หนึ่งเดียวในอาเซียน! “บีจีพียู” ถึงเวลาเจอของจริงรอบน็อคเอาท์ ACL
ปิดจ๊อบรอบแบ่งกลุ่ม ACL 2021 โซนตะวันออก จาก 4 สโมสรตัวแทนของไทย เหลือรอดเพียงหนึ่งเดียวคือ “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ (16 ทีมสุดท้าย) ได้สำเร็จ
ก่อน ACL 2021 รอบแบ่งกลุ่ม จะเริ่มฟาดแข้ง แฟนบอลต่างมีความหวังกับการเห็นสโมสรจากไทยผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ ในรายการนี้ เนื่องจากได้โควต้ามากถึง 4 ทีม แถมมีปัจจัยเอื้ออำนวย
ไม่ว่าจะเป็น ความคุ้นเคยสภาพอากาศ และความคุ้นชินสนามแข่งขัน เพราะทั้ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี และ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ต่างได้ลงเล่นในประเทศไทยทั้งหมด ยกเว้นเพียง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ต้องเดินทางไปเล่นที่ อุซเบกิสถาน
โดยเฉพาะ “เดอะ แรบบิท” ที่ได้เล่นในรังเหย้าตัวเอง (ลีโอ สเตเดียม) แถมคู่แข่งยังเป็นสโมสรจากอาเซียนถึง 2 ทีมด้วยกันอย่าง เวียตเทล (แชมป์ลีกเวียดนาม) และ คายา เอฟซี (รองแชมป์ลีกฟิลิปปินส์) มีเพียง อุลซาน ฮุนได แชมป์เก่ารายการนี้ ที่มาจากเกาหลีใต้
ซึ่ง “เดอะ แรบบิท” ก็แสดงให้เห็นว่า มาตรฐานไทยลีก ยังเป็นเบอร์หนึ่งในอาเซียน เมื่อเก็บชัยชนะเหนือ เวียตเทล และ คายา เอฟซี ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 12 คะแนนเต็ม ด้วยสถิติโดยรวมที่เหนือกว่าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เปอร์เซ็นต์การครองบอล, ความแม่นยำในการผ่านบอล, โอกาสยิง รวมถึงประตูที่ทำได้
หากนับเฉพาะ 4 เกมดังกล่าว บีจีพียู ถล่ม 2 คู่แข่งอาเซียนไปถึง 10 ประตู และเสียไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น ทั้งๆ ที่ เวียตเทล มีนักเตะดีกรีทีมชาติเวียดนามอยู่ในทีมมากถึง 5 คน ขณะที่ คายา ก็มีนักเตะทีมชาติฟิลิปปินส์ รวมถึงแข้งต่างชาติฝีเท้าดีหลายคน
อย่างไรก็ตาม ในระดับเอเชีย บีจีพียู ยังไม่สามารถก้าวผ่าน เมื่อแพ้ให้กับ อุลซาน ฮุนได ด้วยสกอร์ 0-2 ทั้งสองนัด ทำให้ “เดอะ แรบบิท” จบอันดับ 2 ของกลุ่ม แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 3 จาก 5 กลุ่ม
ขณะที่ การท่าเรือ และ ราชบุรี ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งกับการเข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรก แม้ว่า “สิงห์เจ้าท่า” น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ถ้าไม่เพลี่ยงพล้ำให้กับ คิตฉี เอสซี จากฮ่องกง ส่วน เชียงราย ก็ทำได้ตามมาตรฐานกับประสบการณ์ที่ได้เข้ามาเล่นถ้วยสโมสรเอเชียเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
ย้อนกลับมาที่ บีจีพียู นับเป็นสโมสรที่ 4 จากไทยที่ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ (นับตั้งแต่มีรอบแบ่งกลุ่ม) ต่อจาก บีอีซี เทโรศาสน ที่ทะลุถึงชิงก่อนได้รองแชมป์ ปี 2002-03, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าถึงรอบ 8 ทีม ปี 2013 และรอบ 16 ทีม ปี 2018 รวมถึง เมืองทอง ยูไนเต็ด เข้าถึงรอบ 16 ทีม ปี 2017
สำหรับรอบน็อคเอาท์ปีนี้ บีจีพียู คือหนึ่งเดียวจากอาเซียน ที่หลุดเข้ามาได้ เพราะอีก 7 ทีมที่เหลือมาจาก เกาหลีใต้ 4 ทีม และ ญี่ปุ่น 3 ทีม โดยคู่แข่งของ “เดอะ แรบบิท” ในรอบน็อคเอาท์ ก็คือ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส เจ้าของแชมป์เคลีก 8 สมัย ที่เคยคว้าถ้วยเอเชียมาแล้ว 2 ครั้ง ในปี 2006 และ 2016
แม้จะเป็นด่านหินสุดๆ แต่ บีจีพียู ยังมีเวลาเตรียมตัวอีกร่วม 2 เดือนเต็ม ซึ่ง ออเรลิโอ วิดมาร์ คงต้องทำการบ้านอย่างหนักกับขุมกำลังที่มีอยู่
เมื่อถึงวันนั้น เรามาร่วมส่งกำลังใจให้ “เดอะ แรบบิท” ในฐานะตัวแทนจากไทยและหนึ่งเดียวในอาเซียนไปพร้อมๆ กัน และลุ้นว่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะสามารถก้าวผ่านทีมระดับเอเชียได้หรือไม่?
แก้ไขล่าสุดโดย Narueta เมื่อ Mon Jul 12, 2021 14:43, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ