ผมคิดว่าไม่จริงนะ แต่ถามว่าดีมั้ย มันดีนะ ดีกว่าเป็นหมาแบบทุกวันนี้แน่ๆ
หรือเห็บหมาก็ไม่รู้นะ

ทีนี้ ตอบคำถามต่อทางวิชาการว่า ทำไมเราถึงตกขบวนละ? หนึ่งในงานวิจัยที่ดีที่สุด ที่ผมพบคืองานที่ชื่อ





พูดง่าย ๆ คือ ในประเทศที่ ๑. มีทรัพยากรเยอะ ๒. ไม่ได้มีความรู้สึกถูกคุกคามเยอะ ๓. เงินใช้จ่ายจะเอาไปแบ่งสรรปันส่วนกับผู้มาแสวงหาผลประโยชน์และกองทัพได้ จึงทำให้ไม่เกิดการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจที่สามารถแข่งขันได้สูงได้

ไม่เคยและไม่ใกล้ครับ เราเป็นได้แค่ประเทศรับจ้างผลิต ไม่เคยมีนวัตกรรมที่ขายได้ระดับโลก เป็นเรื่องที่ปั่นกันไปเองครับ พอฟองสบู่แตกก็จบครับ

ตอนนี้เปงหมาขี้เรื่อน แง

ปี 37-38 นี่แหละเรียน ม.สังคม มีเขียนในหนังสือเลย

ไม่จริงครับ เป็นวาทกรรมที่ผู้ใหญ่สมัยนั้นอวยกันเอง

เศรษกิจดูเหมือนดี แต่เป็นแบบกลวงเท่านั้นๆ

คนรวยจากการกู้เงินตปท.มาฝากกินดอก + ลงทุนอสังหาในไทย

ไม่ได้มีนวัตกรรม หรือสินค้าเป็นของตัวเองเหมือนประเทศอื่น

โซรอสกับพวกเห็นช่อง เลยมาโจมตีไง

ถ้าเศรษฐกิจแกร่งจริง ไม่โดนยับนั้นหรอก

เกือบ แต่ gdp โตเร็วจริง

เคยเป็นครับ ยุคก่อนฟองสบู่ GDPโต10%+

ซึ่งถ้าโตเรื่อยๆ และก้าวผ่านกับดักประเทศชนชั้นกลาง - Middle income trap

ไทยก็จะเป็นประเทศโลกที่1 รายได้สูง

ซึ่งก็ไปไม่ถึง เพราะฟองสบู่แตก และสุดท้าย ก็ไม่มีนวัตกรรมอะไรเลย
ทำได้แค่รับจ้างผลิต

เคยจะได้เป็นครับ โดยจับได้ว่าเป็นแมวซะก่อน ยุตชาติชาย มาพังที่จิ๋ว

Shot นี้ทักษิณก็รู้ข่าวก่อน แกไม่โดนหนี้เป็น ดอล เหมือนคนอื่น เปลี่ยนหนี้เป้นบาท เปลี่ยนหุ้นเป็นดอล แทบจะรวยขึ้น 4 เท่าเลยมั้ง

ตอนทักษิณ ทุกคนกลัวมากครับ เพราะทำทุกอย่างมันถูกมันควร สิงคโปร โคตรกังวล ก็เกือบจะได้เป็นอีกรอบ สุดท้ายกลายเป็นกีฬาสี ทหารออกมา ฉุดประเทศถอยหลังลงคลอง เอวังฯ

ฝันกลางวันครับ ตื่นตอนฟองสบู่แตกใส่หน้า
ประเทศรับจ้างผลิต จีดีพีโตปีละเกือบ 10% ได้มั้ง สาธารณูปโภคพื้นฐานประเทศล้าหลัง การศึกษาล้าหลัง ไม่ใส่ใจในทรัพยากรมนุษย์ คอรัปชั่นครอบคลุมทุกพื้นที่

แต่นึกถึงตอนฟองสบู่มันก็ช่วงฝันหวานจริงๆ กู้เงินซื้อที่ดินเก็งกำไรขายต่อ เงินหมุนเวียนสะพัด เด็กจบใหม่โดนจองตัวทำงานทันที ซื้อรถซื้อคอนโดทุกคน ทำงานสักพักก็เล่นรถยุโรปกันละ แต่เหมือนฟ้าถล่มเพื่อนตอนเรียนจากทางบ้านฐานะดีๆกลายเป็นยาจกในพริบตา ปรับตัวแทบไม่ทัน

ช่วงปี 39-41 คนจบยุคนั้นถ้าบ้านยังพอมีกำลังทรัพย์หรือเป็นราชการก็จะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกกัน เป็นรุ่นที่คนไปจบนอกแบบก้าวกระโดด ใครบ้านไม่มีเงินก็ต้องไปทำงานต่างประเทศหลายคนก็ไปตั้งตัวสิงคโปร์ช่วงนั้น

ที่เขาพูดกัน ไม่ใช่"เป็น" แต่"ตั้งเป้าจะเป็น" ไม่ใช่หรอ

มันเป็น end goal ของไทยในยุคนั้น

มีโอกาสเป็นมากกว่า
กำลังเขาพยายามจะเป็นกัน
แล้วทุกอย่างมันมาดีมากอ่ะ
แต่หลายๆประเทศก็เคยมีเคสแบบนี้
ถ้ายืนระยะได้ก็อาจจะ

แววดีเฉยๆ

ถ้าตอนทักษิณคิดว่าเสือตัวที่เท่าไหร่

กับประยุทธ์นี่เสือตัวที่เท่าไหร่คับถ้าเทียบ 1ดีสุด 100แย่สุด

พอ ฟองสบู่แตก คนที่ไม่ทำเฮียไร ลอยตัว ก็ดัน เศรฐกิจพอเพียง มาเลยช่วงนั้น
เราก็จมปลักติดหล่มตั้งแต่นั้นมา
มาคิดย้อนหลัง ตอนนั้น ยังเด็กมากๆ ถ้าคนที่เคยใช้เงินภาษี
ช่วยชาติโดยใช้เงินตัวเอง ชัก10 ปี เราก็คงไม่เจ็บหนัก แต่ พวกมันก้ยังเอาเงินภาษีไปใช้
แถม ตัดลดงบพวก ไพร่ ด้วยคำว่าพอเพียง
ไพร่ อย่างผมคนหนึ่งก้โตมากับคำนี้ ซาบซึ้งน้ำหูน้ำตาไหล จนเรียนมหาลัยนู่นเลย ถึงสว่าง