คงไม่มีคนไทยไปถึงระดับนี้แล้วแหละชาตินี้

1.เจ็บข้อมือรื้อรัง แต่ตอนนั้นกลับมารักษาที่ไทย ไม่ไปผ่าที่อเมริกาหรือสเปนที่เค้าดังๆกัน
2. เป็นคนที่ไม่มีชีวิตส่วนตัวแบบวัยรุ่นเลย เดินทางทัวร์รอบโลกละ 40 สัปดาห์ เป็นสิบปี เลยหมดไฟไปในตัว
3. จะว่าพีคสั้นก็ไม่เชิง แกไต่จาก90ของโลก ลงมาเป็นมือ9 ก็หลายปีอยู่ จะบอกว่าพีค3-4ปีก็ได้ พอได้มือ9ก็เจ็บพอดี....เรียกว่าประสบความสำเร็จ และได้ชื่นชมความสำเร็จสั้นไปหน่อย

ภราดรขึ้นสูงสุดมือเก้าของโลกครับ ส่วนไมเคิลช่างเป็น นักเทนนิสของอเมริกา อันดับสูงสุดของไมเคิลชาง คืออันดับที่สองของโลกเป็นรองพีทแซมพาส
คนที่ขึ้นเป็นมือสามของโลก นั้นต๋อง ศิษย์ฉ่อยครับ

สไตร์แกอยู่ได้ไม่นานอ่ะ สายพลังสุดๆ ใส่แรงสุดๆแต่ละลูก

อันนี้ผมตามอยู่ เพราะการฝึกสอนของคนไทยครับ เรื่องการจับไม้อะไรนี่ละ ทำให้แกเจ็บข้อมือ แกวินัยดีแต่แก้การจับไม้ไม่ได้เพราะเรียนแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เจ็บขนาดไปหาหมอเทวดาก้ไม่ได้ ก้เลยต้องยอมรับครับ

ตอนพีคไม่ยอมเปลี่ยนโคช จำได้เลยยุคนั้นพวกฝรั่งเค้าอึ่งกับพี่บอลมาก ทั้งสื่อและตำนานหลายๆคนแนะนำให้แกเปลี่ยนไปใช้โคชื่อดังเพราะจะได้ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีก อาการเจ็บก็ส่วนนึง แต่ฟอร์มแกพีคแบบสั้นจริงๆ ต่อให้ไม่เจ็บก็ได้แค่นั้นแหละ

จบเพราะบาดเจ็บเลย ช่วงพีคๆแกตีอย่างมันส์

ชอบคอนเซปเปลี่ยนชุดแดงด้วย ถึงแม้หลังๆจะไม่ได้ผลก็เหอะ

ในไทยคงไม่มีใครไปแกได้เท่าแกแล้วแหละ

ภราดรเล่นแนวใช้พลังซะส่วนใหญ่เลย มรึงแรงมากรูก็แรงกลับไป มรึงเบากรูก็ยังแรง ไม่ค่อยมีแนวพลิกแพลง แล้วพยายามตามเก็บเกือบทุกลูก โอกาสบาดเจ็บได้ง่ายมาก

ส่วนความดังกับสาวๆเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะกับนักกีฬาไทย ตอนภราดรที่ดังๆก็มีโอเด็ต ทาทา นาตาลี

เคยดูสด ภาราดรเจอ รอดดิก รับลูกเสริฟรอดดิกไม่ได้เลย ถ้ารับได้ก็ตั่งให้เขาตบ ต่างจากเฟด ที่รับลูกเสริฟเก่งมาก

นักพาคย์เคยบอกไว้ จุดอ่อนภาราดรคือใช้พ่อเป็นโค้ช พอใช้พ่อเป็นโค้ชการจะเปลียนโค้ชมันเปลียนไม่ได้

สงครามลูกเสิร์ฟกับแอนดี้ ร็อดดิก อย่างโหด แรงมาแรงไป สุดๆครับ กราบ4ทิศในตำนาน

เห็นบอกเอเชีย (คงหมายถึงพวกตะวันออกไกล ไม่ใช่อินเดีย ตะวันออกกลาง เอเชียกลาง) มีจุดอ่อนด้านสรีระ

แต่ในเทนนิสหญิง หลี่ นา (สัญชาติจีน) เคยคว้าแชมป์แกรนด์สแลมสองรายการ
ไมเคิล ชาง (สัญชาติอเมริกัน พ่อแม่มีเชื้อสายไต้หวันทั้งคู่) เคยขึ้นถึงอันดับสองของโลก คว้าแกรนด์สแลมหนึ่งรายการ
เคอิ นิชิโกริ (สัญชาติญี่ปุ่น) เคยขึ้นถึงมือสี่ของโลกซึ่งสูงสุดเท่าที่นักเทนนิสชายเอเชียทำได้
สามคนนี้ไม่ใช่ลูกครึ่งด้วยแต่ทำผลงานได้ดี

กรรมพันธุ์อาจไม่ใช่ปัจจัยหลักก็ได้ การยืนระยะ และการฟื้นฟูร่างกายต่างหากสำคัญกว่า

ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นักเทนนิสเอเชียต้องก้าวข้ามให้ได้อีกครั้ง ของฝ่ายชายนับตั้งแต่นิชิโกริฟอร์มตก ก็ไม่มีใครเด่นขึ้นมาเลย

กลับมาพูดถึงภราดร คนนี้บทจะพีคก็พีคจริง แต่พอเจ็บยาวที่ข้อมือ เจ็บเรื้อรัง ฟอร์มก็ไม่เหมือนเดิม ความทุ่มเทก็ลดลงด้วย ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเจ้าตัวเปลี่ยนโค้ช ฟื้นฟูร่างกายจนหายเป็นปกติ เปลี่ยนสไตล์การเล่นแบบที่พวก GOAT ทั้งสามทำอยู่ อาจจะเล่นได้นานกว่านี้

ติดนาตาลีครัฟ คิคิ

ทุกวันนี้ถ้าว่างๆ นั่งหาแมตช์เก่าๆแกดูตลอด