สำหรับผมใจไม่กว้างพอครับ ไม่โอเคครับ แต่ก็แปลกที่เขาเล่านะครับ

คิดในทางกลับกันในฝั่งผู้ชาย เอาจริงๆเลี่ยงได้ ปฏิเสธได้ก็จะไม่ค้างคืนสองคนเด็ดขาด

ว่าแล้วแอบนึกถึงน้องที่ทำงานเลย
มีครั้งนึงไปทำงานนอกสถานที่ ที่อุทยานแห่งนึง ช่วงหน้าหนาว อุทยานนี้ปิดไม่ให้ขับรถลงตั้งแต่ช่วงค่ำเเล้วครับ
แล้วคืนแรกทาง เจ้าหน้าที่อีกหน่วยมาแจ้งว่าเตรียมที่พักให้หน่วยผม เป็นบ้านพักห้องเดียว และหาเพิ่มให้ไม่ได้จริงๆ เค้าก็ขอโทษที่เข้าใจผิดคิดว่าที่เเจ้งมาคือ ผู้ชายทั้งหมด

งานหยาบเลยครับ ลงเขาก็ไม่ได้เเล้ว สุดท้ายผมเลยให้น้องผู้หญิงที่ไปด้วยกันนอนในห้อง แล้วผมเนียนไปนอนที่ใต้ตึกหลักที่กิจกรรม นอนอยู่ก็มีกวาง มีลิงมา และยึ่งดึก ยิ่งหนาวมาก เสื้อหนาว กางเกางยีน ผ้าใบ เอาไม่อยู่ และพอดึกๆ ที่ทำการเคาก็ปิดไฟหมด น่ากลัวจัด ผมฝืนนอนไม่หลับไปพักใหญ่ๆ พี่อีกหน่วยนึงมาเห็นเลยให้ไปนอนเต้นท์ด้วย ก็ดีขึ้นระดับนึงครับ แต่ไม่มีหมอน ผ้าห่ม ก็ยังหนาวมากๆ

สรุปวันรุ่งขึ้นไม่สบายครับ น้องเค้าก็มาคุย มาดูแล หายา หาน้ำอุ่น เคลิ้มเลยครับผม หลังจากกลับมาน้องเค้าก็มาพูดว่ารู้สึกดีกับผม ตอนแรกเค้ากลัวมากๆ กลัวจะต้องนอนในห้องพักเดียวกัน แต่พอผมบอกว่ายังไงเดี๋ยวผมออกไปนอนข้างนอก ให้เกียรติเค้า เค้ารู้สึกดีมากๆครับ

ตอนหลังมีเพื่อนๆในหน่วยมาถามครับ ผมจีบน้องเค้าหรอ ผมก็บอกเปล่า ผมไม่กล้า และก็เห็นว่าน้องเค้าคุยโทรศัพท์บ่อยๆ น่าจะมีแฟนแล้วนะครับ ก็ดันมีจังหวะที่น้องเค้าดูเปลี่ยนๆไป เช่น พอโทรศัพท์เข้าก็มีบอกว่าที่บ้านโทรมา หรือก็รับสายให้รู้เลย คุยให้ผมรู้อีก ว่ายังไม่เลิกงาน วันนี้ค่ำหน่อยนะ อยู่กับทีมงาน และมีบอกชื่อผมด้วยว่า ถ้าโอดึกมากเดี๋ยว พี่... น่าจะไปส่งนะ คือแบบโอ้ว

ปล. เล่านอกเรื่องไปเยอะเลย
แต่ผมก็คิดแบบนั้นจริงๆแหละครับ ต่อให้สนิทแค่ไหน การไปสองต่อสอง นอนห้องเดียวกันสองคนมันดูไม่ดีครับ