khunnongtik พิมพ์ว่า:
เสือร้องไห้ พิมพ์ว่า:
khunnongtik พิมพ์ว่า:
the Smirnoff พิมพ์ว่า:
ไต๋ลึ้ง พิมพ์ว่า:
ข้อเท็จจริงคือ ร้านค้าไม่ได้โดนสั่งปิด แต่ห้ามนั่งกินที่ร้านไม่ใช่เหรอครับ
ก็นี่แหละคือข้ออ้างในการไม่ให้เงินชดเชยไงครับ
ถ้าสั่งปิดหมดนั่นอ่ะต้องจ่ายชดเชย
มันเลบให้เปิดแบบdelivery,ซึ่งบางร้านทำไม่ได้
เช่นร้านชาบู เนื้อกระทะ
คุณเห็นโปรแบบนี้ คุณก้คิดว่ามันทำได้แหละครับ แต่คุณรู้มั้ยครับว่าความเป็นจริงมันเป็นยังไง?
1. คุณเปิดร้านแบบ delivery คุณจ่ายต้นทุนที่เกือบน้อยลงนิดหน่อย แต่ยอดขายคุณหายไปยังไงก้เกิน 50% แน่นอน (นี่คือให้ delivery พอขายได้เลยนะ)
2. ทำโปรขนาดนี้ ดึงดูดลูกค้าน่ะใช่ แต่ต้นทุนอาหารเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ละ? ไหนจะการที่เราต้องเลี้ยงพนักงานให้มีงานทำต่อไป เอาออกได้มากสุดก้คือเด็กเสิร์ฟเกือบทั้งหมด แล้วก้ต้องคิดเผื่ออีกว่าถ้าอยู่ดีๆ กลับมาเปิดได้จะทำยังไง สุดท้ายก้ต้องเก็บเด็กเสิร์ฟไว้นิดหน่อย รวมๆ ค่าจ้างพนักงานก้ลดลงจึ๋งนึง ไปเพิ่มต้นทุนค่าอาหารแทน
3. หลายๆ คนคือปิดร้านไปเลย จ่ายแค่ค่าเช่าฟรีๆ ยังเจ็บตัวน้อยกว่าเปิดทำ delivery ที่ต้นทุนบานแลกกับยอดขาย 20-30% บางที่ขายไม่ได้เลย พนักงานมานั่งว่างๆ กินเงินรอเวลากลับ
ทำโปรโมชั่นขายของอ่ะมันง่ายครับ แต่คนกินจะลดลงไปเท่าไหร่ มันคุ้มกับต้นทุนที่ยังต้องจ่ายหรือไม่
ผมประสบการณ์ตรงครับ อย่าคิดว่าทำไมไม่ยอมปรับตัวกับสถานการณ์ เพราะคนที่คิดแบบนี้คือคิดตื้นไป และทำธุรกิจร้านอาหารไม่เป็นครับ
เจ้าใหญ่ ๆ เค้าทำกัน สงสัยทำเพราะมีทุน กับแบกร้านไปเรื่อย ๆ ก่อน เจ้าเล็กตังค์ไม่มี ก็เลยน่าจะทำไม่ได้
สถานการณ์แบบนี้ ถ้าไม่ไหว หรือว่า ปิดไปก่อนเลย แล้วสถานการณ์ดีค่อยเปิดใหม่ ?
การปิดไปเลย แล้วค่อยเปิดใหม่ สิ่งที่ยากคือ ท่านจะหาพนักงานมาจากไหนในการทำให้ขายได้ทันที
1. ใช้คนเดิม ท่านต้องเลี้ยงเค้าจนกว่าร้านจะเปิด จ่ายน้อยลง บางคนก้อยู่ บางคนก้ไม่อยู่ จ่ายเท่าเดิมคือร้านเจ็บเต็มๆ
2. ใช้คนใหม่ ต้องสอนงานใหม่ เสิร์ฟไม่ยากมาก แต่ในครัวคือเรื่องใหญ่เลย ไหนจะพ่อครัวใหญ่ หลายๆ ร้านต้องเลี้ยงไว้กลัวเสียเค้าไป เจ็บหนักครับพูดเลย
ที่ผมเคยทำมาคือ ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เปิด delivery เลี้ยงพนักงานทุกคน รอฟลุค คาดหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาดีเอง ตังหมดก้ปิดถาวร พนักงานก้แยกย้ายไปครับ