ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเงินสดถึง 10ล้านเลยครับ เก็บได้ล้านสองล้านก็เอาไปลงทุนกับเพื่อนไม่ก็ซื้อหุ้นกับซื้อนาฬิกา

เกือบหมดเหลือติดตัวแค่ 4-5แสน จนมาต้นปีนี้ได้มีโอกาสถือเงินสดเกิน10ล้านโดยได้จากการขายนาฬิกา 5711

ไป5.5ล้าน (ซื้อมา 1.6) กับขาย 15202 ไป4.2ล้าน (ซื้อมา1.16) บวกกะเงินสดที่ได้จากปันผลมาอีกนิดหน่อย รวมๆ

ได้12ล้านนิดๆ กะว่าจะเอาไปรีโนเวทบ้านกะซื้อรถแต่ทะลึ่งไปเข้านาฬิกาเพิ่ม3เรือนแล้วกะจะรีบปล่อยเอาค่าขนมนิด

หน่อย สุดท้ายตอนนี้ดอยเรียบ3เรือนฮะต้องปั้นหาเงินใหม่อีกปีนี้

ผมอยากลองเล่นนาฬิกาเหมือนกัน มีคำแนะนำมั้ยครับ ทุกทีได้แค่ซื้อใส่ที่ชอบ อยากเปลี่ยนมาลงทุนบ้าง

ยินดีด้วยฮะ ตั้งกะอยู่มา 8-9 ปี ได้ Big Shot อยู่ครั้งเดียว คือ JMT JMT-W2 ฮ่าๆๆๆ

แม่มีตอน 12 บาท ลูกมีตอน 2 บาท

แม่เพิ่งขายไปไม่นานเนี่ยตอน 66 ส่วนลูกไปตั้ง 15

ขอถามเพิ่มหน่อยครับ พวก probiotic กินพวกนมเปรี้ยว โยเกิร์ต มันต่างกันมั้ยครับ
พวก probiotics ที่เห็นเพื่อนผมขายคือ pr-va ก็พูดจนผมลังเล แต่พอเห็นราคา พ่องเถอะะะะ
10 ซอง 6xx-7xx บาท

ไม่ครับ ขนาด คนที่มีปัญหา เรื่องการขับถ่ายจริงๆ

หมอ ที่เมืองนอก กับนักวิทย์ ที่ผมอ่าน ยังไม่เคย บอกว่า ให้ไปหาprobiotic กินเลยนะ


ประเทศไทยมัน งี้แหละครับ มันไม่มีใครลงมาปกป้อง ผู้ภริโภค จริงๆ โคตรเซ็ง

ถ้าจะลงทุนข้อเสียคืออาจจะใช้เงินค่อนข้างสูงหน่อยครับ แต่เลือกให้ถูกตัวไม่ยากครับ ศึกษาไม่นานครับ แนะนำ

เข้ากลู่มไลน์หรือกลุ่มใน FB ดูครับ เช่น Rolex and top brand ดูก่อนก็ได้ครับ

ก่อนอื่นไม่อยากให้ไปคิดว่าทางบ้านต้องรวยมาก่อนต้องมีต้นทุนอะไรจากบ้านมา support ถึงจะมีเงินหลักสิบล้านได้ครับ มันจะเป็น mindset ที่ผิดตั้งแต่เริ่ม แล้วมันจะไม่ประสบความสำเร็จใน long term

ผมเองเริ่มด้วยการติดลบมีหนี้ประมาณ 2 ล้าน ที่ต้องหามาใช้หนี้ธนาคารที่ทั้งทางบ้านและตัวเองตัดสินใจผิดพลาดสร้างหนี้ไว้ก่อนจะเริ่มชีวิตการทำงานด้วยซ้ำ

ผมเริ่มทำงานได้เงินแค่หลักหมื่นปกติ แต่เชื่อตัวเองเสมอว่าไม่มีงานอะไรที่ตัวเองทำไม่ได้ เรามีความสามารถจะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ ถ้ามีโอกาสอะไรเข้ามาแล้วเราคิดว่ายากไม่น่าทำได้ ผมจะพัฒนาตัวเองแล้วก็ทำสิ่งที่เคยคิดว่ายากว่าทำไม่ได้จนได้อยู่ดี

และผมตั้งใจจะเอาตัวเราเองไปอยู่ในจุดที่เราได้เงินตอบแทนสมกับที่เราเชื่อมั่นในตัวเองเสมอ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนสายงานก็จำเป็นในบางที อย่าไปติดใน comfort zone ถ้างาน field ใหม่คุณมองว่าคุณน่าจะทำได้และให้ผลตอบแทนคุ้มค่าก็ไปเลยครับ แต่ต้องคิดให้ถี่ถ้วนคิดนานๆก่อนนะครับ

ใครทำงานอะไรอยู่ทำให้จริงจัง ทำให้คนรอบข้างรู้เลยว่าเราไม่ธรรมดามองว่าเราเป็นคนที่เก่งในงานและเชื่อถือได้ ยังไงเพื่อนฝูงคนรอบข้างเจ้านายก็ต้องเห็น แล้วโอกาสจะค่อยๆเข้ามาให้คุณอย่างที่คุณคาดไม่ถึง

ผลตอบแทนก็เช่นกันวันนึงงานจะตอบแทนคุณให้สมกับ potential ที่คุณมี แต่ถ้าคุณไม่เชื่อตัวเองแต่แรกว่าเราทำได้ทุกอย่าง โอกาสจะมาไม่ถึงคุณครับ

ส่วนได้เงินมาแล้ว จะมากจะน้อยคุณต้องลงทุนครับ ไม่ใช่ว่าจะทำงานหนักไปจนตายแล้วจะรวยได้ ผมเองก็พวกกองทุนหุ้นสะสมไปเรื่อยๆไม่ต้องเข้าออกบ่อยแต่พยายามเข้าออกให้ถูกจังหวะ อยู่กับตลาดให้ได้ การวางแผนลงทุนไว้ล่วงหน้ากับเงินที่จะได้มาจะช่วยให้คุณไม่เอาเงินไปใช้ไร้สาระมากเกินไปแต่จะเอาไปใช้ลงทุนมากกว่า ให้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ

ยิ่งงานคุณดีมากขึ้นเงินเดือนก็มากขึ้น คุณก็มีเงินไปลงทุนมากขึ้น วันนึงไม่รู้ตัวคุณก็มีสิบล้านได้ครับ

พิมพ์มายาวหน่อย แต่อยากให้อ่านโดยเฉพาะน้องรุ่นใหม่ที่ยังอาจจะไม่เคยคิดว่าเราจะไปประสบความสำเร็จได้ยังไง มันทำได้ครับผมยืนยัน ผมเองเริ่มจากติดลบ ลบเยอะด้วยยังทำได้โดยการเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนนี่แหละ
คุณก็ต้องทำได้แค่ต้องเชื่อตัวเอง วางแผนให้ถูก ทำงานให้จริงจัง จริงใจกับเพื่อนร่วมงานซึ่งสำคัญมากนะ การที่คุณเป็นคนเก่งและเพื่อนร่วมงานรักมันจะเป็นเกราะให้คุณในการเติบโตในหน้าที่การงานได้ เป็นกำลังใจให้ครับ

ใช้เงินสูงยังพอโอเคครับ กลัวเลือกผิดตัวนี่แหละครับ
ขอเข้ากลุ่มไปแล้วครับ ถ้าตอนนี้ตัวที่ท่านคิดว่าถูกตัว พอจะมีแนะนำไหมครับ

จากที่เคยเห็นมา คนที่มีเงินเก็บ ส่วนมากแบ่งได้ 2 แบบ

1.คนที่เกิดมาในบ้านมีธุรกิจ แบบพ่อแม่ ต้นตระกูลปูทางมาให้แล้ว

เช่นเจ้าของร้านขายอะไหล่ยนต์ บ้านเป็นกงสี บลาๆ

คนจำพวกนี้มีเงินเก็บได้ถึง 10 ล้าน กิน เที่ยวได้ ไม่ต้องเก็บลูกเดียว

กำไรจากกิจการ แบ่งจ่ายเป็นเงินเดือนให้ลูกหลาน

2.พวกไม่ต้องลงทุน แต่เป็นสายเก็บ ไม่เน้นมีหนี้

มีชีวิตปกติ ไม่หวือหวา เที่ยวบ้าง กินบ้าง ซื้อบ้าง แต่เน้นเก็บเป็นส่วนมาก

ผมว่าเขาก็คงมีความสุขในรูปแบบของเขาอ่ะ ต่างคนต่างความคิด


จริงๆคนทั่วไปหาเงินได้หลายล้านอยู่นะ ในชีวิตหนึ่ง ติต่างเงินเดือน เดือนละ 15,000

15,000*12 = 180,000

180,000*30 = 5,400,000

ผมเป็นพนักงานประจำ 10 ปี ลาออกมาขายของหน้าร้าน บวกช่วง lazada shopee มาใหม่ๆผมขาย 7 ปี มีเก็บ เกินสิบล้าน 2-3 เท่า พูดยังไงดี จังหวะชีวิตล้วนๆ ต้องกล้าออกจาก comfort zone 2 ก่อนที่ออกมาต้องเตรียมตัวให้พร้อม คิดทางหนีทีไล่ให้ดี หลายคนพลาดโอกาส เพราะ พแโอกาสมา ติดหนี้ รถ หนี้ บ้าน หนีบัตร ผ่อนทัวรเที่ยวเมืองนอก เลยไม่ได้ทำ

เงินสด6แต่หุ้น70กว่า ทำอาชีพทางสุขภาพ มีเงินเท่าไหร่ใส่หุ้นหมด ไม่เทรด เน้นลงทุนระยะยาว ใช้เครดิตความแน่นอนของอาชีพตัวเองอัดเงินกู้เพื่อมาลงทุน(กู้มาจิ้น)เพิ่มนิดหน่อยบางโอกาสทำให้บางทีได้มาก(แต่บางทีก็เสียดอกเบี้ยโง่ๆฟรีๆเหมือนกัน) ไม่กู้เกินตัว

คุณลองsearch คำว่า compounding interest หรือ เอกเบี้ยทบต้นครับ
อ่านเพลินๆ ครับ ประโยชน์เยอะ

หลักคิดคือได้ปันผลมา(หรือผลตอบแทนจากอะไรก็ได้นะคับยิ่งเยอะยิ่งเร็ว)นำกลับไปลงทุนต่อด้วยอัตรา%ผลตอบแทนเดิมไปเรื่อยๆ (ปีหน้าฐานที่คูณ% จะใหญ่กว่าเดิม = จะได้มากขึ้น)

ที่นี้ยก ตย คับ ตัวเลข72ตั้ง หารด้วย % (สมมติที่ 9%)
= คุณจะใช้เวลา 8ปี ในการทำให้เงินของคุณเพิ่มเท่าตัว

ยกตัวอย่างเช่น เราลง1,000,000 ที่อัตราผลตอบแทน 9% = 90,000
เอากลับไปลงต่อ ปีหน้าจะคิด9% จาก1,090,000 ก็ขยายไปเรื่อยๆ
ที่นี้คนจะมองเห็นแค่ตัวเลขผลตอบแทนแถวๆนี้คับ ปี2ปี

ความเป็นจริงถ้าคุณทำ8ปี จาก 1,000,000จะเป็น 2,000,000 คราวนี้แหละ wow เลย

ถ้าคุณเล่นปันผล อาจจะ 4-5% ก็จะนานกว่านี้ (ไม่พูดถึงส่วนต่างราคานะคับ)
แล้วถ้ามันเป็นธุรกิจละ สมมติ 30% แล้วคุณเห็นสมการนี้ แน่นอนแหละคุณจะรักมัน
เพราะ 72/30 แม่ง2ปีกว่าเอง

ทีนี้ถ้ารู้แล้ว อย่าเอาตังไปซื้อของฟุ่มเฟือยนะคับ เก็บแล้วใส่สมการนี้เลย
ถ้าgoalของคุณคือ สร้างฐานะยังไงให้ไว อันนี้บอกเลยรวยเงียบๆ มางงๆ
แต่ถ้าคุณมองว่าเกินมาครั้งเดียว ซื้อดิจะประหยัดอะไร ตายไปก็ไม่ได้ใช้ อันนี้ไม่ใช่ทางของคุณครับผม

คุยได้ทั้งวันเลยเรื่องนี้ โชคดีคับ

ผมขายขนมสดตอนเช้า เงินสดติดบัญชี 30,000 แต่ผมมี JTS 400,000 หุ้น ทุน 2.4 บาท

ซ้ำ