แฟนให้สอนภาษาให้ แต่ลองให้ Evaluate ตัวเองจาก 0 เต็ม 10 แฟนบอกว่าอยู่ที่ 1 คะแนน แต่เป้าหมายคือภายใน 1 ปีจะต้องสอนให้เป็นให้ได้

เลยพยายามคิดหลักสูตรอยู่หลายทางแต่ยากจัง

เราควรจะให้เขารู้ไวยากรณ์พื้นฐาน การเรียงประโยค S+V บลาๆๆ Tense ต่างๆอะไรพวกนี้ก่อนดี หรือควรให้ท่องศัพท์ไปเรื่อยๆก่อนดี ในนี้ใครมีประสบการณ์สอนภาษากลุ่มเริ่มต้นมีคำแนะนำยังไงบ้างครับ

คือส่วนตัวเราพูดได้ เข้าใจรากศัพท์พอสมควร แต่พอไปสอนคนที่ไม่เป็นมันทำให้รู้สึกว่ายากจังแล้วไม่ใช่นักสอนมืออาชีพอีก ลองให้เริ่มด้วยทำความเข้าใจการใช้ Is Am Are / Have Has ก่อนก็งงเพราะไม่รู้ศัพท์ พอเปลี่ยนมาลองให้ท่องศัพท์ก่อนก็ไม่รู้ว่าจะเอาแต่ละคำไปใช้สถานการณ์ไหน พูดตอนไหนยังไง

คราวนี้เผื่อใครมีคำแนะนำดีๆผมจะลองไปปรับเรียงลำดับการสอนดูว่าควรให้เขาเข้าใจอะไรก่อนดี เพราะจะข้ามไปสอนพูดเลยก็ยากเพราะเบสิคไม่มีเลย

ซื้อหนังสือมาสอนมั้ยครับ อธิบายเสริมจากหนังสือก็ได้ ผมก็แนะนำหนังสือเพื่อนไปนะเกี่ยวกับแกรมม่า

พาไปเรียนเถอะ โดยส่วนตัวรู้สึกว่าแฟนกันยิ่งสอนยิ่งทะเลาะ ถ้าสอนขับรถนะ-*-

เริ่มแรกอยู่กับภาษาอังกฤษเยอะๆครับใช้ภาษาไทยน้อยลง เริ่มด้วยการปรับเมนูมือถือเป็นภาษอังกฤษซะ

ถ้าไม่เริ่มด้วยการชอบหรือคลุกคลีกับมันผมว่าพัฒนายากกก

สอนให้อ่านแล้ววิเคราะห์ประโยคบ่อยๆครับ

ประธาน กริยา กรรม พวกนี้นับว่าเป็นพื้นฐาน
ยังไงก็หนีไม่พ้น อาจใช้เวลาค่อนข้างนาน
แต่ถ้าอ่านเป็น วิเคราะห์ได้ เดี๋ยวการพูดจะตามมาเอง

เรื่องของคำศัพท์การท่องก็เป็นสิ่งดีครับ แต่ถ้าจะให้ดี
มากกว่านั้นต้องอ่านครับ อ่านพวก article ง่ายๆ เรื่องราว
ที่เขาสนใจ แล้วศัพท์มันจะติดหัวได้นานกว่า

พอกับแฟนผมเลยครับ อังกฤษ เต็ม 10 ได้ประมาณ 1

ให้แฟนฝึกท่องศัพท์​+ประโยคง่ายๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ห้ามพูดภาษาไทย แรกๆอาจจะกำหนดเป็นช่วงเวลาก็ได้ว่าเวลานี้ห้ามพูดภาษาไทยนะ
พอแฟนเริ่มคล่องก็ค่อยๆเพิ่มชั่วโมงไปเรื่อยๆ

ป.ล.แฟนผมใช้วิธีนี้กับผม

สอนแค่พื้นฐาน ที่เหลือไปเรียนสักคอร์สครับ

เริ่มจาก คุยกันเป็นภาษาอังกฤษเลยคับ

เริ่มจากการสอนพูดประโยค ในชีวิตประจำวันก่อนครับ แบบง่ายๆ ก่อน พอให้พูดได้บ้างก่อนครับ
พอพูดได้พอเข้าบ้าง ค่อยเริ่มเรื่องของ แกรมม่า

ส่วนตัวผมใช้วิธีนี้กับตัวผมเอง ครับ เหมือนเราๆ อะครับก่อนเราจะเขียนอ่านภาษาไทยได้ เรา ก็พูดได้แล้ว

ผมเริ่มจากดูหนัง soundtrack ฟังเพลงสากล จำประโยคต่างๆ ก่อนแล้วค่อย มาดูแกรมม่าทีหลัง แล้วมันจะถึงบาง อ้อ ง่ายกว่านะ

ปล. ผมก็โง่ภาษาอังกฤษมาก มัธยมนี่บอกเลยลอกอย่างเดียว จบมาแบบไม่มีความรู้อะไรเลย

ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ห้ามพูดไทย ในช่วงอยู่กัน2คนก็ได้ ฝึกให้นึกคำ งูๆปลาๆไปก่อนก็ยังดี

ลองให้ดูวีดีโอแบบนี้ก่อนก็ได้นะ ผมว่าเข้าใจง่ายดี


ลิงค์แบบ playlist

ดูหนังsoundtrackเยอะๆครับ
ให้ดีหาเรื่องที่ชอบ เอาให้ดูจนจำบทได้เลย
คล่องเเน่นอน

แนะนำจากมุมมองตัวเองนะครับ จากคนพูดแทบไม่ได้ ทุกวันนี้ก็พอคุยกะฝรั่งรู้เรื่อง เพราะทำงานที่ต้องคุยกับฝรั่งเยอะหน่อย

ถ้าเน้นสื่อสาร อย่าไปเริ่มต้นที่ไวยกรณ์ครับ และไม่ต้องให้นั่งท่องศัพท์ครับ เพราะจริงๆ แล้วถ้าแฟนท่านจบ ป.ตรี มาแล้ว หรือเรียนภาษาอังกฤษจากโรงเรียนมาแล้ว ในหัวคนไทยจะมีคำศัพท์เยอะอยู่แล้วครับ เพียงแต่นำออกมาใช้ไม่เป็นเพราะตื่นเต้น และคำที่ฝังหัวนั้น สอนออกเสียงมาผิดๆ

ให้เริ่มต้นที่การฟัง ฟังฝรั่งเยอะๆ ในยูทูปก็ได้มีเยอะมากๆ ฟังการออกเสียงที่ถูกต้องว่าคำนั้นๆ ฝรั่งเค้าออกเสียงยังไง ปัญหาของคนไทยคือ ฟังไม่เข้าใจ เพราะครูบ้านเราสอนให้ออกเสียงผิดๆ มาตลอด ยกตัวอย่างง่ายๆ Worm บ้านเราจะสอนว่า วอร์ม แต่ฝรั่งจะออกเสียงว่า เวิร์ม ทีนี้พอฝรั่งพูดว่า เวิร์ม เราก็งงละ ทั้งที่เรารู้จักคำๆ นั้นแน่นอน Leopard ครูบ้านเราสอน ลีโอพาร์ด ฝรั่งออกเสียง เลพเพิร์ด เราก็จะไม่เข้าใจ ทั้งที่เรารู้จักคำๆ นั้น

เพราะงั้นการฝึกฟังและฝึกออกเสียงให้ถูกต้องสำคัญมาก พอเราเริ่มคุ้นกับการออกเสียงที่ถูกต้อง เราก็จะเริ่มฟังเข้าใจ พอเราเริ่มฟังเข้าใจ เราจะเริ่มหายตื่นเต้น ส่วนการพูดตอบ ไม่ต้องประโยคสวยหรูหรือสำเนียงเทพ ออกเท่าที่เราทำได้ก็พอ หรือจะสำเนียงไทยก็ไม่เป็นไร ผมมีเพื่อนฝรั่ง ผมเคยถามเค้าว่าคิดยังไงกับการที่คนไทยออกเสียงภาษาอังกฤษแบบสำเนียงไทย เค้าบอกว่าไม่เป็นไรเลย เป็นเรื่องปกติ เหมือนฝรั่งพูดไทยแบบสำเนียงฝรั่ง เราก็ไม่ถือสาเช่นกัน ก็เป็นแบบเดียวกัน

พอเค้าพูดได้แล้ว ค่อยมาเน้นเรื่องไวยกรณ์ จะทำให้ทุกอย่างราบรื่นกว่าครับ แต่ถ้าท่านเริ่มที่ไวยกรณ์ก่อนเลย มันจะน่าเบื่อ และไม่อยากเรียน

ที่สำคัญ เวลาอยู่ด้วยกัน พยายามชวนคุยเป็นภาษาอังกฤษบ้าง แรกๆ ไม่ต้องถึงกับคุยฝรั่งอย่างเดียวหรอกครับ แต่ตั้งกติกาขึ้นมา เช่น 19.00 - 20.00 ของทุกวัน เราจะไม่คุยไทยกันนะ พอเริ่มชินก็ค่อยๆ ปรับเวลาเรื่อยๆ ครับ ที่สำคัญที่สุด เวลาเค้าพูดไม่ได้ พูดผิด ห้ามทำให้รู้สึกอายหรืออึดอัด แต่ให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาครับ เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเอง อะไรแบบนี้

ผม edit เพิ่มไปนะครับ ลองอ่านส่วนเพิ่มอีกนิดนะครับ เผื่อเอาไปใช้ได้