[RE: รถไฟฟ้า toyota มาแล้ว]
MizU2 พิมพ์ว่า:
zearol พิมพ์ว่า:
nontarat พิมพ์ว่า:
Mr. Le Chiffre พิมพ์ว่า:
ดาร์เรน เฟรชเชอร์ พิมพ์ว่า:
ไม่มีใครคิดทำรถไฟฟ้าแบบ ไม่ต้องล้ำมากไหมครับ แบบเอาพวก แจ็ส วีออส มาทำเป็นระบบไฟฟ้าแล้วกดราคาถูกๆ ถล่มตลาดไปเลย ไรงี้
นั่นสิ น่ามีคนทำนะ เอาแบบบ้านๆเลย เอาพวกล้ำๆที่ไม่จำเป็นออกเพื่อลดต้นทุน
แล้วก็มาเน้นที่สมรรถนะ การใช้งานให้ทนๆ อะไรงี้
ความยากมันอยู่ที่แบตครับ จะหาแบตจากไหนมาใช้ วางตรงไหน ให้ระบายความร้อนได้ ถ่วงไว้ตรงไหน
ราคาที่มันแพงทุกวันนี้ก็เพราะแบตนี้แหละ ไอพวกระบบขับเคลื่อน EV มันซับซ้อนน้อยกว่ารถ ICE อีก
ลองไอดูพวกมอไซด์ไฟฟ้าถูกๆก็ได้ครับ ระบบง่ายมากๆ วางแบตธรรมดา ก็ได้แค่ 50-60 กิโลเมตรเอง
ยังไม่นับ lifetime ที่สั้นอีกนะ แต่ไอพวกรถยนต์ EV แบตคนละระบบ คนละเรื่องเลย ดูง่ายๆแค่ไฮบริด แบตก็ล่อไปเท่าไรแล้ว
ให้ข้อมูลเสริมว่า ราคาแบตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี state of health ของแบต ใช้เป็นแสนๆกิโลครับ ถึงเสื่อมครับ ถ้าเสื่อมก็แค่เปลี่ยนบาง module ซึ่งราคาของแต่ละ module ในอนาคตก็คงเหลือไม่เท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งชุด
ส่วนตัวมองว่าที่เขาจะไม่ทำรถไฟฟ้าราคาต่ำๆ เพราะมันจะมาถล่มรถน้ำมัน ถล่มผลิตภัณฑ์หลักของตัวเอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของเกือบทุกค่ายตอนนี้ ค่ายรถจะปรับตัวไม่ทันครับ เนื่องจากค่าบำรุงรักษาต่ำมากถ้าเป็นรถ EV
เนื้อหาส่วนบนคือสิ่งที่กำลังจะเป็น/เริ่มจะเป็นครับ
ส่วนเนื้อหาท่อนล่างคืออดีตถึงปัจจุบัน
ท่านจะเอาสองส่วนมาผสมกันแล้วสรุปเอาเองแบบทฤษฎีสมคบคิดไม่ได้นะ
เนื้อหาที่ท่านพิมพ์ก็บอกเหตุและผลครบอยู่แล้ว
ในอดีตเพราะแบตมันแพง เขาเลยไม่ทำรถไฟฟ้าในระดับbudget carเต็มตัว คงไว้สำหรับรถระดับ premium
แต่ตอนนี้แบตมันกำลังถูกลงเรื่อยๆ ทำให้ในรอบปีสองปีที่ผ่านมา หลายๆค่ายก็เริ่มเดินหน้ารถไฟฟ้าในทุก segment ไงครับ
ไม่ใช่เรื่องทฤษฎีสมคบคิดอะไรนั่นเลย เรื่องของ cost & profits ล้วนๆ
ขอเสริมครับ ผมเคยอยู่โตมาก่อน ยอมรับว่าแบตเริ่มถูกจริง ไฮบริดเหลือเซลล์ละ 2-3 หมื่น เสียเปลี่ยนเป็นเซลล์ๆไป lifetime เองก็ยาวขึ้น แต่มันไม่ใช่แค่ cost และรถของตัวเองครับ ครับที่หลายๆค่ายยังไม่เริ่มทำเต็มตัวทั้งฝั่งยุโรปและจีน นอกจากจีน
คือ การ management แบตที่เสื่อมครับ ลองสังเกตุดีๆ ทุกค่ายเคยทำไฮบริดมาก่อน และรู้ดีว่า แบตที่มัน rebuild ไม่ได้แล้ว มันมีต้นทุนในการทำลายที่สูงและทุกวันนี้เทคโนโลยีในการจำกัดก็ยังไม่ดีพอครับ ยังไม่รวมรถลูกค้าที่แบตเสื่อม ดีลเลอร์ หรือผู้ผลิตก็ต้องเป็นผู้รับผืดชอบในการจัดเก็บรอทำลายอีก
โตโยต้าทุกวันนี้มีแบตไฮบริดที่ rebuild ไม่ได้ก็เยอะมากจากพรีอุส จนต้องเอาไปทำแบตโซลาเซลล์ ทำเมืองสีเขียว แจกชาวเขา
แต่ที่แน่ๆ ภาครัฐของไทยเองก็ต้องเตรียมการในการจัดการขยะแบตเตอรี่เช่นกัน แต่ทุกวันนี้เรายังไม่เห็นเลย อนาคตยังไง EV ก็มาแน่ๆ และภาครัฐไทยก็ต้องเตรียมพร้อมการนี้
ปล.ผมจะติด wall charge ที่บ้าน ผมเจอวางบิลเกือบแสน ค่าทำระบบไฟบ้านใหม่ ทั้งมิเตอร์ไฟ สายเมน ขนาดผมใช้ 15A/30 มันไม่พอครับ ต้อง 3 เฟส หรือ 15A/100 มาตราการช่วยเหลือประชาชนให้มาใช้ ev ก็ไม่มี จ่ายเองหมด ผมเลยเบรกไว้ก่อน สำหรับรถ EV