่สูงเกินไปสำหรับบางคน (ส่วนคนที่มีกำลังซื้อก็ดันไม่มีของ T-T) และด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แถมราคาก็ถูกลงด้วย อาจทำให้การเล่นเกมในอนาคตเปลี่ยนไป โดยล่าสุดได้มีข่าวว่า Microsoft กำลังพัฒนาและเตรียมเปิดตัว Xbox Streaming Stick ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับสตรีมเกมผ่านระบบ Cloud ที่มีขนาดเล็กจิ๋ว แต่เล่นเกมคอนโซลระดับ AAA ได้ และยังมีราคาถูกกว่าคอนโซลเยอะเลยด้วย

หากใครนึกไม่ออกว่าเจ้า Xbox Streaming Stick หน้าตาเป็นยังไง ให้ลองนึกถึงพวก Google Chromecast หรือ Xiaomi TV Stick แต่แทนที่จะใช้สตรีมแค่ซีรีย์หรือหนังบนจอทีวี เจ้า Xbox Straming Stick จะสามารถเข้าถึงบริการ Xbox Game Pass ผ่านระบบ Cloud Gaming เพื่อเล่นเกมระดับ AAA บนจอทีวีได้เลย โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอนโซลที่มีฮาร์ดแวร์โหด ๆ และตัวเครื่องขนาดใหญ่ยักษ์เลย

เรื่องที่ Microsoft พยายามทำอุปกรณ์สตรีมมิ่งเกมแบบนี้เคยเป็นข่าวลือมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2016 ว่าทาง Microsoft จะเปิดตัว Streaming Stick ออกมาและอาจวางจำหน่ายในราคา 99 เหรียญ หรือประมาณ 3,400 บาท แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่า Microsoft จะเปิดตัวสินค้าดังกล่าวซักที

จนเวลาล่วงเลยมาถึงปี 2020 ทาง CEO ของ Microsoft ถึงออกมาแย้ม ๆ ว่าบริการ Cloud Gaming นั้น ทางบริษัทก็มีความสนใจอยู่เหมือนกัน และเนื่องจากช่วงนี้เทคโนโลยี Cloud Gaming ก็เริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะมากที่ Microsoft จะเข้ามาร่วมแจมในวงการนี้บ้าง

Microsoft ไม่ใช่แค่สนใจจะพัฒนาอุปกรณ์สตรีมเกมอย่าง Xbox Streaming Stick เท่านั้นนะ เพราะมีรายงานว่า Microsoft กำลังพัฒนาแอปสตรีมเกมสำหรับใช้งานกับสมาร์ททีวีของค่าย Samsung อยู่ด้วย โดยคาดว่าทั้ง Xbox Streaming Stick และแอปสตรีมเกมบนสมาร์ททีวี อาจจะเปิดตัวภายในเวลา 12 เดือนข้างหน้านี้

ก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจไม่ต้องซื้อเครื่องเกมคอนโซลแพง ๆ อีกต่อไป ขอแค่มีอุปกรณ์ที่รองรับการสตรีมเกมและอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วกับความเสถียรเพียงพอ ก็น่าจะเล่นเกมกราฟิกงาม ๆ ได้แบบลื่น ๆ แล้วล่ะครับ
 







นักวิเคราะห์เผย Apple จะเปลี่ยนไปใช้พอร์ต USB-C
ในรุ่น iPhone 15 ที่จะเปิดตัวในปี 2023

Spoil


Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก TF International Securities อ้างว่า Apple อาจตัดสินใจละทิ้งพอร์ตเชื่อมต่อ Lightning มาเป็น USB-C กับ iPhone ที่จะเปิดตัวในปี 2023 หรือ iPhone 15 หลังจากใช้งานมาตั้งแต่ iPhone 5

นักวิเคราะห์ระบุว่าพอร์ต USB-C จะช่วยให้ iPhone ได้รับการปรับปรุงความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูล แต่ก็ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของ iOS ด้วย ขณะเดียวกัน Ming-Chi Kuo มองเห็นว่าซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องกับ USB-C จะกลายเป็นจุดสนใจของตลาดในอีก 1 – 2 ปีข้างหน้า จากคำสั่งซื้อจำนวนมากของ iPhone และความต้องการอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวกับพอร์ต USB-C

ทั้งนี้ Apple มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนจากพอร์ตเชื่อมต่อ Lightning มาเป็น USB-C เนื่องจากคณะกรรมาธิการยุโรปพยายามผลักดันกฎหมายบังคับให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้อง หูฟัง ลำโพงพกพา และเกมคอนโซล ต้องใช้พอร์ตเชื่อมต่อที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งก็คือ USB-C
 






Apple เริ่มทดสอบ iPhone ที่ใช้พอร์ท USB-C
Spoil

https://techxcite.com/web/topic/41799
เมื่อไม่กี่วันก่อน Ming Chi Kuo นักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้บอกว่า Apple จะเริ่มใช้งานพอร์ท USB-C ใน iPhone 15 ที่จะออกวางจำหน่ายปี 2023 และตอนนี้ได้มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบการใช้งาน USB-C บน iPhone แล้วด้วย

Bloomberg ได้รายงานว่า Apple กำลังทดสอบการทำงานของ USB-C บน iPhone และอุกรณ์เสริมต่างๆ และจะออกอุปกรณ์เสริมเป็นอแดปเตอร์แปลง Lightning ไปเป็น USB-C และ USB-C ไปเป็น Lightning พร้อมมีการลือว่า Apple อาจจะเอาอแดปเตอร์แปลงจาก USB-C เป็น Lightning ใส่ให้ในกล่อง แต่เชื่อเถอะครับว่าความเป็นไปได้นั้นคงน้อยมากๆ

ส่วนสาเหตุที่ Apple ต้องเปลี่ยนจากพอร์ท Lightning ไปเป้น USB-C ก็เพราะกฎที่ EU เพิ่งลงมติให้ USB-C เป็นพอร์ทมาตรฐานซึ่งนั่นก็เรื่องนึง เพราะอีกเรื่องนึงคือข้อพิพาทระหว่าง Apple และ EU ก็ยังไม่จบ Apple เองก็ยังต่อสู้ว่าการที่ EU บังคับให้ USB-C เป็นพอร์ทมาตรฐานเพียงพอร์ทเดียวมันเป็นการขัดขวางนัวตกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

แต่ EU ก็ออกมาปฏิเสธว่าข้อกล่าวหามันไม่ใช่เรื่องจริงเพราะ EU ก็ไม่ได้ปิดถ้าหากว่าจะมีพอร์ทใหม่ขึ้นมา แต่ถ้ามีก็ต้องมีประสิทธิภาพที่เหนือว่า มีมาตรฐานที่สูงกว่าและ “จะต้องเปิดให้ผู้ผลิตอื่นใช้ได้ด้วย”
 






Elon Musk เผย อาจเจรจาซื้อกิจการ Twitter ใหม่ ด้วยมูลค่าที่ลดลง
Spoil

https://www.blognone.com/node/128511
Elon Musk เข้าร่วมงานสัมมนา All-In Summit และมีช่วงหนึ่ง พูดถึงดีลซื้อกิจการ Twitter ซึ่งบอกเป็นนัยว่าอาจมีการตกลงราคาที่จะซื้อใหม่ โดย Musk บอกว่า ดีลใหม่ในราคาที่ลดลงนั้นใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้

ก่อนหน้านี้ Musk ประกาศจะซื้อกิจการ Twitter ที่มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น จนกระทั่งดีลได้รับการอนุมัติจากบอร์ดบริหาร แต่ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาบอกว่าขอหยุดพักดีลนี้ชั่วคราว เพื่อตรวจสอบข้อมูลจำนวนบัญชีบอตบนแพลตฟอร์ม โดย Musk ประเมินว่าบัญชีบอตมีอย่างน้อย 20% ของทั้งหมด แต่ Twitter ระบุว่ามีน้อยกว่า 5%

ผลจากข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้น Twitter ปรับลดลงมาก ล่าสุดอยู่ที่ 37.39 ดอลลาร์ต่อหุ้น
 







ผู้กำกับ Doctor Strange เผย ทีมผลิตทำงานผ่าน Zoom กันเกือบหมด
Spoil

https://www.blognone.com/node/128506
ภาพยนตร์ Doctor Strange in the Multiverse of Madness เข้าฉายมาได้เกือบครึ่งเดือน ขณะนี้กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 688 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เป็นผลงานที่ทีมงานทำงานกันผ่าน Zoom เยอะมาก

Sam Raimi ผู้กำกับ Doctor Strange ภาคล่าสุดได้เปิดเผยว่าเขาทำงานกับทีมผลิตหนังโดยการประชุมผ่าน Zoom เกือบตลอด เช่น storyboard artist ก็ฉายงานขึ้นมาในที่ประชุม หรือนักตัดต่อก็เปิดคลิปที่ตัดมาแล้วให้ทุกคนได้ดู ซึ่ง Raimi บอกว่าการสื่อสารในทีมนั้นดีมาก และเขายังระบุว่าข้อดีอีกอย่างคือเขาสามารถคุยกับทีมงานหลักสิบหรือหลักร้อยคนได้พร้อมๆ กัน ทำให้การทำงานของเขาง่ายขึ้นมาก

ผู้กำกับอีกคนอย่าง Mohamed Diab ที่กำกับซีรีส์ Moon Knight ก็ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Axios ว่าเขาไม่เคยพบทีมตัดต่อจริงๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียวตลอดการผลิตซีรีส์เรื่องนี้ และแม้จะทำงานกันผ่าน Zoom แต่ Diab ก็บอกว่า Moon Knight เป็นเรื่องที่ถ่ายซ่อมน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างหนังของ Marvel เลยทีเดียว
 







Ikea เตรียมจำหน่าย Solar Cell ในตลาดสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2022
Spoil

https://www.blognone.com/node/128495

Ikea ประกาศความร่วมมือกับ SunPower บริษัทผู้ให้บริการ Solar Cell และพลังงานทางเลือกแบบครบวงจรในสหรัฐอเมริกา เพื่อจำหน่าย Solar Cell ให้กับผู้บริโภคทั่วไปภายใต้ชื่อ Home Solar with Ikea ในตลาดสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2022 โดยจะเริ่มเฉพาะบางพื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนียก่อน

Ikea ยังไม่แจ้งถึงรายละเอียดในการซื้อ ติดตั้ง และราคาของ Home Solar with Ikea โดยหากอ้างอิงจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา ราคาเฉลี่ยในการติดตั้ง Solar Cell จะอยู่ราว 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.16 แสนบาท

ปัจจุบัน Ikea จำหน่าย Solar Cell ใน 11 ตลาดทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือสหราชอาณาจักร นอกจากนี้เมื่อปลายปี 2021 Ikea ยังขายไฟฟ้าที่ได้จากการผลิตด้วยพลังงานสะอาด เช่น พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กับลูกค้าในสวีเดน โดยลูกค้าสามารถควบคุมการซื้อได้ผ่านแอปพลิเคชัน

Solar Cell กำลังเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา มูลค่าตลาด Solar Cell ของสหรัฐอเมริกาปี 2020 อยู่ที่ 9,100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.15 แสนล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนในประเทศไทย Solar Cell เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้น โดยปี 2021 SCG คาดการณ์มูลค่าตลาดนี้ในไทยที่ 8,200 ล้านบาท
 







ไปรษณีย์อังกฤษประกาศแผนนำโดรนมาใช้ส่งพัสดุไปยังพื้นที่ห่างไกล
Spoil

https://www.blognone.com/node/128461
ไปรษณีย์อังกฤษหรือ Royal Mail ประกาศแผนดีพลอยโดรนกว่า 50 เส้นทางในระยะเวลา 3 ปี เพื่อการขนส่งไปยังพื้นที่ห่างไกล ซึ่งจะใช้โดรนจาก Windracers ราว 200 ลำ
 ซึ่งทางไปรษณีย์จะปล่อยโดรนให้บริการโดยเริ่มจากพื้นที่ Isles of Scilly (เกาะนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ) และเกาะ Shetland, Orkney และ Hebrides ในสก็อตแลนด์

Royal Mail เริ่มทดสอบการขนส่งด้วยโดรนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยรอบล่าสุดทดสอบเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดรนที่ใช้งานเป็นโดรนสองเครื่องยนต์ที่ขนส่งพัสดุไปรษณีย์ได้กว่า 100 กิโลกรัมต่อรอบ และสามารถบินได้ 2 รอบไปกลับต่อวัน ระยะระหว่างปีกโดรนอยู่ที่ 10 เมตร และระบบของโดรนสามารถบินได้แม้ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศที่ยากต่อการบินด้วยระบบ autopilot ซึ่งเมื่อถึงที่หมายแล้วก็จะให้พนักงานไปรษณีย์รับหน้าที่ส่งพัสดุต่อไปยังปลายทางต่อไป

Royal Mail ระบุว่าการใช้โดรนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ และทำให้บริการส่งจดหมายไปยังเกาะต่าง ๆ มีเสถียรภาพ ซึ่งในอนาคต Royal Mail จะเพิ่มโดรนในฟลีตให้ได้ถึง 500 ลำเพื่อให้บริการทั่วสหราชอาณาจักร
 







Microlino เปิดตัว Pioneer Series รถ micro car พลังงานไฟฟ้าคันจิ๋ว
ที่แบกผู้ใหญ่ได้ 2 คนกับเบียร์ 3 ลัง

Spoil

https://techxcite.com/web/topic/41812

Microlin ได่ทำการเปิตัวรถ micro car หรือ buble car พลังงานไฟฟ้าซึ่งผลิตมาเป็น Limilet Edition ใรจำนวนเพียง 999 คันเท่านั้นตัวรถจะเป็นคันเล็กๆ จิ๋วๆ ก็จริงแต่มันสามารถจดทะเบียนในประเภทรถสี่ล้อคลาสสิคในทวีปยุโรป สามารถใช้งานบนถนนได้อย่างปกติ

Microlino Pioneer Series คันนี้จะมีสองที่นั่งกับพื้นที่เก็บสัมภาระ 230 ลิตร คิดภาพง่ายๆ มันสามารถบรรจุผู้ใหญ่สองคนและบรรทุกเบียร์ได้อีกสามลัง ก็น่าจะเพียงพอพอพอต่อการใช้งานในเมือง ออฟชั่นที่ใส่มาให้ก็จะมีหลังคาซันรูฟ การตกแต่งภายในจะมีความพรีเมียมมากๆ อย่างหนังหุ้มเบาะก็จะเป็นหนังวีแกนสลับกับหนังกลับ ระบบความบันเทิงจะมีลำโพง Bluetooth แบบพกพามาให้
มอเตอร์จะมีกำลังขับ 12.5 กิโลวัตต์ก็ประมาณ 16-17 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 90 กิโลเมตร/ชั่วโม มันเร็วเพียงพอสำหรับในเมืองแต่กว่าจเร่งถึง 90 คงต้องใช้เวลานิดหน่อยเหมาะสำหรับคนใจเย็น แบตเตอรี่จะมีความจุ 10.5kWh มีระยะทำการอยู่ที่ 177 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาถูกเปิดตัวออกมาที่ 12,500 ยูโรก็ราวๆ 460,000 บาท

 







"เขียงอัจฉริยะ" ตรวจแคลอรี่ได้ ช่วยจับเวลา รักสุขภาพต้องมี !!
Spoil

https://www.tnnthailand.com/news/tech/113873/
https://www.yankodesign.com/2022/05/07/smart-chopping-board-with-a-built-in-calorie-counter-and-kitchen-timer-makes-healthy-meal-prep-easy/
ส่วนแรกคือตัวเขียง สามารถเลือกได้ 2 แบบ คือไม้ไผ่และวอลนัท ตัวเขียงเคลือบกันน้ำและเชื้อราไว้อย่างสมบูรณ์ ถูกออกแบบมาสำหรับใช้กับส่วนประกอบที่เป็นเนื้อโดยเฉพาะ

ส่วนที่สองคือแผ่นป้องกันแบคทีเรียซิลเวอร์ไอออน ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับรองการหั่นผักและผลไม้ สามารถป้องกันการปนเปื้อนในตัวอาหาร ต้านแบคทีเรียตามธรรมชาติ มีผิวที่มุมล่างขวาช่วยบดเครื่องเทศได้

ส่วนที่สามคือถาดละลายน้ำแข็งนำความร้อน ทำมาจากวัสดุระบายความร้อนพิเศษ มีช่องไหลเวียนของอากาศที่ช่วยให้เนื้อมีอุณหภูมิลดลงเร็วถึง 6 เท่า สามารถใช้ละลายน้ำแข็งได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อาหารไปถึงอุณหภูมิห้องได้โดยเวลาไม่นาน มีถาดที่เก็บน้ำที่ละลายออกมาได้ครบจบในที่เดียวเลย นอกจากนี้ยังใช้เป็นถาดอบได้อีกด้วย

สุดท้ายคือส่วนของตัวฐานที่ใช้เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักในตัว สามารถเชื่อมเข้ากับตัวสมาร์ตโฟนได้โดยตรงและสามารถนับแคลอรีได้ทันที ตัวเครื่องชั่งน้ำหนักมาพร้อมจอแสดงผลดิจิทัล 7 ส่วน สามารถแยกการชั่งน้ำหนักเป็นกรัม ปอนด์ ออนซ์ มิลลิลิตร และสามารถชั่งน้ำหนักได้ละเอียดถึง 0.1 กรัม สูงสุด 3 กิโลกรัมในแต่ละครั้ง


ส่วนประกอบทั้ง 4 ส่วนของ 4T7 สามารถแยกส่วนใช้เฉพาะได้ และสามารถใช้รวมกันได้ ซึ่งช่วยให้เราแยกผลไม้กับผักและเนื้อสัตว์ออกจากกัน (ตัวเขียงสำหรับเนื้อ แผ่นรองสำหรับผัก) ตัวเขียงมีขอบที่เป็นช่องช่วยลำเลียงเลือดของเนื้อหรือตัวน้ำจากผักและผลไม้ได้


อีกหนึ่งของความเจ๋งของ 4T7 นั่นคือการเชื่อมกับแอปบนสมาร์ตโฟนได้โดยตรง มันสามารถช่วยบอกเราเกี่ยวกับแคลอรี่ได้ทั้งหมด เพียงแค่เราชั่งส่วนผสมของเราบนตัวเขียงเท่านั้น นอกจากนี้ตัวแอปยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวสูตร ส่วนผสม สัดส่วน และรายละเอียดแคลอรี่แบบครบจบในแอปเดียวเลย


นอกจากการเชื่อมเข้ากับแอปแล้ว ตัวเขียงยังมีหน้าจอดิจิทัลสำหรับใช้จับเวลาในครัวได้ด้วย โดยสามารถนับถอยหลังได้สูงสุด 99 นาที 59 วินาที ในขณะที่ตัวเขียงยังสามารถใช้ติดมีดได้อีกด้วย เพราะติดแม่เหล็กแรงสูงไว้ที่มุมขวาของตัวเขียง กลายเป็นที่เก็บมีดอีกที่หนึ่ง (โดยส่วนตัวคิดว่าดูอันตรายและไม่มั่นใจจะทำให้ตัวมีดดูสกปรกหรือเสื่อมสภาพง่ายขึ้นไหม เพราะอาจจะเก็บอย่างไม่ถูกวิธี)



สำหรับข้อมูลทั่วไป ตัวเขียงกว้าง 17.3 นิ้วและยาว 11.2 นิ้ว มีแผ่นรองด้านหลังในตัวสามารถยกเขียงขึ้นตั้งทำมุมได้ เครื่องชั่งกับนาฬิกาจับเวลาใช้ถ่าน AAA ทั้งหมด 4 ก้อนเท่านั้น ครบจบหมดนี้ตัวเขียงมีราคาเพียง 89 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,100 บาทเท่านั้น
 







กูเกิลเปิดตัวสำนักงาน Bay View เน้นรักษาสิ่งแวดล้อม
Spoil

https://www.blognone.com/node/128527
กูเกิลประกาศเปิดใช้งานสำนักงาน Bay View เป็นแคมปัสล่าสุดในเมือง Mountain View ที่มีสำนักงานของกูเกิลตั้งอยู่จำนวนมาก โดยชูจุดเด่นว่าเป็นสำนักงานที่รักษาสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานเน้นไฟฟ้าเป็นหลักแม้แต่เตาครัว เพื่อให้เปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนได้

ระบบหมุนเวียนน้ำมีทั้งการรองน้ำฝนไว้ใช้ และการบำบัดน้ำกลับมาใช้งาน ทำให้โดยรวมการนับว่ามีการผลิตน้ำมากกว่าที่ใช้ (net water positive) ตามมาตรฐาน Living Building Challenge ส่วนหลังคาเป็นโซลาร์เซลล์แบบเกล็ดมังกร (dragonscale solar skin) อัตนาการผลิตไฟฟ้ารวม 40% ของที่อาคารใช้งานทั้งปี

พื้นที่ใช้สอยโดยรวม 1.1 ล้านตารางฟุต หรือประมาณ 100,000 ตารางเมตร กระจายเป็น 3 อาคาร สองอาคารเป็นสำนักงาน มีศูนย์จัดงานประชุม และที่พักระยะสั้นสำหรับพนักงาน
 






Apple อัพเดต iOS 15.5 และ iPadOS 15.5
ปรับปรุง Podcasts, Universal Control และแก้ไขความปลอดภัย

Spoil

https://www.blognone.com/node/128519
แอปเปิลออกอัพเดตใหญ่ ระบบปฏิบัติการ iOS 15.5 และ iPadOS 15.5 รวมทั้งระบบปฏิบัติการอื่นในเครือทั้งหมดวันนี้ หลังจากที่ออกเวอร์ชันทดสอบสำหรับนักพัฒนามาหลายสัปดาห์ก่อนหน้า

สำหรับ iOS 15.5 ฟีเจอร์เด่นที่สำคัญได้แก่ แอป Podcasts สามารถจัดการตอนที่จะเซฟไว้ในเครื่อง ลบอัตโนมัติเมื่อเล่นจบ เพื่อประหยัดพื้นที่, รองรับการไปลิงก์สมัครบัญชีภายนอกเพื่อจ่ายเงิน เมื่อใช้แอปประเภท Reader เป็นทางเลือกไม่ต้องตัดเงินผ่าน App Store, แอป Photos เพิ่มการกำหนด Sensitive Locations หรือพื้นที่ซึ่งไม่ต้องการให้แสดงผลในหน้า Memories นอกจากนี้ยังอัพเดตแก้ไขความปลอดภัย 25 รายการ

ส่วน iPadOS 15.5 อัพเดตฟีเจอร์ Universal Control ที่ใช้งานข้ามเครื่องกับ Mac โดยออกจากสถานะทดสอบเบต้าแล้ว

ระบบปฏิบัติการที่มีอัพเดตเช่นกัน มีรายละเอียดดังนี้

macOS Monterey 12.4 อัพเดต Podcasts, Universal Control เช่นเดียวกับ iOS, iPadOS
macOS Big Sur 11.6.6 และ อัพเดตความปลอดภัย macOS Catalina 2022-004 สำหรับ Mac ที่อัพเกรดไป Monterey ไม่ได้
watchOS 8.6 เพิ่มอีโมจิชุดใหม่ และรองรับ ECG ในเม็กซิโก
tvOS 15.5 อัพเดตรายการทั่วไป
HomePod 15.5 อัพเดตรายการทั่วไป
Studio Display เฟิร์มแวร์ 15.5 ปรับปรุงการทำงานเว็บแคม และการแสดงผลภาพ
 






แย่งตัวกันหนัก ไมโครซอฟท์ขึ้นเงินเดือนพนักงานทั่วโลก
เพิ่มงบประมาณเงินเดือนให้ 2 เท่า

Spoil

https://www.blognone.com/node/128513
Satya Nadella ส่งอีเมลภายในถึงพนักงานไมโครซอฟท์ ระบุว่าเพิ่มงบประมาณสำหรับขึ้นเงินเดือนพนักงานเป็นเกือบ 2 เท่าตัว หลังเจอสถานการณ์ว่าบริษัทไอทีแย่งตัวพนักงานกันเพิ่มขึ้น

Nadella ให้ข้อมูลว่าการเพิ่มเงินเดือนจะอิงตามฝีมือและผลงาน (merit-based) ซึ่งแตกต่างกันตามแต่ละประเทศ โดยไมโครซอฟท์จะเน้นการขึ้นเงินเดือนให้ประเทศที่มีความต้องการพนักงานสูง และเน้นเพิ่มให้พนักงานระดับล่าง-กลาง (early to mid-career) เป็นหลัก

ส่วนพนักงานระดับอาวุโส จะเพิ่มโควต้าการแจกหุ้นพนักงานในสัดส่วนที่มากขึ้นด้วย

เมื่อต้นปีนี้เราเห็นข่าว Amazon ปรับโครงสร้างเงินเดือนพนักงานใหม่ และ Apple เองก็ต้องแจกหุ้นพนักงานเพิ่ม เพื่อดึงตัวพนักงาน แสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานไอทียังมีการแข่งขันที่สูงมาก
 







Apex Legend Mobile พร้อมเปิดให้เล่นได้แล้ววันนี้ฟรี ๆ
ทั้ง Android และ iOS (รองรับคอนโทรลเลอร์ด้วย)

Spoil

https://droidsans.com/apex-legend-mobile-available-now/
หลังจากที่เปิดให้ลงทะเบียนรอกันมาพักใหญ่ ๆ (ข่าวมารอบแรกตั้งแต่กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว) ล่าสุด Apex Legend Mobile ก็เปิดให้เล่นกันได้แล้วฟรี ๆ วันนี้ทั้ง Android และ iOS เลย โดยรูปแบบการเล่นของเกมนี้ก็แทบจะยกจากเวอร์ชั่น PC และคอนโซลมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร ความสามารถพิเศษ อาวุธ แผนที่ต่าง ๆ แถมยังมากับปรับกราฟิกที่งามหยดย้อย และยังเล่นด้วยคอนโทรลเลอร์ได้อีกต่างหาก

Apex Legend Mobile สำหรับระบบ Android มีขนาดหลังติดตั้งอยู่ที่ราว ๆ 3.5GB ซึ่งจากที่ทดลองเล่น 2 – 3 ตา ด้วยมือถือ Mi 10T Pro ที่ใช้ชิป Snapdragon 865, RAM 8GB พบว่าสามารถปรับกราฟิกได้ที่ระดับ Extreme HD และรีเฟรชเรทระดับ Ultra โดยที่ตอนเล่นแล้วไม่มีอาการกระตุกเลยครับ

นอกจากนี้ Apex Legend Mobile ยังรองรับการบังคับเกมทั้งจากหน้าจอสัมผัสและยังรองรับการเล่นด้วยคอนโทรลเลอร์ไร้สายเพื่อเพิ่มความมันได้อีกด้วย แต่อันนี้ยังไม่ได้ลองว่าถ้าใช้คอนโทรลเลอร์แล้วจะเล่นรวมกับคนที่ใช้การบังคับหน้าจอด้วยรึเปล่าครับ (เดี๋ยวลองแล้วจะมาอัปเดตให้อีกที)
 







หลุดคลิปเกม Need for Speed Mobile ภาคใหม่
ใช้ Unreal Engine 4 อาจมาพร้อมระบบ Open World

Spoil

https://droidsans.com/need-for-speed-mobile-leak-on-reddit/
แฟน ๆ เกมแข่งรถสุดเก๋าอย่าง Need for Speed เตรียมตัวโหลดเกมภาคใหม่มาซิ่งกันได้เลย เพราะล่าสุดวีดีโอจากเกม Need for Speed Mobile ถูกปล่อยออกมาใน Reddit โดยผู้ใช้งานชื่อว่า u/Clxbsport ที่เผยให้เห็นทั้งรถและแผนที่ในเกมบางส่วน อีกทั้งภาคนี้ยังถูกสร้างด้วย Unreal Engine 4 ด้วยนะ

ในวีดีโอเผยให้เห็นรถสามคันอย่าง McLaren F1, Gallardo และ Lamborghini Aventador SVJR โดยแผนที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากเกมในภาค Heat และยังไม่ยืนยันว่าในภาคนี้จะมี โหมดเนื้อเรื่องและโหมด Cops หรือไม่เนื่องจากตัวเกมอาจจะยังอยู่ในระหว่างพัฒนา

Need for Speed Mobile ในภาคนี้คาดกันว่าน่าจะเป็นเกมแบบ Open World ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่าทาง EA และ Tencent จะพัฒนาเกมไปในทิศทางไหนในระบบ Open World นี้ เพราะการขับรถไปเรื่อย ๆ ก็ดูจะเป็นเรื่องน่าเบื่อไม่น้อยเลยทีเดียว
 








กระทู้เก่า ปี2022



January
Spoil

Febuary
Spoil

March
Spoil

April
Spoil

May
◦ Wed May 04, 2022
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2145786
◦ Wed May 11, 2022
https://www.soccersuck.com/boards/topic/2148633


โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 657
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 09:37
[RE: #Update IT (Wed May 18, 2022)]
กระทู้ดีมากครับ ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: adapt or die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Nov 2014
ตอบ: 7696
ที่อยู่: 13.999890, 100.685606
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 09:39
[RE: #Update IT (Wed May 18, 2022)]
ตั้งกระทู้ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ ทั้งบอลนอก ทั้งวาไรตี้

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 May 2007
ตอบ: 906
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 09:53
[RE: #Update IT (Wed May 18, 2022)]
เวลาเดิน อีเกีย สงสัยมาตลอดว่าทำไม เขาไม่เอาโซล่าเซล์เข้ามา
ดีใจ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
BVB
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2011
ตอบ: 1552
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 10:06
[RE: #Update IT (Wed May 18, 2022)]
อยากรู้เลยในหลุมดำมีอะไร จะเหมือนในหนังป่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: มนุษย์ค้างคาว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 3380
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 10:15
[RE: #Update IT (Wed May 18, 2022)]
ไม่ใช่ข่าวสั้น ๆ แล้วครับ ยาวหลากหลายดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เชียร์ไทย ดูมาดริด,ลิเวอร์พูล เป็นงานรอง งานหลักอยู่สมาคม 18+
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Dec 2008
ตอบ: 1918
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 10:17
[RE: #Update IT (Wed May 18, 2022)]
กระทู้ดีและสนุกมากครับ ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jun 2007
ตอบ: 42288
ที่อยู่: บ้านนอก
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 10:19
[RE: #Update IT (Wed May 18, 2022)]
ช่วงนี้ google ทีอปฟอร์ม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2010
ตอบ: 8050
ที่อยู่: อยู่ในจินตนาการอยู่ในฝํนฉันข้างใน
โพสเมื่อ: Wed May 18, 2022 12:17
[RE: #Update IT (Wed May 18, 2022)]
Port USB-C มาใน Iphone 15

เออขอบใจนะ แล้ว 14 ล่ะทำไมไม่ใส่ โคตรรำคาญ Apple ในเรื่อง Port เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel