ต่างครับผม

แค่เริ่มบรรจุก็ต่างแล้วมั้งครับ
ผมเห็นครูจุฬาฯจบใหม่ ได้บรรจุโรงเรียนอันดับ1ของจังหวัดเลย

connection อะ 55

รุ่นน้องผมจบครูราชมงคล บางคนเหมือนจะเก่งนะ ยังสอบบรรจุไม่ได้

ลูกพี่ลูกน้องผม จบครูพละมา พ่อแม่เป็น ผอ. ไปฝากไว้กับเพื่อน

ตอนนี้เพื่อนลุงใกล้เกษียรละ กำลังดันลูกพี่ลูกน้องผมให้ได้บรรจุ สบายจัด 555

ถ้าวัดแบบหลังจากสอบบรรจุได้พร้อมๆกัน อายุเท่าๆกัน อยู่ที่บุคคล + คอนเนคชั่น

แต่ในกรณีที่ไม่มี พวกTop U ก็ประคองตัวได้มากกว่า

ถ้าวัดหลังได้ทรานสคริป

ค่าเฉลี่ยของRadz คืองมโข่งสอบกัน4-5ปี+โอดครวญเรื่องภาษาอังกฤษอยู่

ค่าเฉลี่ยของของTop U คือสอบติด

ได้ทำงานจนเบื่อแล้วลาออกไปทำอย่างอื่น ไปเป็นติวเตอไม่ก็ขอทุนต่อโท. อะไรทำนองนั้น

น้าผมจบราชภัฏได้เป็นผู้อำนวยการตั้งแต่อายุ30ปลายๆไม่มีเส้นสายใดๆผมว่าอยู่ที่ตัวบุคคลล้วนๆ ไม่ใช้สถานศึกษา

มีครับแต่น้อย น้อยคนที่จะได้ดีกว่าคนจบ ม ชั้นนำ

ไม่ต่างครับ อยู่ที่คน แต่คนจบม.ดังๆ เห็นเป็น ผอ. กันเยอะ

ถ้าไม่ต่างกันจริง จะแย่งกันเข้า ม ชั้นนำทำไมครับ...

มันต่างกันแหละครับ แต่พวก exception มันก็มี แต่โดยเฉลี่ยคนจาก ม ชั้นนำก็เก่งกว่า

คนที่มาบอก ม ชั้นนำไม่อดทน กากกว่านู่นนี่นั่น ส่วนมากพวกปลอบใจมากกว่าครับ

น่าจะมาจากค่านิยมส่วนนึงนะ สถานประกอบการส่วนมากจะพิจารณาจากสถานศึกษาเป็นอันดับแรก

ผมไม่ bully นะแต่มหาวิทยาลัยคือการตัดเกรดคน ได้เลยส่วนใหญ่ เพราะคนที่จบ ม.ชั้นนำกับราชภัฏหรือราชมงคล คุณภาพจะต่างกันพอสมควรจาก ปสก.ส่วนตัว

ในภาพรวมมันต่างอยู่แล้วครับ เพราะพวกม.ต้นๆ เขาสอบผ่านทุกรอบที่มีสอบเร็วมาก
แถมตอนประเมินต่างๆ ก็ทำดีกว่า แต่ถ้าพูดถึงรายบุคคลก็อีกเรื่อง

คำถามเค้าน่าจะให้วิเคราะห์แค่อาชีพข้าราชการครูมั้งครับ ผมเองก็ทำงานในสายการศึกษาอยู่ มีเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ที่จบ ม.ดังๆ เยอะมากครับ แต่เอาจริงๆ สกิลที่เอามาใช้ในการทำงานราชการ มันก็ไม่ได้ใช้สกิลไรมากขนาดนั้นนะ (ยกเว้นพวกสาย IT) อีกอย่างก็ต้องมาแยกแยะว่า เก่งงาน กับความก้าวหน้าไปอีก คนทำงานเก่งในสายราชการ ก็ใช่ว่าจะก้าวหน้านะครับ ส่งนมากคนที่ก้าวหน้าคือคนที่อยู่เป็น คำว่าอยู่เป็นในที่นี้ก็ไม่ได้หมายถึงเลียนายไปซะทีเดียวนะ มันรวมถึงการทำผลงานเพื่อขอปรับเลื่อนขั้นอะไรอีก มีสอบ ผอ. อีกนะ ถ้าคนเก่งงานหลายๆคนก็จะมุ่งแต่กับงานอะ ส่วนคนอยู่เป็น มันจะมุ่งให้ตัวเองเลื่อนขั้นไวที่สุด แล้วในหน่วยงานที่ผมอยู่ คนจบ ม.ดัง ถ้าเข้ากับพวกศิษย์เก่า ลูกหม้อ ไม่ได้ คุณก็เป็นได้แค่อาจารย์ธรรมดา แทบไม่ได้เป็นผู้บริหารเลย ในขณะที่ผู้บริหาร 70%ของหน่วยงาน จบราชภัฏ

เพื่อนผม จบครุ จุฬา กับคนอื่นๆ จบ กศบ ของ มศว และ ราชภัฏ

ตอนนี้ ก็ไม่ต่างกัน เป็นครู ค.ศ 1

ส่วนเรื่องความก้าวหน้า มันอยู่ที่ใครจะขวนขวายครับ

ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นครู แล้วอยากจะเป็น ผอ

บางคนอาจจะอยากสอนหนังสือไปจนเกษียณ

แต่คนจบ จุฬา จะสอบเก่ง ถนัดวิชาการมากกว่าครับ

โอกาสในการเรียนต่อโท หรือสอบอะไรต่างๆ ทำผลงานประเมิน

แม้แต่การสอบบรรจุอะไรต่างๆ ก็มีโอกาสสูงกว่าคนจบราชภัฏ

เพราะมันต่างกันตั้งแต่ความเข้มข้นในการเรียนในมหาลัย

ความก้าวหน้าในอาชีพ หมายถึงกรณีบรรจุแล้วใช่มั้ยครับ

ถ้าเป็นสายสอน ยังไงก็ไม่ต่างเพราะ ขรก.ครู ทำผลงานให้การเลื่อนลำดับส่วนใหญ่ผ่านทั้งนั้น ผ่านบรรจุ ครูผู้ช่วย ค.ศ.1 ค.ศ.2 ค.ศ.3 ค.ศ.4 ค.ศ.5 ตามลำดับ เงินเดือนครูต่างอำเภอ กับในจังหวัดเท่ากัน แต่บางคนเลือกอยู่ รร ข้างนอกเพราะหลายๆอย่าง ภาษีสังคม ค่าครองชีพ จำนวนเด็กในการสอน
แต่ถ้าจะย้ายต้องอาศัยอย่างที่รู้กัน

ถ้าสายบริหาร จะได้เป็นผู้บริหารได้ ก็ต้องผ่านข้อเขียนได้ ส่วนจะได้ที่ลงที่ดีๆ ก็ต้องอย่างว่า ตรงนี้จบจากไหน ผมบอกเลยไม่สำคัญ

คหสต.มองว่าความก้าวหน้าใน ขรก.ครู สถาบันที่จบไม่สำคัญ สำคัญไม่กี่อย่าง ที่จะก้าวหน้าได้

ส่วนความเก่งของบุคคลนั้นๆ สถาบันที่จบมาการันตีได้ส่วนนึง แต่ไม่ทั้งหมด

ความเห็นส่วนตัว และจากสิ่งที่เห็นของคนรอบข้าง

ส่วนนึงไม่เถียงแต่ผมกล้าพูดว่าส่วนน้อย ความ Bright มันต่างกัน ทักษะการเรียนรู้ การสร้างวิธีใหม่ๆ

การแก้ปัญหา เหมือนเม้นบนๆบอก พวกม ชั้นนำทำได้ดีกว่ามากครับ

แทบทุกสาขาวิชาชีพ

มันแล้วแต่ความเชื่อครับ แต่ส่วนตัวที่ผมเจอมามันก็แบบนี้แหละ เพราะคนเก่งมันมีในส่วนทักษะการเรียนรู้

การที่เค้าเข้าใจอะไรไวกว่าชาวบ้าน Basic ความรู้ก็ต่างละ ม ชั้นนำ กับ ม รองๆ สอน

การเรียนการสอนก็ต่าง นี่ขนาดผมอยู่สายวิชาชีพนะครับ ที่ทุกอย่างเดินตามมาตรฐานทางวิชาชีพหมด