จักรวาลกว้างใหญ่ขนาดที่บอกไม่ได้ว่าสิ้นสุดตรงไหน
นับประสาอะไรกับมนุษย์โลก
ยังไงก็ย่อมมีดาวดวงอื่นที่มีชีวิต
แถมต้องมีวิทยาการล้ำหน้ากว่าเราแน่นอน
ว่าแต่จักรวาลเกิดจากอะไรหน้อ

โอกาสน้อยมากๆที่จะเกิดภาวะแบบโลก แต่ผมก็คิดว่ามันต้องมีแหละ

มีแต่ระดับที่เดินทางข้ามดาวน้อยมาก เผลอเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่วิวัฒนาการดีด้วยซ้ำ ไอ้ที่ฉลาดได้ไม่รู้จะแวะมาทำไมแถวนี้

คิดทำนองคล้ายๆผมเลยคับถ้าไม่มีผู้สร้างเนี่ยจะให้ได้เหมือนโลกต้องอาศัยความบังเอิญมหาศาลเลย(ซึ่งผมมองว่าโลกเราคือความบังเอิญในดาวเป็นล้านล้านๆดวงคับ)
เคยดูวิดีโอของอิสลามเค้าบอกเรื่อง DNA เนี่ยมันไม่มีทางเป็นไปได้ที่บังเอิญอะไรขนาดนั้นมันต้องมีผู้สร้างแต่ผมว่าดาวโลกนี่แหละคือจุดที่ทุกอย่างบังเอิญมาตรงกันพอดี
เอาจะให้เจริญเท่าโลกก่อนนะต้องบังเอิญว่าสิ่งมีชีวิตนั่นมีห้านิ้วเดินสองขามีอวัยวะที่คล่องตัวเหมือนเราจะได้ทำงานละเอียดๆได้ จะต้องบังเอิญมีนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นนู่นนี่นั่นบลาๆๆๆๆอีกหลาย ต้องผ่านสงครามที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันแล้วถ้าเกิดที่ดาวดวงนั่นลูกแอปเปิ้ลดันไม่ตกใส่เซอร์ไอแซกนิวตันมันก็จะกลายเป็นอีกเรื่องนึงอีกต้องบังเอิญมีรักวิทย์คอย disruption อยู่ตลอดทุกยุค ต้องบังเอิญมีทรัพยากรเพียงพอให้อยู่ได้เป็นหมื่นปีต้องบังเอิญเจอน้ำมันอีก ถ้าเกิดมีทรัพยากรที่โหดกว่าน้ำมันแต่ไม่มีสมองที่วิวัฒนาการไปถึงก็เท่านั้น นี่ยังไม่นับอีกหลายอย่างที่คนโบราณคิดมาได้ไงแล้วปัจจุบันอีกที่เค้าคิดกันได้ไง สมาร์ทโฟนงี้ ไฟล์ข้อมูลงี้ ให้คนร้อยปีก่อนดูงงตายห่าคือไร
ผมไม่ปฏิเสธเรื่องสิ่งมีชีวิตอื่นในจักรวาลนะเพราะถ้านิยามว่าสิ่งมีชีวิตแค่สะตว์เซลเดียวก็ได้

ผมก้เชืือว่ามีแน่นอน คือ โลกที่เราอยู่มันก็เศษเสี้ยวนึงของจักรวาลนี่

มันต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างอยู่แล้ว ที่ไม่สามารถมาเจอกันได้ ไม่ว่าจะเรื่องเทคโนโลยีที่ยังไม่สามารถทำได้
กำแพงระยะห่างที่มากเกินไป

มีแน่นอนครับ
เพราะดาวมันเยอะมาก
จักรวาลกว้างใหญ่มาก

มันมีเรื่องเวลาในการเดินทางของข้อมูลด้วยครับ

เนื่องด้วยจักรวาลขยายตัวตลอดเวลาด้วยความเร็วมากกว่าความเร็วแสง
ส่งผลให้ข้อมูลของดวงดาวที่ห่างไกลอาจจะยังมาไม่ถึงเรา หรืออาจไม่มีวันมาถึงอันนร้ผมไม่แน่ใจรายละเอียด

ข้อมูลที่ว่านี่หมายถึงข้อมูลแสงนะครับ เพราะในสเกลของจักรวาลแล้วการที่เราจะรู้ว่าในสถานที่ใดมีอะไรอยู่ ข้อมูลของสถานที่นั้นเดิ​นทางมาหาเราเร็วที่สุดก็คือแสง

นึกภาพถ้ามีเอเลี่ยนที่พัฒนาการล้ำยุคมากๆ ส่องกล้อง ณ วินาทีนี้เลยนะครับ เพื่อหาดวงดาวที่มีชีวิตกำเนิดขึ้นในจักรวาลอันแสนกว้างใหญ่นี้ แล้วบังเอิญว่าข้อมูลแสงจากโลกเดินทางไปถึงพอดี

ระยะทางระหว่างเราและเขาอาจห่างกัน....
-หลายพันล้านปีแสง -​ เขาจะพบว่าโลกเป็นซุปร้อนๆที่มีแต่สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
-หลายร้อยล้านปีแสง -​จะพบขัอมูลของสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์
-หรือไม่กี่สิบปีแสง(ความเป็นไปได้ต่ำมากๆ)​ - จะพบวิถีชีวิตในยุคหลังประวัติศาสตร์ ยุคกลาง-เรเนอซอง-ปฏิวัติอุตสาหกรรมฯลฯ
แต่ยังไงเขาก็ไม่มีวันรับรู้ถึงตัวตนของเรา ณ วินาทีนี้แน่นอน เพราะแสงยังเดินทางไปไม่ถึง นึกภาพคนสมัยก่อนเวลาสื่อสารกันด้วยจดหมายแล้วกว่าคนรับจะได้รู้ข่าวสารก็เป็นเวลาหลายวัน

คหสต.คิดว่ามีแหละครับ แต่ด้วยอายุของจักรวาล (13พันล้านปี) เทียบกับขนาดของตักรวาลแล้ว ข้อมูลที่เขาหรือเราค้นพบมันยังไม่มากพอที่จะสรุปได้ว่าเราหรือเขามีตัวตนอยู่จริงๆ

มีทั้งที่เจริญกว่า และ ล้าหลังกว่า

ไว้วันไหนเราสร้างยานที่เคลื่อนที่เร็วกว่าแสงได้ ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ใน100ปีนี้ และอาจจะไม่มีวันเป็นไปได้เลย วันนั้นเราคงได้คำตอบของทุกอย่าง

เราอาจจะเป็นเผ่าพันธุ์ ที่มนุษย์ต่างดาวเอามาทิ้งไว้ แล้วรอวันเก็บเกี่ยว เหมือนในหนัง sci-fi หลายๆเรื่องก็ได้

มี แต่เคเาอาจจะรับรู้ได้หลายมิติมากกว่าเรา จนเราสื่อสารเข้าถึงไม่ได้

จักรวาล MAVEL ครับ

ไม่น่ามี

ถ้าจักรวาลของโลกเราเป็นแค่ ขี้ฝุ่น ในอากาศของ อีกโลกนึงหละ


เหมือนกับ ขี้ฝุ่น ในอากาศของโลกเราอะ ก็มีสิ่งมีชีวิตมากมายอยู่ในนั้นที่เราเรียกว่าเชื้อโรค

คือ เราก็มองเห็นจากการส่องกล้องจุลทรรศ แค่โชคดีที่จักรวาลเราไม่มีภัยกับเค้า เค้าเลยยังไม่ทำวัคซีนมาฆ่า

มนุษย์ต่างดาวเคยมาไทยแล้วเจอของหวานก็เลยบินกลับเลย

อาจจะมีแค่มันต้องฟลุ๊คแบบโลกเรา
ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ต้องมีอย่างแน่นอน

แต่ทฤษฎีที่ว่า ไม่มีอะไรที่เร็วกว่าแสงได้(เพราะมีมวล อย่างดีก็เร็วใกล้เคียง)

ขนาดใช้ความเร็วแสงยังเดินทางโคตะระช้าเลย นับประสาอะไรกับวัตถุที่มีมวล แล้วต้องเคลื่อนที่ในอวกาศ(อินเตอร์สเตลล่า)

ผมว่ามันคือการสร้างสมดุลมากกว่า สิ่งมีชีวิตเกิดได้ในสภาวะแวดล้อมที่ห่างไกลเป็นจุดๆ. ก็เพื่อป้องกันการทำลายกันเอง ผมคิดแบบนั้นนะ