รีวิวเกม "The Slormancer" [Early Access]
The Slormancer เป็นเกม ‘Early Access’ ที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จเหนือเกม Rogue-like รุ่นพี่ทั้งหลายทั้งปวง ด้วยการปรับแต่งทักษะที่ดูเรียบง่ายแต่ได้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย ผสมผสานกับเนื้อหาของเกมที่สอดแทรกไปด้วยความตลกขบขัน
…
The Slormancere เป็นเกมที่ผมรู้จักจากการไถเมาส์ผ่านๆ เกมที่ up coming ใน Steam… สิ่งแรกที่รู้จักเกมนี้ก็คือ มันเป็นแนว Rogue-like ที่มีกราฟิกแบบ Sprite (ชอบส่วนตัว) ก็เลยลอง wishlist รอเวลามันออก แล้วก็จัดมาลองซะหน่อย
ด้วยความที่เป็น Early Access ขณะที่รีวิว ตัวเกมสามารถเลือกฮีโร่ได้ทั้งหมด 3 ตัว โดยจะมีการเลเวลตันที่ 40 ละหลายๆ Skills ที่ยังไม่ปลดล็อค ซึ่งการเปิดเกมเป็นอะไรที่เท่มากกกกก
โดยฮีโร่ประจำเมือง จะขอร้องให้เรา (ฮีโร่ทั้ง 3) ไปช่วยทำเควสต์ฆ่าศัตรูในสุสาน ทั้งสามก็ได้แนะนำตัวเองเท่ๆ ให้รีฟันด์ไม่ลงแล้วว่า
“นายพูดว่า ‘สู้’ หรออ เอิ่มม งั้น.. คงเป็นไปไม่ได้ ชั้นมีเกราะที่แข็งแกร่ง แต่มันไม่เพียงพอที่จะทดแทน การโจมตีที่เบาหวิวและการไม่เข้าใจเกี่ยวกับธาต์เวทย์มนต์เลย ชั้นคงจะไม่มีประโยชน์แน่ๆ” จากอัศวินผู้ยิ่งใหญ่
“ไม่ ไม่ใช่ชั้น ชั้นมาก็เพราะมีคนบอกว่ามันมีแจกครัวซองก์ฟรี.. ชั้นมีพลังป้องกันและเลือดที่น้อยนิดจนน่าขำ ใช่ ชั้นมีความรวดเร็วในการโจมตีแต่การโจมตีของชั้นมันเหมือนไม่มีอยู่จริง… ชั้นไม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมนะ” จากนักล่าที่ดุร้าย
และ
“ปู่ของชั้นบังคับให้มานี่… เพราะฉะนั้น ทำเหมือนชั้นไม่มีตัวตนก็ได้… ใช่ ชั้นร่ายเวทย์มนต์ได้อันสองอัน มันมีพลังทำลายล้าง แต่มันก็อันตรายสำหรับตัวชั้นเองและคนอื่นเหมือนกัน… ชั้นคือบุคคลอันตรายในที่สาธารณะ!” จากนักเวทย์ที่ร้ายกาจ
ซึ่งขณะที่เราเลือกตัวละครไหนนั้น อีตัวละครที่เหลือ มันก็จะชี้ตัวละครที่เราเลือก เหมือนสมัยเรียนที่เวลาอาจารย์ถามว่าใครตอบได้ เพื่อนๆ ก็เตี้ยมกันชี้ไปที่คนที่ซวยคนนึง
ทั้งหมดที่ว่ามานี่คือหนึ่งตัวอย่างของ Sense of humor ภายในเกม ที่เราพบได้ระหว่างการเล่นในตัว Early Access นี้ ซึ่งมันทำให้เราคาดหวังมากกกกกกก ว่าในเกมเต็มมันจะต้องมีอะไรที่ทำให้เรายิ้มได้เพิ่มแน่ๆ

…
สิ่งหนึ่งที่เกมนี้ทำให้ผมค่อนข้างสนใจเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะเป็น Early Access ก็คือ ระบบ Skill
แต่ละตัวละคร จะมี Specialize สามอัน เช่น นักล่า(ครัวซองค์)ที่ดุร้าย ก็สามารถเลือก วางป้อมปืน (หน้าทอร์ปยอร์นลอยมา), เคลื่อนที่หลบแล้วบัฟตัวเองสั้นๆ, และ ปาระเบิดควัน ซึ่ง Specialize ทั้งสาม จะสามารถเปลี่ยนได้ระหว่างการเล่น
นอกจากระบบ Specialize ก็จะมีการใช้ท่า (คลิ้กซ้ายขวา) ที่จะค่อยๆ ปลดล็อคเพิ่มขึ้นเมื่อเลเวลอัพ ท่าที่ว่านี้ จะเลเวลอัพได้อีกต่อเมื่อเราใช้มันบ่อยๆ ซึ่งเป็นระบบที่ผมชอบละคิดว่ามันเมคเซนส์มาก เมื่อเราใช้บ่อยๆ มันก็จะทำให้เราเห็นผลลัพธ์ว่ามันดีขึ้นยังไง
นอกจากนี้ เรายังมี Character attribution ให้ใส่อีก 8 ช่องเราสามรถเป็น อัศวินที่โจมตีเวทย์มนต์แรงได้ ถามว่าจะทำไปทำไม ก็เพราะในทักษะย่อยๆ ของการใช้ท่าปกติ หรือสกิล หรือ มันสามารถที่จะมีการโจมตีเวทย์มนต์ได้นั่นเองงง (เพราะฉะนั้น เราจะไม่เจอปัญหาแบบ Diablo 3 ในตอนต้น ที่ทุกคนเก่งเหมือนกัน แค่ใครเข้า Auction มากกว่ารวยกกว่าเก่งกว่า… ก็กูอยากเป็นเนโครถือเคียวฟาดทีพ่อตาย บลิซจะเสือกบังคับทำไม)
นอกจากทั้งหมดที่ว่านั่นแล้ว เราก็ยังมีระบบ Ancestral Legacy ที่ได้จากการทำเควสต์ในเมือง แล้วเราจะได้ลูกแก้วมาอัพผังสกิลแบบใยแมงมุม (คงคุ้นกันดี นึกถึงเกม Path of Exiles) ซึ่งตรงนี้จะสร้างความหลากหลายได้กว่าเดิมเยอะมากกกกกกกก
นอกจากนี้อีกที การใช้ท่า (คลิกซ้ายขวา) เนี่ย นอกจากการเลเวลอัพสกิลโดยใช้งานบ่อยๆ แล้ว สกิลพวกนี้จะถูกจัดเรียงไว้ในแถว ซึ่งแต่ละแถวจะเลือกได้สกิลเดียว ทำให้เราต้องเรียงสกิลแต่ละแถวดีๆ
เช่น แถว 1 มี A ยิงแล้วเพิ่มมานา | B ยิงแล้วกระสุนเด้ง (กินมานา) | C ยิงแล้วกระสุนแหวกแยกร่าง (กินมานา)
ส่วน แถว 2 มี A ยิงแล้วศัตรูติด Trap (กินมานา) | B ยิงแล้วกระสุนทะลุ (กินมานา) C | ยิงแล้วกระสุนที่แหวกแยกร่างแยกร่างอีกที (กินมานามากกก)
ถ้าเราเลือก C แล้ว C เนี่ย แน่นอน มานาโดนแดกหมดเกลี้ยง แล้วเราก็จะต้องรอมานาเด้ง กว่าจะยิงได้อีกก็ไม่น่าจะถูกต้อง ก็ต้องอาจปรับเป็น A+B แทน … พอหลังๆ เรามีเกราะ มีอะไรเพิ่มมานาเร็วขึ้น ก็อาจเปลี่ยนเป็น CC ได้
แต่ทั้งหมดทั้งปวง ผมว่ามันเจ๋งมากตรงที่เราปรับเปลี่ยนสกิลไปมาได้อย่างอิสระ ตลอดการเล่น เพราะการเลเวลอัพแต่ละสกิลมันใช้ของจากการฆ่าศตรูไม่มากขนาด Grinding แบบไร้เหตุผล
ส่วนอาวุธของเกมนั้น จะถูกเรียกว่า Slorm Reapers ซึ่งทุกอาวุธจะมีความ Unique ของมัน ไม่มีความแรร์ของอาวุธแบบสีขาว ฟ้า เขียว แต่อาวุธมันจะมีเอกลักษณ์ที่หลากหลาย เพิ่มคริ ดูดเลือด อะไรก็ว่าไป ซึ่งงงง การจะเลเวลอัพอาวุธ ก็แน่นอน ใช้ไปซ้ำๆ มันก็จะเลเวลอัพอาวุธนั้นๆ ส่วนอาวุธใหม่ที่จะเก็บได้ ก็จะเกิดแบบสุ่มในดัน (หรืออาจจะมีทำเควสต์ในอนาคต)
ซึ่งนั่นละผมว่าคือข้อดีของเกม ที่คุณใช้อะไรบ่อยๆ ก็จะเก่งอันนั้นเพิ่มขึ้น แต่ถ้าจะเปลี่ยน มันก็ไม่ยากนะ เรามี resource ให้เปลี่ยนง่ายๆ จากการเล่นนั่นละ ให้ได้ทดลอง

…
สรุป The Slormancer เป็นเกมที่ มีอารมณ์ขัน+สกิลที่หลากหลาย+สกิลที่ระบบใช้งานเมคเซนส์+สกิลที่หลากหลาย+ระบบอาวุธที่น่าสนใจ+สกิลที่หลากหลาย+กราฟิกแบบ Sprite+สกิลที่หลากหลาย
ข้อเสียในเกมในตอนที่ผมเล่นก็คือ การบังคับด้วยจอย ยังให้ความรู้สึกอึดอัดตอนเลือกเมนู และไม่สามารถใช้ศักยภาพของสกิลตัวละครเท่าใช้เม้าจิ้มวาง (มันเป็นแบบ auto นิดๆ เราวางเป๊ะๆ ไม่ได้) ละก็เกมไม่ให้ capture screenshot! เป็นบ้าอัลไลล เลยต้องไปแคปจาก nvidia experience ยุ่งยากไปอีก
สุดท้ายย เกมนี้เป็นเกมที่น่าจับตามองมากกกกกก ว่ามันจะเป็นยังไง ส่วนตัวผมิดว่ามันเป็นเกมที่โคตร Promising แม้ว่าจะมี Development plan ออกมาแล้ว แต่ผู้พัฒนาก็บอกว่าอาจต้องใช้เวลาเหลาเกมนี้อีกประมาณสองปี ซึ่งผมคิดว่ามันคุ้มคาต่อการรอแน่นอน
...
เกมนี้วางขายในแบบ Early Access ที่ราคา 200 นิดๆ ตามลิ้งข้างล่างนี้
https://store.steampowered.com/app/1104280/The_Slormancer/
ละก็
ถ้าชอบการรีวิว ฝากกดติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/an0nyme0w
หรือ Steam Curator ที่ https://store.steampowered.com/curator/40261964/ ฮะะะ