ไปดูมาเล่า : เทอมสอง สยองขวัญ
--------------------------------------------------------------------------------

เมื่อวานเลิกงานก็รีบแว๊นผ่านบ้านตัวเองไปเข้าโรงหนังก่อนเลย
(ตอนแรกว่าจะดู หนังญี่ปุ่น ฆาตกรย้อนฆาตกรรม แต่มันดึกกว่าเลยเอาเรื่องนี้ก่อน)

หนังไม่มีอะไรมาก 3 เรื่อง 3 รสในแนวผีในมหาวิทยาลัย
ตอนละประมาณ 40 นาที ศิริรวมก็ประมาณ 2 ชั่วโมงปริ่ม ๆ

เอาทีละตอนเลย

1. เชียร์ปีสุดท้าย



part นี้มาไว ไปไว ไม่อะไรมากมาย แต่ค่อนข้างเน้นความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก 2 ตัวคือ แคร์-ปาณิสรา กับ มิวสิค BNK (ผมเป็นคนไม่ค่อยจำชื่อคน, จำไม่ค่อยได้ ชื่อนักแสดงนี่ก็ Google มา ขออภัย)

หนังออกแนวผีตุ้งแช่ มาแบบตกใจ ๆ พล๊อตเรื่องสั้น ๆ ง่าย ๆ คือคนเห็นผีต้องไปอยู่ในที่ส่วนรวม
นักแสดงหลัก แสดงได้ OK เลย, พี่ว๊าก ก็ยังคงถือสโลแกน โง่ บ้า ปัญญาอ่อน เหมือนในสังคมปกติ

จบแบบค้าง ๆ time skip มาไกลพอสมควร แต่ก็ถือว่าสรุปเนื้อหาในส่วนของ 2 ตัวละครแบบพอไปได้อยู่
--------------------------------------------------------------------------------
2. เดอะซี




part นี้อยู่หอในของคณะแพทยศาสตร์ ว่าด้วยเรื่องเล่าที่เปิดเรื่องเหมือนว่าอำกันขำ ๆ แต่ดันมาจริง, สำหรับ part นี้ ถ้าบอกก่อนว่ามีการเล่นกับแสงกระพริบแทบทั้งตอน ผมจะปฏิเสธไม่เข้าไปดูเลย
40 นาที ผมหลับตาดูแทบทั้งเรื่อง (ช่วงก่อนพีคและพีค)

ตัวหนังทำแบบนี้เพราะ ดันปูไว้ว่ามันจะทำให้พฤติกรรมบางอย่างของตัวละครจะเปลี่ยนไปจากเหตุที่ว่า และมันเป็น intro ในการมาของผี ที่ดู ๆ ไปเหมือนซอมบี้ เหมือนอสูรกายมากกว่า ยังไง ยังงั้น (หมายถึง ดูแล้วไม่สยองเหมือนผี)

เจมส์ เล่นแทบจะคนเดียวทั้งตอน การแสดงดีนะ ใช้ได้เลย, นาน่า นางเอกออกนิดเดียวเอง เสียดาย.......
--------------------------------------------------------------------------------
3. ตึกวิทย์เก่า




part ปิดท้าย ฉีกอารมณ์แบบไม่ต้องกลัวตอนดูรอบดึก เดินกลับบ้านได้สบายยยยยยยย
ความน่ากลัวน้อยลง จนเกือบเหลือแต่ความฮา
น้องเบลล์กวนตีนมาก ตอนเพื่อนทำงาน ดันเอาเรื่องผีดึกเก่ามาเผาหัวเพื่อน, เพื่อนก็ดีมากกกกก ขายาวขาวเรียว มีเสื้อกาวน์คลุม และยังคงกวนตีนเป็นระยะ
กิต three man down (ตอนแรกผมนึกว่า คิวเท, ผมไม่ถนัดจริง ๆ 5555555) ก็กวนตีนสมกับเป็นน้องคลานตามกันมากับเบลล์ในเนื้อเรื่อง

--------------------------------------------------------------------------------

สรุป !!!
ว่าง ๆ ไม่รู้จะไปไหน ตีตั๋วไปดูได้เลย, แต่ไม่ได้มีอะไรว๊าวแปลกใหม่หรือฉีกขนาดที่ ไม่ดูไม่ได้

ชื่อหนัง เหมือนตั้ง ๆ มางั้นแหล่ะ
ไม่ได้มีผลอะไรกับหนัง (1. ปีแรก, 2. น่าจะปีแรกเหมือนกัน และ, 3. น่าจะปิดท้าย ๆ หรือปี 2-3 เป็นอย่างต่ำ ) , แต่ละตอนไม่ไดเกี่ยวพันกันเหมือน 4-5 แพร่ง GTH

บางฉากมองผ่าน ๆ เหมือนเป็นสถานที่เดียวกัน (สถานที่ถ่ายทำ) แต่ไม่ใช่ี่เดียวกันในเนื้อเรื่อง


สรุปอีกที
ว่างไปดู ก็ไป, หลอกสาว ๆ ไปดูได้ part 2 เหมาะสมต่อการอ้อนสตรีอยู่

เต็ม 10 ให้เท่าไหร่ครับท่าน

เมื่อวานไปดูพี่นาค แล้วต่อด้วยเรื่องนี้ เรื่องนี้กลายเป็นโคตรดีเลยแหละ

ตอน1มันคือความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทแหละ แต่ผมก็เดาได้แต่แรกก่อนไคลแม็กซ์ละ

ตอน2นี่ อารมณ์เหมือน4แพร่ง พาทที่ต้องอยู่ห้องคนเดียวเลย

ตอน3เอามาตัดเลี่ยนจากการโดนบิ๊วให้อึดอัดใน2ตอนแรกได้ไม่แย่

6/10 ถ้ามี m pass ก็ดูฆ่าเวลารอรถหายติดแล้วค่อยกลับบ้านได้ ถ้าเสียตังดูก็เก็บไว้ดูวันพุธ

ผมไม่ชอบให้คะแนนน่ะสิ
เอาเป็นว่าเหมือนที่สรุปเลยครับ

ว่างก็ไปดูได้ ไม่เสียดายเงิน
แต่ถ้ามีเรื่องอื่นที่อยากดูมากกว่า หรือไม่ว่าง ก็ไม่เสียดายครับ

พี่นาค ตอนแรกว่าจะดู แต่เอาไว้ทีหลัง หนังรายได้ไม่แย่ น่าจะอยู่อีกซักพักนึง
ผมยังไม่ได้ดูภาค 1-2 มาเลยไม่เน้นเท่าไหร่

ตอน 1 นี่ตอนดูนึกว่าจะมีอะไรมากกว่านั้น , แต่ไม่มีแหล่ะดีและ 5555
ตอน 2 หมายถึงเดี้ยงเหมือนกันใช่มั้ยครับ นางเอกหนีกลับบ้าน โคตรงอน
ตอน 3 ล้างหัวตัดเลี่ยนแบบที่บอกเลย

อมสอง

ก็คือจะมี 1 ตอนที่ออกไปทางตลกมั้ยครับ

ผมรู้สึกว่ามันแทบจะเป็นสูตรของหนังผีที่เป็นตอนๆไปแล้วอะ
ว่ามันต้องมีตอนนึงที่ออกไปทางตลก

แรกๆก็ชอบนะ หลังๆผมว่ามันเกร่อไปหน่อย เหมือนเป็นสูตรสำเร็จต้องขายขำ

เหมือนเป็นสูตรสำเร็จของค่ายนี้่เลยนะ เลยไม่ได้หวังอะไรมากเท่าไรก็เลยไม่ผิดหวัง เรื่องสุดท้ายคือเอาฮาอย่างเดียวเลยจบออกมาจากโรงลืมสองเรื่องแรกไปเลยอ้ะ 555+

แล้วค่ายนี้ทำหนังผีนะ . . .