ลิทัวเนียประกาศตัดการนำเข้าก๊าซทั้งหมดจากรัสเซีย ส่งผลให้กลายเป็นชาติแรกในสมาชิกสภาพยุโรปที่ประกาศตัดขาดการพึ่งพาการนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย ก่อนที่ลิทัวเนียจะเรียกร้องขอให้ชาติสหภาพยุโรปอื่นๆ ประกาศตัดขาดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียอย่างตน
“การแสดงหาอิสรภาพทางด้านพลังงานอย่างเต็มรูปแบบจากก๊าซของรัสเซีย เพื่อตอบรับกับการขู่กรรโชกด้านพลังงานจากรัสเซียในยุโรป และสงครามในยูเครน ลิทัวเนียได้ละทิ้งก๊าซของรัสเซียโดยสมบูรณ์แบบ” แถลงการของกระทรวงพลังงานลิทัวเนียระบุถึงเหตุผลการตัดการนำเข้าก๊าซทั้งหมดจากทางรัสเซีย

มาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป โดยลิทัวเนียได้บริหารจัดการให้มีการลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียให้กลายเป็นศูนย์ในวันเสาร์ที่ผ่านมา (2 เม.ย.) ทั้งนี้ กิตานัส เนาเซดา ประธานาธิบดีลิทัวเนียได้ทวีตข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัว เพื่อขอให้ผู้นำสหภาพยุโรปชาติอื่นๆ ประกาศใช้มาตรการดังกล่าวตามลิทัวเนีย

“ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จะไม่มีก๊าซของรัสเซียในลิทัวเนียอีกแล้ว หลายปีที่ผ่านมา ประเทศของผมได้ตัดสินใจในวันนั้นที่จะทำให้ไม่เจ็บตัวจากการตัดปมพันธะทางพลังงานกับผู้รุกราน ถ้าเราสามารถทำมันได้ ทั้งยุโรปก็ทำมันได้เหมือนกัน!” เนาเซดาระบุ

ไดเนียส ไครวีส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานลิทัวเนียเปิดเผยว่า “เราเป็นชาติแรกของสหภาพยุโรปในบรรดาประเทศที่พึ่งพาก๊าซจากกาซพรอม (บริษัทดัานพลังงานที่รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ) ที่ประกาศอิสรภาพจากการพึ่งพาผลผลิตก๊าซของรัสเซีย และนี่คือผลลัพธ์ของนโยบายด้านพลังงานที่ต่อเนื่องมาหลายปี และการตัดสินใจด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ทันท่วงที”

ในปี 2558 เกือบ 100% ของการใช้พลังงานก๊าซในลิทัวเนียพึ่งพาการนำเข้ามาจากทางรัสเซีย แต่สถานการณ์ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป หลังจากลิทัวเนียตัดสินใจสร้างท่านำเข้าก๊าซ LNG นอกชายฝั่งที่เริ่มเปิดใช้เมื่อปี 2557 ในเมืองท่าอย่างไคลเปดา เพื่อนำเข้าก๊าซจากประเทศเพื่อนบ้านของตนอย่างลัตเวียแทนจากทางรัสเซีย