เอนดริก : วันเดอร์คิดแซมบ้า ว่าที่ซุปตาร์คนใหม่
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ขึ้นชื่อว่าบราซิล นี่คือดินแดนที่ผลิตขุนพลลูกหนังระดับหัวแถวของโลก มีซุปตาร์มากมายที่ถือกำเนิดและฝึกปรือวิทยายุทธ์ลูกหนังบนดินแดนแห่งนี้ สิ่งที่การันตีได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขาคือสุดยอดชาติลูกหนังของโลก คือเจ้าของแชมป์ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ ถึง 5 สมัย
แต่ใครจะไปเชื่อว่านับตั้งแต่มหกรรมลูกหนังโลกที่แดนปลาดิบกับแดนกิมจิ เป็นเจ้าภาพร่วมกัน คือหนสุดท้ายที่พวกเขาไปถึงฝั่งฝันอันดับ 1 ของโลก เวลาผ่านมา 20 ปีแล้วจนถึงตอนนี้ แม้พวกเขามีสตาร์มากมายสร้างชื่อขึ้นมา แต่ก็ยังไม่เคยพาทีมไปถึงจุดสุดยอดอีกเลย
หากจะนับว่าตอนนี้ใครคือเบอร์ 1 ของ "เซเลเซา" แน่นอนว่าแม้จะฟอร์มลุ่มๆดอนๆ แถมยังมีอาการเดี้ยงติดตัวต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา เกือบทุกคนน่าจะชี้นิ้วไปที่ เนย์มาร์ หัวหอกสายแวนซ์แห่งปารีส แซงต์-แชร์กแมง ว่ามีพรสวรรค์และชั้นเชิงลูกหนังระดับหัวแถว
กระนั้น ตอนนี้ สาวกลูกหนังแดนแซมบ้า กำลังจับตาว่าพวกเขาอาจได้ยลโฉมดาวดังระดับ "ซูเปอร์สตาร์" คนใหม่ ที่กำลังสร้างชื่อของตัวเองกับ พัลไมรัส สโมสรระดับท็อปของประเทศ ท่ามกลางการจับตามองของยักษ์ใหญ่ของยุโรป นั่นคือ "เอนดริก" ดาวยิงวัยละอ่อนเพียง 15 ปี
เป้าหมายของยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป

ระหว่างที่ พัลไมรัส และโอเอสเต้ ลงสนามวอร์มอัพเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา มีบรรดาแมวมองจากทั้ง บาร์เซโลน่า, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เซาธ์แฮมป์ตัน, อาแย็กซ์ และเบนฟิต้า ตีตั๋วจองเครื่องบินพร้อมบัตรเข้าชมไปนั่งในสนาม เพื่อชมเกม โคปา เซา เปาโล รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับท็อปของบราซิล
บรรดาแมวมองแทบทั้งหมด ถูกส่งมาจับตาดูฝีเท้าของ เอนดริก หัวหอกหน้าใสวัยเพียง 15 ปี ที่ลงสนามในทัวร์นาเมนต์รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ซึ่งก่อนมาถึงรอบนี้ เขากระหน่ำไปถึง 4 ประตู ว่ากันว่า เด็กรายนี้เปล่งแสงสร้างอิมแพ็คให้วงการลูกหนังบ้านเกิดเสียยิ่งกว่าตอนที่ "น้องเนย์" เคยทำในอายุอานามเท่าๆกัน
ในเกมดังกล่าว นาทีที่ 13 บอลลอยไปลอยมาก่อนมาตกด้านหลังของ วันเดอร์คิดคนดัง ซึ่งเขาก็ไม่คิดอะไรมากหันมาตีลังกายิงจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งสุดงามไปกองก้นตาข่ายท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนๆ
"ผมคิดว่าเราอาจกำลังจะได้เห็นสุดยอดพรสวรรค์กำเนินขึ้นมา" แกรี่ ลินิเกอร์ พิธีกรรายการ แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์ กล่าวหลังเห็นประตูนั้น
หลังจากลูกยิงดังกล่าว เอนดริก ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ โรนัลโด้ หรือ "R9" ตำนานของชาติ รวมถึงอดีตนักเตะชื่อดังคนอื่นๆทันที
เอนดริก ไม่หยุดเพียงแค่นี้ เขายังเดินหน้ายิงประตูได้อีกในเกมชนะ ซานโตส เกมชิงดำที่ทีมของเขาถล่มแหลก 4-0 พร้อมได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์โคปินญ่า
"ผมย้อนนึกไม่ออกเลยนะว่ามีนักเตะคนไหนที่อายุเท่าๆกับเขาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แล้วทำในสิ่งที่เขาทำ" เฟรเดริโก้ เปน่า ประธานบริหารของ TFM บริษัทนายหน้าชื่อดังเดียวกับ วินิซิอุส จูเนียร์ และกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ดูแลเพชรเม็ดงามรายนี้อยู่
"วิธีการที่เขารับมือความกดดันที่ถาโถมเข้ามาน่าประทับใจสุดๆ เพราะบางครั้งคุณก็เห็นเด็กๆ เล่นดีแล้วต่อมาก็มีปัญหาในการรักษาระดับฟอร์มการเล่นของตัวเอง แต่เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขา แม้จะติดโควิด-19 ระหว่างฤดูกาล เขาก็มีแต่โหดขึ้นเรื่อยๆ"
เรื่องนี้ไม่ได้น่าประหลาดใจสำคัญบรรดาคนที่ติดตามนักเตะรายนี้มาตลอด โดยเมื่อปีก่อน เขาลงสนามให้ พัลไมรัส ในศึกชิงแชมป์แห่งรัฐเซา เปาโล รอบสุดท้าย ทั้งในรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี, 17 ปี และ 20 ปี
เหล่าคอลูกหนังแดนกาแฟ พยายามเรียกร้องให้ พัลไมรัส เรียก เอนดริก ติดทีมไปลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่กำลังลงสนามที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ในตอนนี้ แต่ อเบล เฟร์เรร่า โค้ชชาวฝอยทอง ปฏิเสธเสียงเรียกร้อง ไม่อนุญาตให้เขาขึ้นเครื่องเดินทางไปตะวันออกไป เราเลยไม่ได้มีโอกาสรับชมฝีเท้าของเขาแบบเต็มๆ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะเหลือแค่การรอเวลาก่อนที่ เอนดริก จะได้ลงสนามในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับเจ้าหนุ่มหน้าใสรายนี้ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วปาดจรวด
ก้าวผ่านความท้าทายทั้งในและนอกสนาม
ดักลาส ซูซ่า พ่อของเอนดริก จะไม่มีทางลืมวันที่ลูกชายของเขาเข้ามาหาพร้อมถามหาของกินครั้งยังอยู่ที่ บราซิเลีย บ้านเกิด ซึ่งน่าเศร้าที่เขาไม่มีอะไรให้ลูกชายได้ตกถึงท้องเลย
ระหว่างที่ ซูซ่า กำลังร้องไห้ให้กับโชคชะตาของตัวเองและครอบครัว เขาได้ยินเอนดริก เอ่ยปากสัญญาว่า จะเอาดีทางฟุตบอล และพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัวให้ได้ในอนาคตข้างหน้า
เมื่อเป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ ทำให้ กองหน้าหนูน้อย สร้างชื่อขึ้นมาจนเข้าตาของ เซา เปาโล ยักษ์ใหญ่ของประเทศ แต่โชคร้ายที่ไม่สามารถเจรจาสัญญากันได้อย่างลงตัว เพราะ เซา เปาโล ยื่นข้อเสนอเงินช่วยเพียงเดือนละ 25 ปอนด์ ให้ครอบครัวของเอนดริก ย้ายลงใต้มาฝึกฝีเท้า
ในตอนนั้น เอนดริก อายุเพียง 11 ขวบ และเป็น พัลไมรัส ที่ก้าวเข้ามาฉวยลายเซ็นของเขาไปร่วมทีมทันที
"ผมได้รับวีดีโอการเล่นของเขาในบราซิเลีย ผมชอบสิ่งที่เห็นจริงๆ ผมเลยอนุมัติข้อเสนอให้พวกเขาเช่าอพาร์ทเมนต์ในเซา เปาโล" เชา เปาโล ซามปาโญ่ ผู้ประสานงานทีมเยาวชนพัลไมรัส ย้อนความหลัง
"เอนดริก โดดเด่นเตะตาตั้งแต่วินาทีแรก ทันทีที่เขาย้ายมา เขาก็ตีลังกายิงประตูในเกมพบ ซานโตส ของเกมรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลประจำรัฐ นัดแรก จากนั้น ในเลกสอง ท่ามกลางแฟนบอลเจ้าถิ่นกว่า 22,000 คน เขายิงประตูชัยพาทีมคว้าแชมป์มาครอง แต่ละครั้งที่เราท้าทายเขา เขาตอบสนองได้เสมอ เขาเป็นแบบนั้น"
ทว่าบ้านใหม่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ในช่วง 6 เดือนแรกที่ย้ายลงใต้มาอาศัยที่เซา เปาโล พ่อของเอนดริก ไม่มีงานทำ และต้องขายอาหารเช้าที่สถานีรถประจำทางแถบบาร์ร่า ฟุนด้า เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ หลังจากนั้นไม่นาน พัลไมรัส เสนองานเป็นแม่บ้านของสโมสร บางทีเขาพยายามประหยัดถึงขนาดร่วมรับประทานอาหารกับนักเตะทีมชุดใหญ่ แต่น่าเศร้าที่เขาได้แค่ซดน้ำซุปลูบท้องเพียงเท่านั้น จากตรงนี้เอง ไจล์ซอน นายประตูของทีม ก็ได้เห็นว่า ซูซ่า มีฟันเพียง 7 ซี่ เลยเกิดความสงสารอาสาจ่ายเงินค่าทันตกรรมให้

อย่างไรก็ดี ตอนนี้วิบากกรรมเหล่านั้นกำลังจะหมดไป เพราะหลังจากที่เอนดริก เริ่มประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายลูกหนัง พ่อของเขาก็ไม่ต้องทำงานกับสโมสรอีกต่อไปแล้ว
ด้วยอายุอานามวัยเพียง ม.ต้น เอนดริก ไม่ได้สร้างความประทับใจเพียงแค่ความเฉียบคมในการสังหารประตู หรือความจมูกไวในกรอบเขตโทษเท่านั้น แต่เขายังมีชื่อเสียงเรื่องความทุ่มเทอีกต่างหาก
"เรามีต้นแบบ 2 คนคือ วินิซิอุส จูเนียร์ และ มาร์ติเนลลี่ เราคุยถึงพวกเขาบ่อยมาก แสดงให้เขาเห็นว่ากิจวัตรประจำวันนั้นควรเป็นอย่างไร พวกเขารับมือกับอุปสรรคแบบไหน ดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง" เปน่า กล่าว
"พวกเขาทั้งสองคนประสบความยากลำบากอย่างมากกว่าจะก้าวมาถึงที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ วินิซิอุส เจอช่วงเวลาหนักๆ กับเรอัล มาดริด และหลังจากทำอะไรมากมาย ดูเหมือนว่าเขาจะสร้างชื่อได้แล้ว เขาพบว่าตัวเองมีชื่อในวันที่มีเกมการแข่งขันเสมอๆ"
"มาร์ติเนลลี่ก็เช่นกัน บางทีอาจได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่เขาก็ใช้เวลาอยู่กับอาร์เซน่อลนานเกือบปีโดยที่ไม่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ เราอธิบายให้เขาฟังว่ามันไม่เกี่ยวหรอกว่าคุณจะเป็นแข้งระดับท็อปคลาสหรือไม่ คุณก็ยังจะต้องทำงานหนักเป็นสองเท่าเสมอ"
"เขามีแนวความคิดแบบนี้ และพยายามซ้อมเพิ่มตอนที่ไม่ได้อยู่กับสโมสร นอกจากสิ่งอื่นแล้ว เรายังให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการควบคุมน้ำหนักของเขา ยกตัวอย่างเช่น เขาเคยชอบดื่ม ท็อดดีนโญ่ (เครื่องดื่มนมชอคโคแลตชื่อดังในบราซิล) ร่วมกับอาหารเช้า ซึ่งต่อไปนี้ไม่มีทางทำแบบนั้นแล้ว เขามีมวลไขมันพอสำหรับการเป็นนักกีฬาอาชีพแล้ว"
ความสูงจะเป็นอุปสรรค?
ไม่มีใครสงสัยว่า เอนดริก จะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของบราซิล ตอนนี้ เขายังปรากฏบนหน้าแรกของ มาร์ก้า แท็บลอยด์ดังเมืองกระทิงถึง 3 หนในไม่กี่สัปดาห์ ท่ามกลางกระแสข่าวลือกับ บาร์ซ่า และเรอัล มาดริด
แต่มีอยู่อย่างที่บรรดาแมวมองของหลายสโมสรมีความกังวล นั่นคือส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 6 นิ้ว หรือราว 1.73 เมตร
"เขาไม่ใช่นักเตะที่จะสูงถึง 5 ฟุต 9 นิ้ว (1.80 เมตร) ซึ่งเป็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับกองหน้า หากย้อนถึงโรนัลโด้นะ" เปน่า กล่าวต่อ
เขาจะเป็นนักกีฬาที่เตี้ยกว่า บางทีน่าจะสูงเพียง 5 ฟุต 7 หรือ 8 นิ้วเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาถึงสุดยอดกองหน้าตลอดกาลของประเทศอย่าง โรมาริโอ เขาสูงแค่ 5 ฟุต 4 นิ้วเอง มันน่าจะพูดได้นะว่าเขาจะโอเค"
จุดหมายต่อไป เรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า?
ณ ตอนนี้ เอนดริก ยังไม่สามารถลงสนามในเกมฟุตบอลซีเนียร์ หรือเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกในบราซิลได้ จนกว่าจะอายุครบ 16 ขวบ ในเดือน ก.ค.

หลายต่อหลายสโมสรกำลังรอคอยช่วงเวลานั้นให้มาถึง แม้ตามกฏของฟีฟ่า จะบุว่า เขาจะไม่สามารถย้ายไปค้าแข้งในยุโรปได้ จนกว่าจะอายุครบ 18 ปีเต็ม
มีความเป็นไปได้เหมือนกันที่ เขาจะตกลงสัญญากับทีมใดทีมหนึ่งก่อนอายุครบ 18 ปี เหมือนกับที่ มาดริด เคยทำกับ วินิซิอุส จูเนียร์ ตอนประกาศคว้าลายเซ็นเมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัว 45 ล้านยูโร ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมอย่างเป็นทางการในปีถัดมา
รายงานตามหน้าสื่อของสเปนระบุว่า "ราชันชุดขาว" พร้อมที่จะทุ่มเงินเท่ากับที่จ่ายเป็นค่าตัวของ วินิซิอุส จูเนียร์ เพื่อนำเอนดริก มาอยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว
"ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีอะไรหรอกนะ" เปน่า เผย "เราจะขายนักเตะที่จะสามารถย้ายทีมในปี 2024 ได้อย่างไรกัน?"
"เราไม่เคยเห็นใครเจรจากับนักเตะก่อนที่จะย้ายทีมได้จริงๆ 2 ปีเลย แต่แน่นอนว่า ทุกอย่างมีครั้งแรกเสมอ และเขาอาจเป็นคนแรกก็ได้"
คงต้องรอลุ้นกันว่าสุดท้าย ยักษ์ใหญ่ในยุโรปทีมไหนจะได้ลายเซ็นของ เอนดริก ไปครอบครอง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีทีมในดวงใจอยู่แล้ว
"บาร์เซโลน่า คือสโมสรที่มีนักเตะมากมาย อย่างเช่น เนย์มาร์, R9, ริวัลโด้, โรมาริโอ, โรนัลดินโญ่"
"เด็กชายทั้งหมดในบราซิลที่อยากลงสนามในต่างประเทศ ต่างคิดถึง บาร์ซ่า เพราะ เนย์มาร์ ที่เป็นคนในยุคเดียวกับพวกเรา"
"หากวันใดวันหนึ่งมันถึงเวลาที่จะย้าย บางที บาร์ซ่า คือทางเลือกนะครับ" เด็กหนุ่มเปรยระหว่างการสัมภาษณ์นักข่าวล่าสุด
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Sun Feb 13, 2022 12:24, ทั้งหมด 3 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ