โอเคครับ ผมเข้าใจตรรกกะคุณแล้ว และยังยืนยันคำเดิมว่าคุณไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับงานด้านนี้เลย แต่อยากโชว์ภูมิเพื่อมาคุยกับคนอื่นๆในกระทู้นี้เฉยๆ
1. โปรแกรมดีทำได้หลากหลายคือง่าย ง่ายที่ว่านี่คืองานในการลงมือทำเหรอ ? ถ้าหมายถึงอันนั้นก็เรียกว่าใช่ แต่สุดท้ายงานออกแบบหรือกราฟฟิกมันมีองค์ประกอบอื่นๆมากกว่าการใช้แค่โปรแกรมทำงาน ถ้าคุณไม่เข้าใจในส่วนนี้ผมก็เข้าใจคุณนะเพราะการที่คุณพิมพ์อะไรแบบนี้ออกมาแสดงว่าคุณไม่น่าจะเคยลงมาทำงานสายนี้หรอก
2. อุปกรณ์ทำให้ผลิตงานได้เร็วขึ้น ก็เหมือนข้อแรกอ่ะครับ อุปกรณ์ดีขึ้น มันทำให้การทำงานเร็วขึ้นก็จริง แต่ในส่วนของเนื้องานแล้ว มันก็มีอย่างอื่นที่ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมามากกว่าการใช้อุปกรณ์อยู่ดี
3. การแข่งขันสูง ผมไม่รู้ว่ามันเกี่ยวอะไร และทำให้งานง่ายขึ้นตรงไหนนะ ยิ่งการแข่งขันสูง งานแต่ละชิ้นที่จะออกมามันต้องยิ่งแตกต่าง และ ไม่เหมือนใคร คุณคิดว่าการคิดงานแต่ละชิ้นไม่ให้มันซ้ำกับคนอื่น ให้แตกต่างจากคนอื่นแล้วลงมือทำจนสำเร็จมาเป็นงานชิ้นนึงนี่มันง่ายมากมั้ง ?

ผมว่าบางทีคุณอาจจะยังไม่มีความรู้ในเรื่องนี้มากพอ ลองศึกษาหรือลงมือปฎิบัติดูนะครับ เผื่อจะมีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น

ปล. ผมไม่ได้จะอวดว่างานสายนี้มันยาก มันเจ๋งอะไรมากมายนะ แต่ถ้าคิดว่ามีโปรแกรมแล้วทำได้แบบง่ายๆ มันเหมือนการดูถูกวิชาชีพของคนอื่นมากไปนะครับ  

ยกตัวอย่างของเสี่ยวหมี่นะ ศาสตราจารย์ เคนยะ ฮาระ เป็นคนออกแบบ



เห็นแบบเป็นแค่วงกลม+ สี่เหลี่ยมแค่นี้ คงแค่เอาai ลากเอาก็ได้แปบเดี๋ยวเสร็จ

แต่เดี๋ยวก่อน ที่เป็นแค่นี้คือเค้าผ่านการคำนวณมาแล้ว



ตามสูตรนี้ ระดับปรมาจารย์แล้ว เค้าไม่ได้แค่ใช้โปรแกรมเป็นอย่างเดียว

แต่เค้าผ่านการ คิดถึงรูปทรง ความหมายและคิดคำนวณต่างๆมาแล้ว

จะเห็นว่าไม่ง่ายนะครับ ผมว่ามันก็เหมือนการทำงานศิลปะมัน มีไม่ชอบหรือไม่ชอบ

คนชอบก็อาจจะจ้ายแพงได้ แต่คนไม่ชอบก็อาจจะไม่อยากจ่าย  

ตำแหน่งงานที่เรากำลังพูดถึงในกระทู้นี้ คือตำแหน่ง Graphic Design นะครับ
คำว่า "Design" ถ้าแปลเป็นไทยตามพจนานุกรมคือ "ออกแบบ"

แค่แนวคิดที่คุณบอกมา ก็อปงานของศิลปินคนนั้น หาเวคเตอร์ฟรีจากในเน็ต
มันก็สื่อให้เห็นแล้วครับว่าคุณไม่ได้เข้าใจเนื้อแท้ของตำแหน่งงาน Graphic Design เลย  

ผมมองว่าเจ้าตัวน่าจะเข้าใจผิด ซึ่งไม่ว่ากันกันครับ ฮ่าๆๆ

แต่อยากให้ลองทำความเข้าใจแบบลึกๆ Design กับ Copy Design

ความหมายแตกต่างกันสิ้นเชิง ผมยกตัวอย่างง่ายๆ

ระหว่างออกแบบเป็น กับใช้โปรแกรมเป็น เราต้องแยกออกจากกัน

คนที่เป็นนักออกแบบจริงๆ คือต้องคิดและออกมาเป็นงาน Design
 

ผมเข้าใจความรู้สึกนะ แต่อยากให้มองอีกมุมด้วยว่า ตรงจุดที่คุณยืนใน Career Path มันอยู่ตรงจุดไหน ถ้ามันยังอยู่เดิมไม่ได้ขยับไปจากเดิมมากมันก็เหนื่อยครับในการที่จะอยู่รอด ยกตัวอย่างแบบเกมละกัน

สมมุติเราเริ่มทำงานออกแบบเป็นอาชีพแรกหลังจากจบใหม่ก็เปรียบเสมือน class 1 วันเวลาผ่านไป ถึงแม้คุณจะทำงานมานานมีประสบการณ์สูงขนาดไหน แต่ถ้าคุณยังไม่สามารถถีบตัวเองไปอาชีพ class 2 คุณจะต้องเจอ class 1 จบใหม่ในทุก ๆ ปีครับ

และถ้าสมมุติคุณไปหางานในบริษัทที่มูลค่าของการออกแบบมันไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้เขาขายของได้ เขาก็จะยิ่งต้องการแค่นักออกแบบ class 1 เท่านั้น และพอยิ่งเป็น class 1 ก็จะยิ่งจะเจอการจำกัดอายุเพราะมันสะท้อนว่าถ้าอายุมากกว่านี้แล้วยังอยู่ class 1 มันก็อาจจะไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนด้วยเพราะยิ่งอายุเยอะประสบการณ์จะเยอะตามและค่าตัวจะแพงขึ้นตามไปด้วย มันอาจจะไม่ balance กับระดับสกิลที่เขาต้องการ ถึงได้ใช้การจำกัดอายุมาช่วย

ซึ่งเรื่องพวกนี้มันเกิดกับในทุกสายอาชีพครับ ไม่ใช่แค่งานออกแบบ งานสายเทคโนโลยีก็เป็น เช่น IT Support ถ้าเกิดใครที่ทำแต่ IT Support อย่างเดียวมานานแล้วไม่สามารถต่อยอดตัวเองให้ไปไกลกว่า IT Support มากประสบการณ์ได้ วันนึงคุณจะโดนเด็กรุ่นใหม่กลืนกินไม่ต่างกัน

สิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณอยู่รอดคือ คุณต้องพัฒนาและสร้างมูลค่าให้ตัวเองอยู่ตลอดครับ สมมุติงานออกแบบ จากเดิมที่จะทำตำแหน่ง Graphic Designer ก็ลองเรียนรู้เพิ่มเติมแล้วขยับไปเป็น UX/UI Designer มั้ย หรือลองดูอาชีพอื่น ๆ ที่สามารถใช้สกิลออกแบบเป็นส่วนประกอบได้ก็ได้ แบบนี้มูลค่าในตัวคุณถึงจะสูงขึ้นและไม่ถูกผู้เล่นจากอาชีพ class 1 มากลืนกิน

ทุกวันนี้ตลาดกำลังขาดแคลนคนที่ทำได้ตั้งแต่อาชีพ class 2 ขึ้นไปเยอะมากครับ มีการแย่งตัวกันหนักมาก แต่ปัญหาคือ หลายคนไม่สามารถต่อยอดตัวเองและข้ามกำแพงจาก class 1 ให้ทะลุไป class 2 ได้ จึงน่าเสียดายตรงนี้