[RE: รถที่เพิ่งไปทำสีมาใหม่ สามารถเคลือบสีพอดีได้เลยไหมครับ]
aitliver พิมพ์ว่า:
oon_the-gunner พิมพ์ว่า:
aitliver พิมพ์ว่า:
oon_the-gunner พิมพ์ว่า:
ควรเว้นอย่างน้อย 3 เดือนขั้นต่ำครับ
สีที่ทำเสร็จใหม่ๆ จริงๆแล้วควรทิ้งไว้หลักเดือน จึงค่อยขัดเก็บ
ต้องให้เวลาการเซ็ตตัว
ให้การระเหยของเคมีออกให้ดีก่อน
แต่ในแง่ความเป็นจริง ลูกค้าต้องใข้รถจึงต้องขัดเก็บงานเพื่อส่งมอบ
ที่เจอมามีปัญหาหลายคันมากๆ ถ้าเคลือบทับทันทีเลย
ปล.จากประสบการณ์ ผมทำอู่ซ่อมสี
ปล2. เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีด้านสี ถ้าใช้วัสดุตัวท๊อปๆ แทบไม่ต้องเคลือบแล้ว แค่ ขัดเก็บคราบไคล และ ขนแมวบ้าง
สอบถามเพิ่มเติมครับ แบบนี้ถ้าเกิดผมเว้นไป 3 เดือน
แล้วต้องการเคลือบเพื่อป้องกันรอยต่าง ๆ ที่จะเกิดในอนาคต ( ผมไม่คิดว่าเขาจะใช้วัสดุสีตัว top ให้ครับ )
ผมควรจะขัดก่อนที่จะเคลือบหรือเปล่าครับ
ต้องขัดเตรียมพื้นผิวอีกครั้งก่อนเคลือบอยู่แล้วครับ
อันนี้คือ ขั้นตอนมาตรฐานก่อนเคลือบเลยครับ
ขอบคุณครับ ผมขอสอบถามเพิ่มเติมหน่อยสิครับ
พอดีที่ว่าจะไปเคลือบสีรถคือทำที่ร้านล้างรถ car care อะไรพวกนี้น่ะครับ
ก็เลยงงว่า ทำไมมันมีการแยกกันระหว่างขัดสีรถ กับ เคลือบสีรถ
หรือว่าการขัดสีรถที่แยกออกมาคือการขัดรอยที่ฝังลึกลงไป
แต่การขัดเตรียมพื้นผิวก่อนเคลือบตามที่ท่านบอก คือการขัดธรรมดา ๆ
ไม่สามารถทำให้รอยที่ฝังลึกหายไปได้ แบบนี้หรือเปล่าครับ ?
อันนี้ทางคาร์แคร์ อาจแยกบริการออกมาย่อยๆ เช่น
ลงดินน้ำมัน = ลบคราบไคล
เคลือบสี = เคลือบน้ำยาชักเงา หรือ เคลือบแว็กซ์
ขัดเคลือบสี = ขัดลบรอยขนแมว ขูดขีด พร้อมเคลือบสี
เคลือบแก้ว เซรามิค = เตรียมพื้นผิว ลงเคลือบต่างๆ
จริงๆแล้วการขัดสี ต้องเคลือบสีลงแว็กซ์อยู่แล้วครับ
ถ้าทำการแบบจริงๆจัง ลงกระดาษทรายละเอียด ลบรอย
แล้วตามด้วยน้ำยา
มันจะมีน้ำยาแยกขั้นตอนเลยครับ
3-5 ขั้นตอนแล้วแต่ยี่ห้อน้ำยา
ขัดหยาบ>ขัดละเอียด>ชักเงา> +เคลือบสี
แต่พวกเคลือบแก้ว เซรามิค
อันนี้น้ำยาที่เซลล์ขายๆกัน มันค่อนข้างเทไปรถใหม่
คือเตรียมนิดหน่อย แล้วทำความสะอาด
แล้วเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิค ก็ว่ากันไป
แล้วแต่เทคนิคการขาย จะทา จะพ่น เพิ่มมูลค่ากันไป
ลักษณะการขัดเตรียมคนละแบบกันครับ
รถเก่าเลยลำบากหน่อย
แต่ที่ผมเคยทำเคลือบพวกนี้
(ตอนนี้เลิกล่ะ ผมมองว่ามันเป็นเสริมความงามมากกว่า)
ผมทำแบบนี้
ถ้ารถเก่ามีแผล ให้ลูกค้าเคลมซ่อมให้เรียบร้อย เก็บหมด
ผมจะเก็บงานขัดสีตามมาตรฐานไปก่อน
อีกสอง-สามเดือน ให้กลับมาทำเคลือบ ที่ลูกค้าต้องการ
ตอนกลับมาก็ขัดสีเต็มระบบอีกครั้ง
(ค่าขัดไม่เก็บเงินแล้ว รวมในค่าเคลือบแก้วไปเลย)
ล้างให้จบ
แล้วจัดเคลือบแก้ว
แต่ถ้าไม่มีแผลอันนี้ ลงเต็มระบบขั้นตอนจะยิบย่อยมาก
ตั้งแต่ลงกระดาษทรายละเอียด ไล่หลายหลายเบอร์เลยครับ
น้ำยาลบรอยเส้นกระดาษทราย น้ำยาลบรอย น้ำยาขัดเงา
ขนแกะบ้าง ฟองน้ำแบบนั้นแบบนี้บ้าง ล้างละเอียด เช็ดน้ำยา
เข้าห้องไป ทำอีกวันนึง
กระบวนการพวกนี้ละเอียดมาก ถ้าจะทำจริงๆจังๆ
ทำเองจะเหนื่อย ค่าอุปกรณ์แบบมืออาชีพจะเยอะ
ให้ช่างชำนาญการ เค้าทำเถอะครับ
ปล.รถผมเอง (รถค่ายเยอรมัน 14ปีแล้ว)
ก็ไม่ได้เคลือบอะไร
ใช้สี+แลคเกอร์รุ่นท๊อปเอา
ท๊อปขนาดไหน
สองอย่างนี้ค่าต้นทุน หลักหมื่นๆเลย
ทำสีแบบเต็มระบบตอนปีที่9
ตอนนี้ +4 ปีล่ะ ใช้แบบปล่อยปะละเลย
จอดกลางแดด กลางฝน นกขี้ใส่ แมวขึ้นไปนอน
ขึ้นเหนือสุด ลงใต้สุด สิบกว่ารอบแล้ว
ยังไม่รวมขับเที่ยวนั้นเที่ยวนี้ ไปทะเลก็บ่อยๆ
แทบไม่ดูแลก็ยังสวยงามดี ลูกค้ามาทักถามประจำว่า
ทำยังไงทำแบบไหน
ถ้ารถเก่ามีโอกาส ลองเต็มระบบ
บางทีมันดูแลง่ายกว่าไม่จุกจิก
เจ็บจ่ายทีเดียวจบ
รถใหม่ไม่ว่ากัน โรงงานทำมาแบบสแตนดาร์ด อาจต้องประคบดูแลเคลือบนั้นนี่บ้าง
หลังไมค์ถามกันได้ครับ แชร์ประสบการณ์กันได้
ผมทำอู่สี อยากให้คนทั่วไป หรือ ลูกค้ายิ่งรู้ ยิ่งเข้าใจ ยิ่งดี อู่สบายเลยทำงานง่าย ไม่งั้นระยะยาวลำบากไม่ต่างกันช่างซ่อมบ้านอ่ะ