คำถามสุดฮ็อตทุกยุคทุกสมัย โลจิสติกส์เงินดีไหม?
จนทำให้หลายคนลงทุนเรียนต่อโลจิสติกส์เพราะเค้าว่ากันว่าเงินดี ?
My Background
Spoil
ผมทำงานสายโลจิสติกส์มา 13ปี จบป.ตรีวิทยาศาสตร์พื้นๆ มาเรียนโทโลจิสติกส์ตอนทำงานมาแล้ว 7-8ปี
ปสก.
Retail 10ปี
-Modern trade retail (Cold chain & Dry grocery) 8ปี
-Hardware retail 2ปี
Food industrial 2ปี
Fashion 1ปี
โอเค ตอบคำถามก่อนเลยว่าเงินดีไหม ..... คำตอบคือ มีทั้งดีและไม่ดี ..... ปิดมู้
โอเคเอาใหม่ๆๆๆๆ
มาว่ากันที่ โลจิสติกส์คืออะไร ผมขอสรุปจาก ปสก. และที่ร่ำเรียนมาง่ายๆ
1. Transport
1.1 Transport Operation
1.2 Transport Planner and Optimization
2. Warehouse
2.1 Warehouse Operation
2.2 Inventory control
3. Demand Planning & Replenishment
4. Support and Business Development
4.1 Solution Design
4.2 Operation Improvement (Project Management)
5. ***Procurements & Purchasing (บางตำราให้อยู่ในสายโลจิสติกส์)
ที่นี่มาต่อกันที่หมวดประเภทธุรกิจ แยกตามความใส่ใจ
1. ธุรกิจที่ทำโลจิสติกส์เพียวๆเลย เช่น DHL , Linfox , Ceva , DB Shenker , JWD , Kerry เป็นต้น
2. ธุรกิจที่เอาโลจิสติกส์นำ เช่น Modern trade retail , Hardware & Furniture retail , Chemical & Dangerous goods , eCommerce , Automotive , Food service & Food chain , Quick service restaurant
3. ธุรกิจที่ไม่ค่อยสนในโลจิสติกส์(ในความคิดของผม) Fashions , Food Factory , Traditional trade , โรงงานผลิต tier2-3 , โรงงานที่เน้นส่งออก , โรงงานOEM , Textile สิ่งทอ
ทีนี้เมื่อเอา2หัวข้อมาต่อกัน ก็ต้องมาดูที่ตำแหน่ง
Staff & Officer ทั้ง3หมวดธุรกิจ ให้เงินเดือนที่ไม่ต่างกันมากตามค่าแรงขั้นต่ำ
Officerอันนี้อยู่ที่โชคชะตาเลย หมวด1,2บางทีจ่ายแค่ 15k , หมวด3อาจจะจ่าย 18k ก็ได้
Supervisor อันนี้ก็ไม่ต่างจาก Officer มีโอกาสออกได้3หน้า มากสุด 30k น้อยสุด18k
Section Manager อันนี้สิแปลก หมวด1จะกดอยู่ไม่เกิน40k ถ้าสตาร์ทโตมาจากsupervisorแล้วได้ internal promotion อันนี้โคตรน่าสงสาร ได้กัน 24-25kเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าเป็นคนนอกรับมาใหม่ก็ 35-40k
หมวด 2-3 จะให้มาตรฐาน 35-45k
จุดตัดของจริงคือ
Department Manager หมวด1,2 จ่ายกันกระจุยกระจาย 65-80k สบายๆ
แต่หมวด3 คือประเภทไม่สนใจโลจิสติกส์ ส่วนใหญ่คือจะไม่จ้างตำแหน่งนี้เลย หรือจ้างก็เอาแค่คนในโปรโมตมาจาก Section ก็ได้ไม่เกิน50k
จุดตัดโคตรๆ ที่ทุกคนเริ่มมองว่าโลจิสติกส์เงินดีของจริงคือ
Division Manager or ผู้จัดการฝ่าย or General Manager
หมวด1,2 รับกันเน้นๆ 90-200k แล้วแต่อายุ ปสก. การต่อรอง
หมวด3 ก็สูตรเดิม จ้างทำไมว่ะ ถึงจ้างก็ให้แค่ 60k
สุดท้ายคือพวก Director , AVP , VP แล้วแต่จะเรียก
หมวด1,2 ปล่อยลอยตัวเลยครับ 150-300k
หมวด3 ก็สูตรเดิมจ้างทำไมว่ะ บริษัทอั๊วเน้นฝ่ายขาย ฝ่ายผลิต ลื้อจะเข้ามาทำโลจิต่งโลจิสติกอะไร....ปั๊ดโธ่!!
อ่านไปอ่านมา ตำแหน่งพวกนี้ ฝ่ายอื่นแผนกอื่นก็ได้เท่านี้นิ ไม่เห็นว่าจะเงินดีเลย HR Division Managerก็รับ100k , ผู้จัดการฝ่ายQC ก็ได้90k
ถูกต้องครับ เงินเดือนบริษัทมาตรฐานสูงๆ รายได้สูงๆ ยิ่งพวกTop100ในตลาดหุ้น ยิ่งมั่นคสวยงาม แล้วโลจิสติกส์มันมีอะไรเหนือกว่านี้ ?
คำตอบคือ ความเร็วในการไต่ครับ
คุณเคยเจอ ผจก.ฝ่ายบัญชีอายุ29ไหม? , คุณเคยเจอGM ฝายขายอายุ 32ปีไหม? , คุณเคยเจอผู้จัดการโรงงานผลิตอายุ33ปีไหมครับ ?
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในวงการโลจิสติกส์ทั้งสิ้น เอาแบบมาตรฐานสูงหน่อย คือ คน และ องค์กร ก้าวไปด้วยกัน เก่งพอๆกัน และองค์กรเห็นความสำคัญ
เรียนจบใหม่ๆ เป็น officer2-4ปี ขึ้น Supervisor >>ย้ายงานหรือขึ้นที่เดิมก็ได้
จาก Supervisor ขึ้น Section ภายใน2ปี >>ย้ายงานหรือขึ้นที่เดิมก็ได้
Section ขึ้น Department ภายใน2ปี >>ย้ายงานโอกาสดีกว่า อยู่ที่เดิมขึ้นยากหน่อย
Department ขึ้น Division,GM ภายใน 1-2ปี >>ย้ายงานหรือขึ้นที่เดิมก็ได้
เบ็ดเสร็จ 9-10ปี ตีว่าเริ่มทำงานอายุ22 ก็ขึ้นเป็น BU Head ได้ตอน 31-33ปี
กลับมาที่หมวดธุรกิจ หมวด3 คือไม่เห็นความสำคัญของโลจิสติกส์
ผมมีเคสที่เจอกับตัวจะเล่าให้ฟัง ในสปอยล์
Spoil
ผมเคยทำบริษัทแฟชั่น-สิ่งทอ เจ้านึง ชื่อเสียงก็พอใช้ได้ในวงการ
ผมได้รับการติดต่อจากที่ปรึกษาท่านนึงว่าบริษัทนี้ ต้อการหาคน เป็นช่วงที่ผมอยากขยับจากผจก.แผนกคลัง ไปเป็นผจก.โลจิสติกส์(ดูทั้งคลังและขนส่ง)พอดี
ตอนแรกคุยๆก็ตื่นเต้นดี คือเค้ามีคลังห้องแถว แล้วกำลังจะย้ายไป facilityใหม่ ที่ลงทุนสูงมากเพื่อเตรียมเข้าตลาด และขยายการส่งออก
เข้าไปปุ๊ป อั๊ยหย่า!!!!!! มี รักษาการผู้จัดการคนนึง น่าจะจบม.3 โตขึ้นมาจากพนักงานรายวัน(อายุ40) แล้วก็มีรักษาการผู้จัดการคลังวัตถุกิบอีกคนที่น่าะจบป.6 โตมาจากแม่บ้าน(อายุ 55)
คนที่รับผมเข้ามาก็เป็นรักษาการผู้จัดการฝ่าย ที่ตำแหน่งจริงๆเป็นผู้จัดการไอที
ผมเข้ามานั่งซ้อนกับสองเจ๊นั้น แล้วก็บรรลัยสิครับ เละทุกวัน เละทุกชั่วโมง แล้วที่สำคัญคือเจ้านายด่าผมต่อหน้าสองเจ๊ตลอด เพราะจ้างมาแพง 555
ฟางเส้นสุดท้ายคือวันแม่ ผมไม่ได้อยากจะไหว้แม่หรอก แต่ก่อนวันแม่ 2วัน ผมคุยกับทุกฝ่ายแล้วว่าจะเปิดโอทีไหม จะเบิกของไหม สต็อกพอไหม มีลูกค้าเจ้าไหนเปิดPO.ไหม ..... สรุปว่าไม่มี
ผมก็พักผ่อนตามปกติ ที่เลวที่สุดคือ อีสองเจ๊มันไปฟ้องนายว่าไม่มีคนทำงาน ลูกค้าสาขาไม่มีของขายแล้ววันนี้ขายดีมาก พรุ่งนี้(วันที่13)ต้องไม่มีของขายที่หน้าร้านแน่ๆ
ทุ่มครึ่ง ไอ้ลูกพี่ผม ซึ่งงเป็นรักษาการผู้จัดการ โทรมาด่าผมว่าไม่แพลนงาน ตอนนี้ท่านประธาน(เถ้าแก่เนี้ย)ไปเปิดคลังหยิบของเองแล้ว
โอเค .... ผมบึ่งรถออกจากร้านอาหารที่กำลังเอร็ดอร่อยกับแฟนและเพื่อนๆ ไปที่คลัง ภาพที่เห็นคือ ท่านประธานบริ
ษํทหรือCEOหรือเถ้าแก่เนี้ย นั่งเก้าอี้พลาสติก ล้อมวงไปด้วยลูกน้องผมทั้งทีมเกือบ20คน ในชุดนอน
กับอีสองเจ๊รักษาการตลอดชีพกำลังถวายบังคมกล่าวทูลข้อมูลเพื่อเลื่อยขาผม
ผมอธิบายแล้วว่าเตรียมงานยังไง อีสองเจ๊เองก็ agreed กับผม แล้วเกิดอะไรขึ้น .... โอเค ชั่งแม่ม แล้วไหนออร์เดอร์ไหนสาขาจะเอาอะไร คีย์เข้ามายัง ..... สรุปคือไม่มี?
ท่านประธานก็เลยจิ้มจาก excelเลยว่าสาขาไหนจะเอาอะไร ทำตัวเป็น replenishment officer เลย จิ้มแบบไม่ดู dataด้วย ไม่รู้ยอดขายไมรู้สต็อก
โอเค ผมให้น้องอัพโหลดเข้า handheld กระจายจบตอนตี2 โหลดขึ้นรถตี5 จบ.
แล้วก็หางานใหม่ ออกจากนรกสายแฟชั่น-สิ่งทอ กลับมาอยู่กับพวกมืออาชีพ มาทำกับบริษัท Retail ยักษ์ใหญ่ดีกว่า ที่ที่เค้ามองว่าโลจิสติกส์คือหัวใจคือเส้นเลือด ไม่ใช่ประธานบริษัทมานั่งฟังคนฟ้องๆๆๆมั่วซั่วแบบนั้น