เคยแต่อ่านผ่านบทความ

เมื่อวานเพื่อนแต่งงานแบบ The Vow Ceremony เลยเอามาแชร์ให้ฟัง

การแต่งงานแบบ The Vow Ceremony คือ

The Vow Ceremony หรือ พิธีแลกแหวน คือ การแต่งงานแบบไม่อิงศาสนาใดอย่างเป็นทางการมากค่ะ (Civil Wedding Ceremony) เหมาะกับว่าที่คู่บ่าวสาวที่ไม่นับถือศาสนาใด หรือแต่งงานกับชาวต่างชาติที่ไม่นับถือศาสนาและฝ่ายเจ้าตัวก็ไม่เคร่งศาสนามาก การแต่งงานลักษณะนี้จะมีความเรียบง่าย อบอุ่น โดยหัวใจของพิธีคือการแลกคำสัญญาสาบานการใช้ชีวิตคู่ต่อกัน แลกแหวนกันท่ามกลางครอบครัวและมิตรสหายแบบเป็นส่วนตัวสุด ๆ อย่างภาพที่เรามักเห็นได้จากภาพยนตร์ฝรั่งที่มีฉากแต่งงานริมทะเล หรือแต่งงานในสวนสวยแสนโรแมนติก ซึ่งไม่มีพิธีรีตองมาก เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Twilight เป็นต้น



คือพิธีแบบง่ายมาก ง่ายสุดๆ แทบไม่มีอะไรเลย จัดที่ รีสอร์ท มีบุฟเฟต์พูลปาร์ตี้ ตอนงานจบ

ตอนพิธีก็แค่มีพิธีกร 1 คนคอย ดำเนินงานหลัก

- คล้ายๆ กับพิธีคริสในโบสถ์ แต่ไม่มีบาทหลวงเหมือนคริส แต่ทำต่อหน้าแขกที่มาร่วมงาน

- ชุดไม่มีธีมใดๆ เพราะไม่อยากให้แขกที่มาร่วมงานสิ้นเปลือง แต่ขอเป็นสีเบจ สีโทนอ่อนก็พอ

- กล่าวคำมั่นใจสัญญา แลกแหวน ต่อหน้าแขก ให้เป็นสักขีพยาน ราวๆ 200 คน

- ถ่ายรูปหน้าบอร์ด หน้าซุ้ม

- จบงาน ไปพูลปาร์ตี้ต่อได้ ใช้เวลางานทั้งหมดราวๆ 60 นาที

** พูดคุยกับพ่อแม่ทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว ก็เป็นพุทธ ทั้ง 2 ฝั่ง

ทางเจ้าบ่าว เจ้าสาวเป็นพุทธในบัตรประชาชน แต่ไม่มีการนับถืออะไรเป็นพิเศษในทางปฎิบัติ

คือเข้าได้ทุกอย่าง ไหว้ได้ทุกรูปสักการะ แต่ไหว้แบบเคารพ ไม่ได้ไหว้แบบนับถือทางใจ

ทางฝั่งเจ้าสาว อยู่อังกฤษมา 5 ปี เจ้าบ่าวไทยตั้งแต่เกิด

ตอนตกลงแต่งแบบนี้ ก็มาคุยกันทั้ง 2 ครอบครัว เห็นพ้องกันว่า เรียบง่ายดี ไม่มีพิธีสงฆ์ พิธีคริส ใดๆ

*** รวมค่าใช้จ่ายทั้งงาน ไม่เกิน 120,000 บาท

- ค่าเหมาทั้งรีสอร์ท 1 คืน 30,000 ( เที่ยงวันเสาร์ - เที่ยงวันอาทิตย์ )

- ค่าออแกไนซ์จัดงาน 20,000 บาท

- ช่างภาพเพื่อนกัน 7,000 บาท ( ทางการราวๆ 6-7 ชั่วโมง อาจมีเรียกให้ภาพเพิ่มเล็กๆ น้อยๆ )

- ค่าอาหาร/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 50,000 บาท

- ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ ไม่เกิน 20,000 บาท

ถ้าแต่ง ผมคิดไว้แบบนี้แหละ ง่ายและได้ความเป็นกันเองที่สุดลดพิธีกรรมได้มาก และเหนื่อยน้อยสำหรับบ่าวสาว ได้มีเวลาอยู่กับคนใกล้ชิดที่มายินดีในงานมากกว่า

ผมว่านี่แหละ คือการแต่งงานที่ดีที่สุด

คือถ้าเราต้องจัดงานเพื่อให้คนรับรู้ ว่าเราไม่ได้ลักลอบอยู่ด้วยกันนะ

ทำแบบนี้มันก็ตรงจุดประสงค์ทุกอย่างแล้ว

แต่ผมไม่เข้าใจเลยอ่ะ ที่ต้องเอาสร้อยมากั้น แล้วให้ทำตามสั่งถึงจะยอมเปิด

หรือเข้าออกันในห้องนอน แล้วให้เจ้าบ่าวอมไข่ให้เจ้าสาวกิน

ทำแบบนี้ มันมีข้อดี และมีความจำเป็นยังไงบ้าง

ชอบจังอะไรแบบนี้

งานแต่งมันคือการฉลองสมรส
ซึ่งไม่เคยมีใครระบุลงพงศาวดารว่ามันเป็น listed to do

แต่บ้านเรานี่ ต้องแต่งนะ ต้องมีสินสอดแบกโชว์นะ
ต้องเลี้ยงอาหารโต๊ะจีนหรือไม่ก็ ต้องปิดโรงแรม
เดี๋ยวเป็นขี้ปากชาวบ้านเขาแย่

ตลก ยิ่งไอ้ประตูเงินประตูทองนี่ ผมอยากเกลียด
ถ้าบ่าวสาวเขาสนุกก็เรื่องของเขาแต่งานแต่งผมไม่มีแน่นอน
ให้มาเต้น มาบอกอาหารที่ชอบ ร้องเพลงให้ฟัง ผมจะอ๊วก
กลายมาเป็น listed to do ในงาน มงคลสมรสในไทยซะงั้น

ผมคุยกับแฟนแล้ว
มีร้านกาแฟร้านนึงในจังหวัดสวยมาก
จะขอเช่าร้านเค้าหนึ่งวัน แขกเอาแต่เพื่อนคนสนิท
ผู้ใหญ่ไม่ค่อยอยากชวน รำคาญ

งานหมั้นบ้านผมนี่ก็ต้องการจัดใหญ่โต
เพราะท้ายที่สุดแล้วก็พูดคำนี่ใส่ผม ทั้งฝั่งแฟนผมฝั่งบ้านผม
“แล้วคนอื่นเขาจะมองยังไง จัดงานเล็กๆแบบนี้”
ผมขำกร๊ากเลย สุดท้ายก็สนใจแต่คนอื่น ไม่ได้สนใจคนในครอบครัว
แต่ผมไม่สนใจ จัดเล็กๆนี่แหละ พอใจแบบนี้ ประหยัดด้วย

ผมไปงานแต่งเพื่อนที่เป็นแบบ บ้านๆ โต๊ะจีนหน้าบ้านตัวเอง
มันแบบห่างไกลกันมากเลย ทั้งแขก ทั้งบ่าว สาว ไปคนละทิศคนละทางเลย
แถมแม่งมีคนมั่วบ้านงานโคตรเยอะ เข้ามานั่งกินอยู่ๆกลับเลย เอาอาหารใส่ถุงกลับด้วย
แบบไม่มีความอบอุ่นเลย ต่างจากงานเพื่อนผมอีกคนนึง แขกไม่เยอะมาก
อาหารไม่หรูหรามาก สถานที่จัดสวย แต่โคตรอบอุ่นเลย

ชอบงานแบบนี้มากครับ ไม่เปลือง

แถมฟีลลิ่งแบบง่ายๆ ไม่ดัดจริต ไม่ต้องพรีเซนท์ความรักอะไรมาก จริงๆคนแต่งงานก็ต้องรักกันอยู่แล้ว
ทุกคนรู้อยู่ 5555

ค่าอาหาร+แอลกอฮอลล์ในงานที่ท่านว่า ดูแพงสุดเล

งานในฝันผมเลยแบบนี้ พิธีรีตองมันไม่ได้ทำให้ใครในงานมีความสุขขึ้นเลย ไม่มีสักคนจริงๆ นะ ทั้งแขก เจ้าบ่าวเจ้าสาว เจ้าภาพ พ่อแม่ ทุกคนเบื่อและอยากกลับบ้านนอนทั้งนั้นอะ ดูไม่น่าใช่วันที่ควรจะมีความสุขที่สุดเลยสักนิด

ของเราแล้วแต่แฟนเลย แฟนอยากได้แบบไหนเราจะพยายามทำให้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่ทุนเราจะไหว

อยากจัดแบบนี้ ผมกำลังจะจัดงานแต่ง รวมๆแล้ว เป็นล้าน ให้ตายเถอะ