ผมว่าเค้าไม่ใช่ว่าหาไม่ได้นะ

แต่เค้าตั้งใจเอาชื่อของเค้าขึ้นหน้าอกเสื้อมากกว่า

ส่วนช่วงนี้ขึ้นแคมเปญ Thailand Smile.. ผมมองว่าโคตรฉลาดอ่ะ..เพราะการเดินทางระหว่างประเทศช่วงนี้แทบจะเป็น 0

ดังนั้นไม่จำเป็นต้องไปโฆษณา duty free ของตัวเอง ที่คนเห็นก็เข้าไปใช้บริการไม่ได้อยู่ดี..สู้โปรโมตไทยแลนด์แทนดีกว่า

เพราะเมื่อ Thailand มัน well-known ทำให้ต่างชาติรู้จัก และเข้ามา(เมื่อเปิดประเทศ) ตัวเองก็ได้อานิสงค์เต็มๆ

แถมได้ใจคนไทยไปอีก..มีแต่ได้กับได้

ก็ต้องโปรโมทแบรนด์ตัวเองอะถูกแล้ว จริงๆที่ตอนนี้ใช้ th smile with you ก็เชิญคนมาเที่ยวไทย เพราะแบรนด์ตัวเองก็ต้องใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ได้ใจทั้งรัฐบาล ทั้งคนไทยเต็มๆ

เปรียบเทียบเป็นคนมีบ้านหลังใหญ่อยู่แล้ว แต่ดันจะปล่อยให้คนอื่นมาเช่า

แต่ตัวเองดันต้องไปเช่าบ้านคนอื่นอยู่ ซึ่งตัวเองต้องไปจ่ายค่าเช่าแพงกว่า เงินที่จากการการปล่อยเช่าบ้านตัวเอง

คิดดูว่า king power ถ้าจะไปซื้อสปอนเซอร์ทีมอื่นเอาทีมเกรดลุ้นแชมป์ คิดว่าต้องจ่ายเท่าไหร่

ในเมื่อตัวเองเป็นทีมใหญ่พอสมควร มีโอกาสลุ้นแชมป์ด้วย ทำไมไม่เอามาพัฒนาเองล่ะ

นักบริหารที่คิดเป็นเขามองลึกกว่านั้นเยอะ

ถามว่าทีมจากเจ้าของคนไทยทีมนึง แฟนบอลส่วนใหญ่มาจากไหน

1.คนเมืองเลสเตอร์ 2.คนไทย

คนที่จะมาซื้อสปอนเซอร์สินค้าต่างชาติคิดว่าเขาจะควักเงินจ่ายค่าสปอนเซอร์ให้มากแค่ไหนเชียว

กลับกัน ถ้าเจ้าของเลสเตอร์ เอาแบรนด์มาสร้างมูลค่าขายคนเลสเตอร์ กับ คนไทย
คือ คุณมีฐานลูกค้าในมืออยู่แล้วไง

ถ้าเอาการเมืองเข้ามาจับ บุรีรัมย์ - เนวิน / สุพรรณบุรี - บรรหาญ
เจ้าของเลสเตอร์ก็สามารถเป็นอย่างนั้นกับ ชาวเมืองเลสเตอร์ ได้ไม่มากก็น้อยล่ะ

เพราะมีปัญหาเรื่องเลี่ยงภาษีมั้ง เลยหลีกเลี่ยงเอาคำว่า king power ขึ้นหน้าอก แล้วไปอิงกับคำว่า thailand แทนเพื่อลดความตึงเครียด

มันคือการดึงลูกค้าแบบนึงละ

King power เน้นขายสินค้าที่ airport ที่ประเทศไทย

โปรโมท THAILAND คนมาเที่ยวไทยเยอะ ของใน kingpower ก้ขายได้เยอะด้วย

ผมมองว่าเรื่องเงินนี่เจ้าของไม่ได้มีปัญหาไม่พอใช้เลยครับ อีกทั้งการซื้อขายนักเตะก็ฉลาด สามารถปั้นตัวละครลับแล้วไปขายทำกำไรได้มหาศาลตลอดแถมหาตัวแทนดีๆได้ทันที ตัวอย่างเช่น กองหลังสถิติโลกแม็กกวาย กองเต้(ประมาณ32ล้านปอนด์ อันนี้เชลซีคุ้ม) ดริงค์วอเตอร์(ประมาณ34ล้านปอนด์ ย้อมแมวชัดๆ)

กลับกันการโปรโมทธุรกิจของตัวเอง "King Power" ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นท็อปทีม จนคว้าแชมป์ลีคเป็นข่าวไปทั่วโลกและตอนนี้คงเรียกได้ว่าเลสเตอร์เป็นทีมระดับท็อปเทียร์ในพรีเมียร์ลีคได้เต็มปากแล้ว ผมว่าส่งผลดีต่อตัวธุรกิจตัวเองมากกว่าอีก กลายเป็นรู้จักไปทั่วโลกแล้วกับแบรนด์ King Power duty free มาไทยแลนด์ก็มาแวะซื้อของไอได้ ส่วนคนไทยทั่วไปก็ภูมิใจได้ว่าคนไทยก็ไปสร้างอะไรระดับโลกเหมือนกันนะ ได้ใจทั้งไทยทั้งชาติ

ส่วนโครงการ Thailand Smile with You ผมเห็นข่าวตอนเปิดตัวว่าเป็นโครงการที่ต้องการช่วยเหลือประเทศไทยครับ อุตสาหกรรมหลักคือการท่องเที่ยว แต่เจ๊งยับเพราะโควิด แต่พอมีคาดอกไปทั่วโลกให้คนดูบอลเห็นอย่างน้อยก็น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง แล้วก็โครงการนี้มีให้สั่งซื้อเสื้อเพื่อนำเงินไปบริจาคทั้งหมดให้พัฒนาวัคซีนของโรงพยาบาลรามาฯด้วย เป็น CSR ไปในตัว

แต่แน่นอนว่านักธุรกิจก็ไม่ได้ใจดีขนาดที่ว่าเค้าจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย จากการอ่านข่าว โครงการ Thailand Smile with you นายกฯมาเปิดงานให้เองด้วย (ได้กระชับ connection ระดับประเทศ) แถมงาน CSR ก็ได้ภาพลักษณ์ที่ดี เวลามีคนโจมตีว่าธุรกิจ duty free ผูกขาดสัมปทาน หรืออะไรต่างๆก็จะได้ไปบอกคนอื่นได้ว่าชั้นทำเพื่อสังคมนะ ช่วยธุรกิจท่องเที่ยวนะ ถ้าสมมติว่าโควิดหมดแล้ว คนเริ่มกลับมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น ธุรกิจ duty free ก็ได้อานิสงค์ขายดีไปด้วยเพราะขายในสนามบินนี่ แล้วก็คนที่อังกฤษผมว่าเค้าชอบคนที่ทำพวกการกุศลนะ popularity ของคุณท็อปนี่ผมจำได้ว่ามีข่าวใน SS นี่หละบอกว่าแฟนบอลในอังกฤษโหวตให้เป็นอันดับหนึ่งที่แฟนบอลรักมาก ดูแลทีมดี