น้องเป้โว้ยยย! ฮีโร่ซัดน.90+4 P$G บุกฝั่งเดียวเฉือนราชัน 1-0
บิ๊กแมตช์ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เปิดบ้านครองบอลและแทบจะบุกอยู่ฝ่ายเดียวแถมได้จุดโทษนาที 62 แต่ ลิโอเนล เมสซี่ รับหน้าที่สังหารไปติดเซฟ ติโบต์ คูร์กตัวส์ ที่เกมนี้โชว์ฟอร์มเซฟช่วยเรอัล มาดริดไปหลายดอก เกมทำท่าจะจบแบบไร้สกอร์อยู่แล้วแต่ทดเจ็บนาที 90+4 เป็น คิลิยัน เอ็มบัปเป้ สวมบทฮีโร่ซัดชัยให้เปแอสเชเฉือนชนะ 1-0 กุมความได้เปรียบก่อนไปเล่นที่บ้านของราชันชุดขาวในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
Starting Formation: 4-3-3
15.
ดานิโล เปเรร่า
87'
6.5
11.
อังเคล ดิ มาเรีย
73'
6
ตัวสำรอง
10.
เนย์มาร์
73'
6
27.
ไอดริสซ่า เกย์
87'
6
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021/22 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
สนาม ปาร์ค เดอส์ แปรงซ์
อังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565
กรรมการ ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
1
0
เรอัล มาดริด
เบนซ์คัมแบ็คช่วยราชัน, เนย์มาร์มีชื่อสำรองเปแอสเช
เปแอสเชได้ข่าวดีที่เนย์มาร์หายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง เกมนี้พวกเขามาเล่น 4-3-3 ตามถนัด เมสซี่,เอ็มบัปเป้,ดิ มาเรีย ประสานงานกันในเกมรุก แวร์รัตติ,ปาเรเดส,ดานิโล คุมกลาง แผงหลังซ้ายไปขวา เมนเดส,คิมเปมเบ้,มาร์ควินญอส,ฮาคิมี่ ขณะที่นายด่านวันนี้สลับมาเป็น ดอนนารุมม่า
เรอัล มาดริดมาเล่น 4-3-3 เหมือนกัน แนวรุกได้ข่าวดีที่ เบนเซม่า กลับมายืนค้ำหน้าได้ โดยมี วินิซิอุส,อเซนซิโอ้ ขนาบข้าง ตรงกลางเป็น โครส,คาเซมิโร่,โมดริช แนวรับซ้ายไปขวา เมนดี้,อลาบ้า,มิลิเตา,การ์บาฆาล และ คูร์กตัวส์ เฝ้าเสาตามเดิม
• คู่นี้เคยเจอกันในยูโรป้า ลีก 2011/12 รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยผลัดกันชนะบ้านใครบ้านมันแล้วเป็น สปอร์ติ้ง ที่เข้ารอบด้วยกดประตูทีมเยือน
• เจอกันในรายการนี้ 6 นัดหลัง เรอัล มาดริด ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1
• เรอัล มาดริด ชนะในแชมเปี้ยนส์ ลีก 4 นัดติด
ด็อบบี้ตวัดยิงจ่อข้ามคาน
เริ่มเกมเป็นเจ้าถิ่นอย่างเปแอสเชที่ครองบอลทำเกมรุกได้มากกว่า จังหวะนี้พวกเขาได้ทักทายเสียวเลยเมื่อเอ็มบัปเป้ได้บอลทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนโยกหาเหลี่ยมเปิดเรียดเข้ากลางให้ดิ มาเรียตวัดยิงด้วยซ้าย แต่โดนใต้บอลเกินไปทำให้เด้งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
เมสซี่หยอดให้น้องเป้หลุดแปติดเซฟ
เปแอสเชน่าได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่เมสซี่ตักบอลจากตรงกลางสนามข้ามแนวรับมาดริดให้เอ็มบัปเป้วิ่งโฉบหลุดไปแปด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ แต่เหมือนจะโดนไม่เต็มเท่าไหรก่อนที่บอลจะไปติดเซฟคูร์กตัวส์
ดานิโล่โขกเตะมุมเข้ามือคูร์กตัวส์
จังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายของเปแอสเช เมสซี่เปิดเข้าไปตรงกลางให้เปเรร่าขึ้นโหม่งแฉลบมิลิเตาไปเข้ามือคูร์กตัวส์ที่รับไว้ไม่ยาก
เมนเดสลักไก่ซัดยังติดคูร์กตัวส์
เมนเดสได้บอลบุกขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งซ้าย ก่อนที่เขาจะตัดสินใจลักไก่ซัดด้วยซ้ายทันที บอลพุ่งไปที่เสาแรกแต่คูร์กตัวส์ยังขยับมารับเอาไว้ได้ไม่ยาก
เมสซี่โยกหาเหลียมแปหลุดกรอบ
ยังเป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลบุกเข้าใสได้มากกว่า จังหวะนี้เมสซี่ได้บอลมาที่หน้ากรอบฝั่งขวา เขาโยกหลอกอลาบ้าเข้าขวาก่อนพยายามแปเร็ว แต่บอลก็พุ่งเรียดหลุดเสาสองไป
ราชันได้ลุ้นก่อนจบครึ่งแรก
โอกาสลุ้นครั้งแรกของมาดริดในเกมนี้มาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเลย จากจังหวะที่ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย โครสเปิดเข้าไปตรงกลางให้คาเซมิโร่โฉบโหม่งแต่บอลก็หลุดกรอบไป ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบครึ่งแรกไปเลย ทำให้ยังเสมอกันอยู่ 0-0
น้องเป้ตวัดยิงเน้นๆยังติดคูร์กตัวส์
ครึ่งหลังมารูปเกมก็ยังเหมือนเดิมคือเปแอสเชได้บุกมากกว่า จังหวะนี้พวกเขาน่าได้ด้วยเมื่อแวร์รัตติจ่ายบอลยัดไปในกรอบเขตโทษแล้วฮาคิมี่ชิ่งจังหวะเดียวสั้นๆให้เอ็มบัปเป้จับแล้วตวัดยิงเร็วด้วยขวา บอลพุ่งเรียดจะเข้าอยู่แล้วแต่คูร์กตัวส์ยังทิ้งตัวปัดเอาไว้ได้
เมสซี่ปั่นด้วยซ้ายยังตรงคูร์กตัวส์
ปารีสยังมาเรื่อยๆ จังหวะนี้พวกเขาครองบอลขึงแล้วสุดท้ายเป็นเอ็มบัปเป้ที่ไหลคืนให้เมสซี่วางเท้าปั่นด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งได้น้ำหนักแต่ก็ยังไปติดเซฟคูร์กตัวส์อีกแล้ว
โครสตะบันไกลข้ามคาน
ราชันนานๆจะตอบโต้และได้โอกาสจบ จังหวะนี้ วินิซิอุสไหลบอลให้โครสวางเท้าซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่โด่งข้ามคานไปนิดเดียว
น้องเป้ปั่นโค้งๆยังติดเซฟคูร์กตัวส์
อีกครั้งของปารีส เอ็มบัปเป้ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางซ้าย ก่อนหาเหลี่ยมวางเท้าปั่นด้วยขวาอ้อมตัวประกบแต่บอลก็โค้งไปติดเซฟคูร์กตัวส์ตามเคย
เมสซี่พลาดโทษ!ซัดติดเซฟคูร์กตัวส์
แล้วทำไปทำมาเปแอสเชมาได้จุดโทษจากจังหวะที่เอ็มบัปเป้ได้บอลกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วโดนการ์บาฆาลเสียบสกัดล้ม ผู้ตัดสินจากอิตาลีเป่านกหวีดชี้จุดโทษแบบไม่ลังเล
เป็นเมสซี่ที่รับหน้าที่สังหาร เขาสืบเท้าซัดด้วยซ้ายพุ่งเรียดไปทางขวามือตัวเองแต่ไปติดเซฟคูร์กตัวส์ที่ไปถูกทางและปัดเอาไว้ได้
เนย์มาร์ลงไปเรียกฟรีคิกได้เลย
เปแอสเชเปลี่ยนเนย์มาร์ลงสนามแล้วสตาร์แซมบ้าก็เรียกฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษได้ทัน เป็นเมสซี่ที่รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายโค้งข้ามกำแพงแต่หลุดกรอบไป
เปแอสเชยังเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา
เปแอสเชยังโหมบุกต่อเนื่องๆ จังหวะนี้น่าได้เมื่อเอ็มบัปเป้ได้บอลทางกรอบฝั่งซ้ายก่อนมีเหลี่ยมปั่นด้วยขวา บอลพุ่งแรงผ่านหน้าประตูเฉี่ยวเสาสองออกไปนิดเดียว
เนย์มาร์หลุดยิงมุมแคบผ่านหน้าประตู
เปแอสเชยังพยายามจะเอาประตูชัย จังหวะนี้เมสซี่ยกบอลให้เนย์มาร์สปีดหลุดไปทางกรอบฝั่งขวาเกือบถึงเส้นหลัง ก่อนที่เขาจะพยายามยกบอลข้ามคูร์กตัวส์ไป แต่บอลก็พุ่งผ่านหน้าประตูไปหวุดหวิด
เขื่อนแตก!น้องเป้โชว์หลุดซัด เปแอสเชเฮท้ายเกม 1-0
เกมทำท่าจะจบด้วยผล 0-0 อยู่แล้ว แต่สุดท้ายกลายเป็นเปแอสเชที่มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่เนย์มาร์ตอกส้นให้เอ็มบัปเป้ทางริมกรอบฝั่งซ้าย ก่อนที่เขาจะโขว์พลิ้วแตะบอลหนีลอดขามิลิเตาพร้อมกับแหวกหนีบาซเกซก่อนแปด้วยขวาเรียดสวนคูร์กตัวส์ตุงตาข่าย 1-0 ทันที
P$G กุมความได้เปรียบก่อนบุกเยือนเบร์นาเบว
สุดท้ายจบเกมปารีสเฉือนชนะไปแบบหวุดหวิด 1-0 กุมความได้เปรียบก่อนไปเล่นในถิ่นราชันชุดขาวในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
2.
ดานี่ การ์บาฆาล
72'
6
10.
ลูก้า โมดริช
82'
6.5
11.
มาร์โก อเซนซิโอ้
72'
6
20.
วินิซิอุส จูเนียร์
82'
6.5
9.
คาริม เบนเซม่า
87'
6
ตัวสำรอง
7.
เอแด็ง อาซาร์
82'
6
15.
เฟเด้ บัลเบร์เด้
82'
6
21.
โรดรีโก้
72'
5.5
17.
ลูคัส บาซเกซ
72'
6
18.
แกเร็ธ เบล
87'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Wed Feb 16, 2022 05:15, ทั้งหมด 12 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ