สรุปเรื่อง 7-Eleven ชนะคดีก็อปปี้สูตร "ขนมบานาน่า" เล่าตามเนื้อคดีแบบไม่เข้าข้างใครนะ.. #ประธานเหมียว

วันนี้ข่าวเรื่องศาลตัดสินให้ 7-Eleven ชนะคดีเป็นกระแสดังมากเลย ยิ่งสื่อมาพาดหัวแบบไม่ลงรายละเอียด ทำเอาหลายคนเข้าใจผิด

เพราะงั้นก่อนที่เราจะง้างมือพิมพ์ด่า เราอยากมาสรุปแบบแมวๆ ขอเวลาทุกคนอ่านสักเล็กน้อย ถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้กันเนอะ..

[ย้อนเรื่องราวไปถึง "บทความไวรัล" เมื่อ 6 ปีก่อน]

- ในปี 2558 มีบทความหนึ่งถูกโพสต์บนโลกออนไลน์ โดยบอกว่า 7-Eleven ก็อปปี้สูตรขนมบานาน่าของรายเล็กเจ้าหนึ่ง ที่เสนอขายสินค้าเค้าเข้ามาในร้านสะดวกซื้อ

- บทความนั้นบอกว่า 7-Eleven เห็นว่าจะขายดี ก็เลยก็อปปี้สูตรแล้วทำขายเองในแบรนด์เลอแปงซะเลย

- บทความนั้นบอกอีกว่าผู้ประกอบการรายย่อย ที่พยายามทำสูตรขนมให้อร่อยที่สุด รู้สึกแย่ที่จู่ๆ โดนบริษัทใหญ่ลอกไปซะงั้น เป็นการรังแกกัน

- เนื้อหานั้นก็เลยกลายเป็นกระแสไวรัลไปในทันที คนแชร์ต่อออกไปเพียบ สร้างเสียงวิจารณ์ต่างๆ ตามมา

- 7-Eleven เลยโต้กลับ บอกว่าไม่ได้มีการลอกสูตร เพราะฝั่งตัวเองก็พัฒนาผลิตภัณฑ์นั้นขึ้นมาด้วยเช่นกันแล้ว

- หลังจากนั้น 7-Eleven ฟ้องคนเขียนบทความ ซึ่งชื่อว่า "นาย ช."

[การต่อสู้ในชั้นศาลรอบแรก]

- พอเรื่องไปถึงชั้นศาล ปรากฏว่า 7-Eleven แสดงหลักฐานต่อศาลว่าไม่ได้ก็อปสูตร (และพัฒนาของตัวเองมาก่อนหน้านั้น)

- นาย ช. ยอมรับต่อศาล ว่าฟังเรื่องมาจากผู้หญิงชื่อ พ. แล้วก็เลยเอามาเขียนบทความ โดยไม่ได้เจอกับตัวเอง

- คดีจบลงในช่วงต้นปี 2560 ด้วยการ "ประนีประนอม" ด้วยการที่นาย ช. จะลงเนื้อหาคดีนี้บนเว็บไซต์ พร้อมเอกสารประนีประนอม ภายใน 7 วัน

- ทาง 7-Eleven ก็ถอนฟ้อง และจบด้วยการไม่เรียกค่าเสียหาย

[ความจริงของคดีรอบล่าสุด]

- ภายหลัง นาย ช. ไม่ได้ทำตามที่บอกเอาไว้ต่อหน้าศาล ทางบริษัท 7-Eleven เลยเข้าแจ้งความอีกครั้ง

- ล่าสุด คดียืดเยื้อมาถึงปลายเดือนสิงหาคม 2564 ที่กลายเป็นข่าวดังในรอบล่าสุด

- ศาลตัดสินว่า นาย ช. ผิดที่ไม่ได้ทำตามสัญญาเรื่องการลงเนื้อหาแก้ต่างให้บริษัทบนเว็บไซต์ จึงต้องทำการลงเนื้อหาภายใน 30 วัน และชดใช้เงินอีก 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี

- เพราะฉะนั้น คำว่า "ชนะคดี" ที่สื่อเอามาเล่นเป็นประเด็น และกำลังแชร์กันในช่วงนี้ ก็คือการชนะคดีที่ให้นาย ช. ลงเนื้อหาชี้แจงลงบนเว็บไซต์เท่านั้นเอง

[อ่าว.. แล้วเรื่องคดีก็อปปี้สูตรขนมล่ะ?]

เราไม่มีข้อมูลว่ามีการฟ้องร้องกันว่า 7-Eleven ก็อปปี้สูตรขนมหรือไม่? จึงไม่มีการตัดสินอะไรจากศาลออกมาอย่างเป็นทางการนั่นเอง

ในจุดนี้ก็เลยเป็นวิจารณญาณของแต่ละคนแล้วแหละ ว่าจะคิดยังไงกับประเด็นนี้..

https://www.facebook.com/pratanmeow/photos/a.231090858864691/231088475531596/

เอาจริงๆขนมนี้มันดังมาจากต่างประเทศนิ
เเล้ว คนในประเทศเราเห็นเลย ไปก๊อปเอามาทำ
ดัดเเปลง สูตรเป็นของตัวเอง เเล้วก็ขายดี 7เลย
ชวนมาขายใน 7 พอทำซักพัก 7ก็งัดของตัวเองมาขาย
ตามธรรมเนียม เลยเป้นเรื่องกัน

ผมว่าคงฟ้องไม่ได้หรอก เพราะไม่ใช่innovation ขนาดนั้น
ถ้าอย่างงั้น อย่างซอสพริก ศรีราชาฟ้องกันตาย

สรุปมันคือ ขนมชนิดนึง ที่ฮิตเเล้วก็มีทำกันเเค่เจ้าหลาย
เเบรนมากขึ้นเเค่นั้น เเต่เจ้าของอาจจะหวังไว้เยอะ
ลงทุนไว้เยอะ เจอเเบบนี้อาจจะเซ็ง

เจ้าของสูตรเขาไม่ได้ฟ้องหนิ

สูตรอาหารมันไม่มีลิขสิทธิ์อยู่แล้วนี่ ฟ้องไปก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว

7-Eleven ชนะคดี ถูกเขียนบทความกล่าวหาก๊อปปี้สูตร "ขนมบานาน่า"


กับ


7-Eleven ชนะคดีก็อปปี้สูตร "ขนมบานาน่า"



นี่คนล่ะเรื่องกันเลยนะ

ผมนี่อยากรู้ว่าทำไมคนเขียนบทความถึงไม่ทำตามอ่ะครับ

อ่อนกฎหมายไรงี้เปล่า

แบบคือเกลียดเซเว่นเป็นทุนเดิมอยู่ละ

พอเห็นว่าเค้าถอนฟ้องให้ ก็เลยหัวหมอ ปล่อยไหลเลย คิดว่าไงก็รอดงี้เปล่า

คงเพราะ

คดีแรกที่โดนฟ้องเป็นคดีอาญาและได้มีการถอนคำร้องทุกข์ไปแล้ว

ส่วนฟ้องรอบหลังเป็นมูลคดีแพ่งผิดสัญญาประนอมฯ เลยอาจจะไม่ได้ซีเรียสเท่าตอนแรก

คือพร้อมจ่ายหรอครับ เห็นว่าไม่มีโทษจำคุกก็พอใจละ

แลกกับการได้ด่าเซเว่นไงก็คุ้มงี้หรอ

นึกถึงสาหร่ายเถ้าแก่น้อย

สักพักคนทำตามเพียบบบบ

ชาไข่มุก กาแฟ ฯลฯ


และนี่ก็คนละเรื่องกับประเด็นเนื้อข่าวเลย

ทำไมคนสมัยนี้หลงประเด็นกันเยอะ ข่าวบางข่าวนี้ตัวดีเลย เขียนเปลี่ยนมุม เรียกยอด จรรยาบรรณไปไหน

อันนี้ผมว่าทนายความซีพีไม่ค่อยละเอียดเท่าไรเลย เรื่องนี้แบรนด์เป็นแบรนด์ดังเสียหายหนักมาจากการโพสเรื่องนี้แต่ในสัญญาประนีประนอมที่ศาลตัดสินคดีหลังกลับให้ชดใช้ดงินแค่ 80,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย

คือถึงตอนแรกจะไม่อยากได้เงินอยู่แล้วแต่ที่ต้องการคือให้ออกมาแก้ต่างเรื่องที่โพสแต่ก็ต้องเขียนดักไว้เป็นจำนวนเยอะ ๆ เพื่อให้เขายอมทำตามสัญญาหรือเปล่า

แรกเริ่มคงไม่ใช่การด่าเอาสะใจหรอกครับ คงคิดว่าเป็นการเขียนบทความ

แล้วไม่น่าถูกดำเนินคดีมากกว่า แค่ปรากฏว่าโดนไง

สุดท้ายเราไม่สามารถรู้เจตนาจริงๆของเค้าได้หรอกครับว่าคิดอะไรอยู่


แต่ในคดีอื่นๆ ย้ำว่าคดีแพ่ง อื่นๆที่อยู่ในสารบบ

เช่นพวกคดีบัตรเครดิต ฯลฯ

"มีคนพร้อมผ่อน" กับ "คนพร้อมไม่จ่าย" เยอะมากกว่าคนจ่ายเต็มครับ

ไม่หรอก เขาก็คงไม่อยากจัดหนักแหละ เสียภาพพจน์เขาหมด เอาแค่ให้รู้ว่าองค์กรเราไม่ผิดนะแค่นั้น
ส่วนค่าปรับคุ้น ๆ ว่า กฎหมายมีความเหมาะสมของมันอยู่ว่าปรับเท่าไร CP ถึงจะถูกกล่าวหาว่า copy แต่ในความเป็นจริงมันไม่มีผลกระทบกับแบรนด์เขาเลย คือปรับแค่ให้นาย ช สะอึกนิด ๆ พอ

ถ้าฟ้องสมมุติว่า 5 ล้าน ต้องสืบอีกว่าจะปรับห้าล้านทาง cp เสียหายถึงขั้นนั้นหรือเปล่า

เอาจริงๆ เซเว่นทุกคดี จริงๆมันแค่ผิดมารยาท แต่ถ้าจะเล่นด้วนกฎหมายไทย คุณเล่นเขาไม่ได้หรอก เอาจริงๆไม่มีอะไรที่เซเว่นทำแล้วผิดกฎหมายเลย แค่มันทุเรศ

ใช่ครับทางซีพีไม่อยากเอาอะไรมากขอแค่ให้อีกฝั่งออกมาโพสแก้เพราะจะกู้ภาพลักษณ์ แต่ในสัญญาประนีประนอมผมก็ยังมองว่าทนายความไม่ละเอียดอยู่ดีเพราะยังไงเจตนาก็อยากให้เรื่องจบถ้าออกมาโพสแก้แบบนี้ก็เขียนกำหนดขู่ค่าเสียหายในกรณีที่ไม่ทำไป เยอะ ๆ เลยสิอีกฝั่งจะได้ทำตามสัญญา เพราะยังไงถ้ามันเวอร์ไปตอนขึ้นศาลเดี๋ยวศาลก็กำหนดให้เหมาะสมได้อยู่ดี หรือจะเอาแบบพ่อพระมากก็ยังไปกำหนดให้ตัวเลขน้อย ๆ แบบ 1 บาท หรือเป็นตัวเลขที่มีนัยตัวอื่นก็ได้


แต่ถ้าเป็นอีกกรณีที่ผมคิดผิดคือเขียนกำหนดไว้แล้วเยอะ ๆ ตอนแรกในสัญญาประนีประนอมแต่ศาลตัดสินออกมาให้ได้แค่นี้ผมก็ว่าทนายความยิ่งแปลกที่นำสืบความเสียหายได้แค่นี้ คือผมมมองว่าบริษัทระดับท็อป ๆ ขนาดนี้ทีมงานกฎหมายมันต้องเป็นพวกตัวท็อป ๆ มีลูกล่อลูกชนที่มากกว่านี้ครับซึ่งในคดีนี้ผมไม่ได้รู้สึกว่าอย่างงั้น