“นิวคาสเซิ่ล” ยักษ์รอตื่นที่รวยที่สุดในโลก
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ในช่วงอารมณ์เหงาๆพักเบรกทีมชาติถูกปลุกด้วยข่าวใหญ่เมื่อ “สาลิกา” นิวคาสเซิ่ล กลายเป็นทีมที่รวยที่สุดในโลกไปเรียบร้อยหลังถูกกลุ่มทุนซาอุดิอาระเบีย เทคโอเวอร์ ด้วยวงเงิน 305 ล้านปอนด์
“เฮียตือ” ไมค์ แอชลีย์ ซึ่งตอนนี้เป็นอดีตเจ้าของได้ยุติ 14 ปีที่ถือครองสโมสรหลังเข้ามาซื้อกิจการต่อจาก เฟร็ดดี้ เชฟเฟิร์ด เมื่อปี 2007 ด้วยเงินจำนวน 135 ล้านปอนด์
ด้วยความที่แกเน้นแต่เรื่องธุรกิจจึงไม่สนใจความสำเร็จ ปล่อยให้ “ทูน อาร์มี่” เชียร์บอลตามยถากรรมดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่แฟนบอลพร้อมใจกันออกมาร้องรำทำเพลงหน้าสนามเหมือนฉลองแชมป์
แอชแท็ค #cans พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน Twitter โดยคำๆนี้หมายถึงกระป๋องเบียร์ที่ชาวเมืองนิยมใช้เมื่อมีการฉลองยินดีกับทุกๆข่าวของสโมสร
การเทคโอเวอร์ครั้งนี้ไม่ใช่การเทคธรรมดาเพราะกลุ่มทุนซาอุฯหรือ Saudi Arabia Public Investment (PIF) ร่ำรวยมาหาศาลมีสินทรัพย์ใช้กี่ชาติก็ไม่หมดถึง 3.2 แสนล้านปอนด์
เรียกว่า Qatar Investment Authority ของ เปแอสเช ว่ารวยโคตรๆแล้วยังอยู่ที่ 2.2 แสนล้านปอนด์
และหากมาเทียบกับสโมสรที่รวยที่สุดในอังกฤษก่อนหน้านี้คือ แมนฯซิตี้ ของท่าน ชีค มารซูร์ ที่มีทั้งสิ้น 2.33 หมื่นล้านปอนด์ก็ตบไฟเลี้ยวแอบเข้าซ้ายแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว
พูดง่ายๆให้เห็นภาพคือตอนนี้ “สาลิกา” ร่ำรวยกว่า “เรือใบ” ถึง 10 เท่า!!
การถือครองหุ้นแบ่งเป็นสัดส่วนดังนี้ PIF ใหญ่สุดอยู่ที่ 80% ส่วน อแมนด้า สเตฟลี่ย์ สาวใหญ่นักธุรกิจวัย 46 ปีชาวผู้ดี และ 2 พี่น้อง รูเบน นักลงทุนอหังสาริมทรัย์ แบ่งกันไปคนละ 10%
เป็นการยุติดีลที่น่าจะลงเอยตั้งแต่ซัมเมอร์ปี 2020 แต่ข้อพิพาทในกรณีกลุ่มทุนละเมิดลิขสิทธิ์ Bein Sports และเรื่องการเทืองที่โยงกันจนวุ่นวาย
การเปลี่ยนมือครั้งนี้ทำให้ปัจจุบันพรีเมียร์ลีกเหลือเจ้าของที่เป็นชาว อังกฤษ แค่ 6 สโมสรคือ สเปอร์ส, เวสต์แฮม, นอริช, คริสตัล พาเลซ, ไบรจ์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด
เรื่องของธุรกิจการเทคโอเวอร์ทีมงานข่าว SS รายงานค่อนข้างละเอียดไปแล้วแต่ที่น่าสนใจคือเรื่องราวในสนามนับจากนี้มากกว่าครับ
อย่างแรกเลย “ฟิลลิ่ง” แรกของพวกเราๆท่านๆที่เป็นแฟน แมนฯยูฯ, แมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี เรื่อยไปจนถึง อาร์เซนอล และ สเปอร์ส อาจไม่ค่อยเอ็นจอยเท่าไหร่
จีบหญิงคนเดียวกันเมื่อมีคู่แข่งหน้าตาดีเข้ามาเพิ่มใครบ้างจะไม่รู้สึกท้อ คาดว่าอนาตอันใกล้การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ก็จะยิ่งลำบากยากเย็นกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย (จากที่ยากฉิบหายอยู่แล้ว)
ถ้า “สาลิกา” ก้าวขึ้นมาอยู่ชั้นแนวหน้าได้เป็นเนื้อเป็นหนังคงหนีไม่พ้นถือกำเนิด top 7 การตบตีทั้งแชมป์ในประเทศและมูลค่านักเตะในตลาดเดือดเลือดพล่านแน่นอน
เพราะตามข่าวกลุ่มทุน ซาอุฯ สามารถถลุงเงินเสริมทัพโป้งเดียวเฉียดๆ 200 ล้านปอนด์ได้โดยไม่ต้องกลัวกฏการเงินหรือ FFP
กฏของ FFP คือ “ลิมิต” ให้แต่ละสโมสร “ขาดทุน” ตลอด 3 ปีอยู่ที่ 105 ล้านปอนด์
แต่เพราะความขี้เหนียวของ “เฮียตือ” แกทำกำไรในช่วง 3 ปีหลังสุดให้ นิวคาสเซิ่ล ไป 38 ล้านปอนด์
บวกกับเงินจำนวน 50 ล้านปอนด์ที่สโมสรจ่ายไปในส่วนของการลงทุน อคาเดมี่, โครงสร้างพื้นฐาน และ แผนงานเกี่ยวกับคอมมูนิตี้ ทั้งหมดนี้เป็น “ข้อยกเว้น” ของ FFP
เมื่อเอามารวมกับกำไรเท่ากับ 88 ล้านปอนด์ 105+88 = 193 ล้านปอนด์
นี่คือเม็ดเงินที่เจ้าของใหม่สามารถอัดเน้นๆในตลาดเดียวได้ทันที!!
อาจมองได้ว่านี่เป็นความดีความชอบสุดท้ายที่ “ตือ” ได้ทำไว้ให้ “ทูนอาร์มี่” ก่อนไปก็ไม่ผิดนัก
แน่นอนครับเมื่อสโมสรมีเงินมีทองหน้าตาหล่อเหลาใส่สูทขนาดนี้ คนที่อยู่ไม่ได้และรอวันว่าจะไปเมื่อไหร่ก็คือ สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมที่แฟนบอลอยากให้ไสหัวไปมากที่สุดหลังอยู่ในตำแหน่งมา 2 ปีแล้ว
ด้วยความประหยัดเน้นจ้างถูกสโมสรจึงได้ผู้จัดการทีมฝีมือดาดๆจนพา “สาลิกา” ร่วงไปอยู่รองบ๊วยด้วยผลงาน 7 นัดไม่ชนะใครและเสมอ 3 แพ้อีก 4
กว่าตลาดจะเปิดอีกราวๆ 2 เดือนเกือบ 3 เดือน นิวคาสเซิ่ล ต้องทำทุกอย่างเพื่อเก็บขัยชนะให้มากที่สุดกับโปรแกรม 13 นัดข้างหน้าเพื่อพาตัวเองหลุดโซนสีแดงออกมาก่อน
เอาตัวเองให้อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้และค่อยมารื้อโครงสร้างทีมและปรับอะไรอีกยกใหญ่ซึ่งผมเชื่อว่าอาจต้องใช้เวลา 3-4 ปีกว่าจะเข้าที่เข้าทาง
ตามข่าวสื่อผู้ดีทั้ง สกายและเทเลกราฟ เล่นประเด็นว่ากลุ่มทุนซาอุฯ มองถึงการคว้าแชมป์ยุโรปและต้องการสร้างอคาเดมี่ให้อยู่ในระดับไม่แพ้ “เรือใบ”
มีเงินมีวิสัยทันศน์หยิบจับอะไรก็ไม่มีปัญหาหรอกครับแต่ผมยังมองว่าการสร้างทีมใหม่ทั้งดุ้นแบบนี้สิ่งแรกที่ต้องเสริมก่อนคือ “บารมี” ถ้ามีแล้วการกรุยทางเพื่อโปรเจคที่ใหญ่ขึ้นกว่าจะง่ายมาก
ดังนั้นโค้ชต้อง A+ เพื่อทำให้การตัดสินใจของนักเตะที่ใหญ่เกิน “สาลิกา” (ณ ตอนนี้) ง่ายขึ้น
ยุคสมัย มิดเดิลสโบรห์ ของ เบน กิ๊บสัน (ระยะทางห่างจาก เซนต์ เจมส์ พาร์ค 1 ชั่วโมง) เคยยอมรับเองว่าถ้าไม่ล่อใจนักเตะด้วยเงินหรือโค้ชที่พอมีชื่อเสียงก็ยากมากที่จะโน้มน้าวนักเตะเก่งๆให้ย้ายมาที่ย่านนี้
ผมคิดว่าการตัดสินใจเทคโอเวอร์ครั้งนี้เป็นการลงทุนที่ลงท้ายแล้วจะคุ้มค่าเอามากๆและสิ่งที่จะได้กลับมานอกจากเป้าหมายสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศซาอุฯคือ “แรงสนับสนุน” ที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ของแฟนบอลที่อาจหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
นิวคาสเซิ่ล มีทุกอย่างพร้อมสำหรับการผลักทีมให้ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับบรรดาพี่เบิ้มเมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบหลักๆคือชาว “จอร์ดี้” ที่คลั่งไคล้ฟุตบอลกันทั้งเมือง ทุกลมหายใจเข้าออกคือฟุตบอล
อย่างที่เราคุ้นเคยกันดีกับหนังเรื่อง GOAL ที่ความภูมิใจของชาว จอร์ดี้ คือเมืองอื่นๆมีสโมสรให้เลือกเชียร์มากมายแต่ที่ นิวคาสเซิ่ล “เรามีทีมเดียว”
Passion การเชียร์บอลของคนเมืองนี้ผมยกให้ไม่แพ้ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ เสียงเชียร์ที่ดังมีส่วนสำคัญต่อการเล่นในสนามเหย้า แฟนบอล “อิน” กับทุกๆผลแพ้ชนะจนเราเองก็คาดไม่ถึง
ถ้าเราสังเกตกันให้ดีๆทีมชานเมืองแถบตอนบนแฟนบอลส่วนใหญ่เป็นพวกท้องถิ่น การแสดงออกการร้องรำทำเพลงจึงไม่มีใครเคอะเขินเท่ากับเมืองใหญ่อย่าง ลอนดอน หรือ แมนเชสเตอร์ ที่เต็มไปด้วยแฟนบอลชาว เอเชีย หรือคนที่มีตังค์วางตัวค่อนข้างสำรวม
ผมจำได้สมัยยุค 90 แฟน “สาลิกา” คนนึงโกรธสุดๆถึงขนาดให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังเห็น ชาก้า ฮิสลอป อดีตผู้รักษาประตู แหงนหน้ามองลูกบอลที่ถูกคู่แข่งหลุดมากระดกข้ามหัว
จังหวะนี้ ฮิสลอป ทำอะไรไม่ได้จริงๆครับ บอลมันโด่งยังไงก็เข้าแต่ “ทูนอาร์มี่” ต้องการให้แกแสดงออกอะไรก็ได้มากกว่ายืนนิ่งๆแหงนหน้าดูบอลข้ามหัว
เมื่อแฟนบอลให้ใจถวายหัว support โดยไม่มีข้อแม้ พวกเขาเองก็ต้องการเห็นภาพสะท้อนกลับไปยังนักเตะทั้ง 11 คนในสนามด้วยเช่นกัน
แชมป์ลีกครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1927 หรือ 94 ปีที่แล้ว, แชมป์ เอฟเอ คัพ หนสุดท้าย 1955 หรือ 66 ปีที่แล้ว นี่คือระยะเวลาที่สโมสรไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์เมเจอร์อะไรอีกเลย
ทนทุกข์ทรมานกับ “เฮียตือ” มา 14 ปี เป็นการรอคอยที่ยาวนานเกินไป มันไม่ควรเกิดขึ้นกับยักษ์หลับทีมนี้และกับแฟนบอลที่จงรักภักดีที่สุดทีมหนึ่งในเกาะ อังกฤษ เหล่านี้
แม้ทุกอย่างต้องใช้เวลาแต่ผมเชื่อว่า “ทูนอาร์มี่” มีเหตุผลมากพอที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อรอวันที่จะได้ติดแฮชแทค #cans อีกครั้งครับ...
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Fri Oct 08, 2021 02:54, ทั้งหมด 3 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ