อาจจะต้องใช้ Fake-Tattoos เอาครับ
วันไหนอยากโชว์อยากอวดก็ใส่กับ Crop-Tops

ปล. เป็นเทคนิคจากประธานบริษัทเลยครับ

พี่ที่อยู่อีก รร แกสักเต็มแขนเลย บรรจุเมื่อเกือบสิบปีก่อน ปัจจุบันยิ่งเต็มตัว แกบอกสักตั้งแต่เป็นครูอัตราจ้าง ถ้ามีกิจกรรมก็ใส่เชิ้ตแขนยาว
ช่วงมีงานกีฬาครูนี่แกเปิดเต็มตัวเลย

ผมเป็นอัตราจ้างก็ล้นออกมานิ้ว/หลังมือ แต่ไม่เยอะ แต่ไหล่เต็ม เจาะหูด้วยแต่ลดลงมาเหลือ0.6

อยู่ที่องค์กรด้วยแหละ ต่างที่ต่างวาระกันไป

ถ้าสักเต็มแขน แล้วใส่แขนสั้นตลอด ผมว่ามีผล
หรือพวกสักหน้า สักคอ อันนี้ก็หนักไป

สายงานผมไม่มี แต่ก็ไม่ได้โชว์ขนาดนั้น บางคนก็ใส่เสื้อแขนยาวปิด

มีผลแน่นอน แต่มากน้อยแล้วแต่บริษัท บางบริษัทในใบกรอกสมัครงานมีให้ระบุว่าท่านมีรอยสักไหมเลยด้วยซ้ำ ส่วนบริษัทที่ไม่ได้แคร์ ไม่ได้พบปะลูกค้าก็จริงแต่ทัศนคติในแง่การทำงานเค้าก้ยังมองว่าไม่ได้เป็นผลในแง่ดี

สรุปแล้วแต่งานที่ทำ เช่นไปอยู่บริษัทเอเจนซี่ งานด้านcreative อาจจะไม่ได้มีผล แต่งานที่ต้องพบลูกค้ารายใหญ่ๆ องค์กรใหญ่ๆด้านธุรกิจอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ

ที่ทำงานผมไม่มีใครมาตรวจนะครับ คือถ้าไม่เห็นก็คงไม่เป็นไร

สักอะไรครับ ถ้าลายนี้อัพต่ำแหน่งเร็วนะ

มีผลกับบางงาน

ผมสักหลังจากได้งานทำเเล้ว คือสักหลังเรียนจบ
เเต่อยู่ในร่มผ้า นี่ว่าจะไปต่อให้เต็มเเขน เพราะผมชอบใส่เเขนยาวทำงานอยู่เเล้ว

ผมว่ามีผล
1.ต้องดูลักษณะงานที่ทำ
2.ดูเวลตัวเอง มีการตลาดที่บริษัทเค้าก็จบสาธิต จบมหาลัยท้อป เค้าก็สักไว้ที่ข้อมือ เห็นได้ทั่วไป แต่อายุสี่สิบแล้ว ประสบการณ์เยอะ บริษัทอันดับ 1 ในธุรกิจก็ผ่านมาแล้ว มีฝีมือเป็นใบเบิกทางแล้วก็ไม่เป็นไร

ถ้าไม่ขนาด เก่ง ลายพราง ก็ได้อยู่นะ

ที่ทำงานเก่าผมเคยไปสัมภาษณ์เด็กใหม่กะหัวหน้าที่เป็๋นญี่ปุ่น
แกซีเรียสเรื่องรอยสักอยู่ เพราะวัฒธรรมเค้า
ที่ไทยเพื่อนผมมันทำงาน HR มันบอกว่าเรื่องสักนี่จะดูว่าสักอะไร
ถ้าสักแบบศิลปะอะไรนี่โอเค
แต่ถ้าลงยันต์ฟันแทงไม่เข้านี่ไม่เอา
คือไม่รู้ว่าเคยไปห้าวที่ไหนมาหรือป่าว
กลัวมีอริมาเอาคืนที่ทำงาน