ในทาง ทฤษฎี LAN ไม่มีโอกาศเลยที่เสียงจะแตกต่าง

มาว่ากันเรื่องซาวการ์ด หรือ HDMI ยังมีความเป็นไปได้มากกว่า ที่จะทำให้เสียงแตกต่าง

010101 มันไม่ใช่ตัวเลขสมมุตินะครับ มันเป็นหลักการของการส่งข้อมูลในระดับ Physical Layer แล้ว OSI Model ก็เป็น Standard ที่ยอมรับกันทั่วโลก ซึ่งถ้าไอ้ 010101 มันผิดเพี้ยนไป ไม่เหมือนตัวต้นฉบับ ข้อมูลที่ส่งก็ผิด ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณภาพเสียงเลย

OSI stands for Open Systems Interconnection. It has been developed by ISO – ‘International Organization of Standardization'

1. Physical Layer (Layer 1) :
The lowest layer of the OSI reference model is the physical layer. It is responsible for the actual physical connection between the devices. The physical layer contains information in the form of bits. It is responsible for transmitting individual bits from one node to the next. When receiving data, this layer will get the signal received and convert it into 0s and 1s and send them to the Data Link layer, which will put the frame back together.

ตั้งมู้ใหม่อธิบายเฉพาะข้อสามเลยครับ เปิดกะลาผมหน่อย

+1 ครับ
ช่วยตั้งมู้ระเบิดกะลาผมออกที

ขอสอบถามหน่อยได้ไหมครับว่าตัว checksum มันต้องอยู่ฝั่งรับข้อมูลถูกไหมครับ

แล้วถ้าเป็นแบบนั้นแปลว่าก็ถูกส่งมาผ่านสาย Lan เป็น digital เหมือนกันใช่ไหมครับ

Checksum ทำใน Layer 2 ของ OSI Model หน้าที่หลักของชั้น Data Link layer คือ ทำการรวบรวมข้อมูลจาก Physical layer (คือ Layer 1 พวกสาย LAN นี่แหละครับ) และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล โดยปกติผู้ส่งข้อมูลจะแบ่งข้อมูลที่มีความยาวมากออกเป็นกลุ่มข้อมูลย่อยๆแต่ละส่วนย่อยเรียกว่า ดาต้าเฟรม (data frame) ชุดของดาต้าเฟรมสำหรับข้อมูลที่ต้องการส่งไปให้ผู้รับก็จะถูกส่งไปทีละเฟรมตั้งแต่เฟรมแรกไปจนครบทุกเฟรม ไปถึงผู้ส่งเพื่อเป็นการบอกให้ทราบว่าได้รับข้อมูลครบแล้ว กระบวนการรับ-ส่งข้อมูลนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์

ส่วน Security Checksum เพื่อตรวจสอบไฟล์ในกรณีต้องการความถูกต้องขั้นสูง ก็มีวิธีเข้ารหัสไฟล์ (hash) 2แบบ คือ sha และ md จะได้ไฟล์มาไว้ตรวจสอบระหว่างผู้รับและผู้ส่งอีกที ในกรณีที่ต้องการความถูกต้องของข้อมูลมากๆนะครับ

อันนี้ฟังอันนี้ฟังLossless ถ้า Lossless btไม่ได้
wirelesss นี่ต้องของsony ถึงจะเล่นได้

Opticalของเครื่องเสียง เป็นเทคโนโลยีเก่า ตั้งแต่สมัย stereo 2ch แล้วก็ใช้ต่อเนื่องมาถึงยุคโฮมเทียเตอร์ DTS จะรองรับได้เฉพาะเสียงเพลง stereo จนถึงเสียง Dolby Digital 5.1, DTS 5.1
ฺBW ไม่ได้มากอย่างที่คิดครับ เพราะมันติดที่เทคโนโลยีของเครื่องเสียงด้วย

ส่วน hdmi จะรองรับเสียง 7.1 ch ,HD audio 24 bit 96 kHz พวก DTS-HD Master Audio หรือ Dolby TrueHD หรือ DTS:X ไปนู้นเลย
ถ้าจะเอาครบๆผมว่า HDMI (eARC) + soundbar น่าจะจบครับ