มือใหม่กำลังหัดดริปกาแฟกินเองครับ มีคำถามหลายข้อ

1. ในขั้นตอนการดริปอะไรคือปัจจัยหลักที่ต้องควบคุม และมีผลต่อรสชาดกาแฟ

2. ระหว่างบดกาแฟใช้มือหมุนกับบดกาแฟไฟฟ้า ให้รสชาดต่างกันหรือไม่

3. บดกาแฟมือหมุนตัวแพงๆดีกว่าตัวถูก ยังไง

4. ดริปเปอร์แต่ละแบบ (สแตนเลส พลาสติก เซรามิคหรืออื่นๆ) ส่งผลกับรสชาดกาแฟไหม

5. แนะนำเมล็ดกาแฟที่ชอบ และรีวิวรสชาดหน่อยครับ

สำหรับผม ดริฟให้ดูเท่ๆ แล้วถ่ายรูปลงโซเชี่ยล เฉยๆ ครับ

1.อุณหภูมิน้ำ อุณหภูมิแก้ว(เหยือก) เพราะถ้าเอามาแบบอุณหภูมิห้อง พอดริปลงไปแล้วกาแฟจะเย้นลงนิดนึง ส่งผลต่อรสกาแฟครับ

ความหยาบ ละเอียดของกาแฟเช่นกัน

ตอนดริปใหม่ๆ ผมลองทำหมดเลย บดละเอียด บดหยาบมาก

กาแฟที่ได้ เข้ม อ่อนไม่เท่ากัน ต้องลองหาจุดที่เหมาะกับเราดู

เพราะบางครั้ง อยากได้กาแฟเข้มๆ บางทีผมก็บดแบบละเอียดเอา

อีกอย่างคือจังหวะการเทน้ำ

ตอนที่เริ่มใหม่ๆ ก็สงสัยว่ามันเกี่ยวยังไง ลองหมดเลย

ทั้งเทพรวดเดียว เทแล้วเอาช้อนไปคนๆกาแฟที่บด แล้วก็เทต่อ (ออกมาฝาดๆขมๆแปลกๆ)

หรือเทตามที่ในยูทูปบอก

แล้วหาที่จังหวะ กับรสที่ชอบครับ

หลังจากดริปร้อน แล้วก็ไปต่อที่ดริปเย็นโลด

เคยไปกินร้านนึง เป็นกาแฟcold brew ใช้น้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า

ผมก็ลองทำ แล้วก่อนกินเอาใส่น้ำแข็ง เทโซดาไปหน่อย ก็แปลกๆดีเหมือนกัน

====

2. ไม่เคยใช้ตัวบดไฟฟ้าครับ ขอผ่าน

3. ผมใช้บดมือ ตัวสี่พันกว่าของเยอรมัน ตอนซื้อตอนนั้น(สัก 10 ปีก่อน) พนักงานบอกว่า ต่างกันที่เฟือง ถ้าเป็นตัวถูกๆ เจอกับความมัน เหนียวของเมล็ดกาแฟ จะเสี่อมง่าย อันนี้ไม่รู้ยังไง แต่ตัวที่ใช้ มาสิบปี ยังใช้ได้ดีอยู่

4. ดริปเปอร์ ผมใช้แบบเซท kalita แบบที่เป็นใสๆนะ ไม่เคยใช้แบบอื่น

ที่นี่ขอเพิ่มเติมเรื่องกา

ลองหาดูในหลายๆร้านครับ ตอนแรกเจอร้านนึง พันกว่าบาท

แต่พอหาไปหามา ยี่ห้อเดียวกัน เจออีกร้านนึง 7-800 ก็มี

====

5, เมล็ดกาแฟ ส่วนใหญ่ผมทาน เอธิโอเปีย ยีกาเชฟ จะกลิ่นหอมอ่อนๆ

แต่ถ้าให้เข้มมาหน่อย ก็จะไปฝั่งพวก บราซิล โคลอมเบีย เลย

แต่พันธุ์ในไทย หลายๆตัวที่เคยลองก็ดีเหมือนกันนะครับ

1. ในขั้นตอนการดริปอะไรคือปัจจัยหลักที่ต้องควบคุม และมีผลต่อรสชาดกาแฟ
อุณหภูมิครับ

2. ระหว่างบดกาแฟใช้มือหมุนกับบดกาแฟไฟฟ้า ให้รสชาดต่างกันหรือไม่
แล้วแต่สะดวกครับ แต่เรื่องเมล็ดมีหลายปัจจัย ความชื้นของเมล็ด ส่งผลกับความละเอียดในการบด ความละเอียดในการบดส่งผลต่อระยะเวลาในการริน เวลาในการรินส่งผลต่ออุณหภูมิ อุณหภูมิส่งผลต่อรส ฯลฯ

3. บดกาแฟมือหมุนตัวแพงๆดีกว่าตัวถูก ยังไง
น่าจะเรื่องของวัสดุ ความทน และความละเอียดในการบดครับ

4. ดริปเปอร์แต่ละแบบ (สแตนเลส พลาสติก เซรามิคหรืออื่นๆ) ส่งผลกับรสชาดกาแฟไหม
ส่งผลกับการคุมอุณหภูมิ และส่งผลต่อรสชาดครับ

5. แนะนำเมล็ดกาแฟที่ชอบ และรีวิวรสชาดหน่อยครับ
แล้วแต่ชอบครับ

ปล.มือใหม่เหมือนกันครับ

ตอบแบบความรู้ snakeๆfishๆนะครับ

1.หลักๆคือความหยาบ-ละเอียดของกาแฟ อุณหภูมิของน้ำ แร่ธาตุในน้ำ และอีกมากมาย

2.ว่ากันว่าแบบมือบดแบบราคาแพงๆให้ความละเอียดที่เท่ากันมากกว่าส่งผลให้รสชาดต่างกันครับ(ส่วนตัวใช้แบบไฟฟ้าอันละพันกว่าบาทจากลาซาด้า)

3.บดมือแพงๆรู้สึกจะเป็นเฟืองสแตนเลส ซึ่งจะคมกว่า แข็งแรงกว่าเซรามิค(ถ้าเป็นเซรามิคบดพวกคั่วอ่อนนานๆไปเห็นว่าเฟืองจะแตกได้ครับ) ไม่เป็นสนิม ที่ดังๆหน่อยน่าจะเป็นพวก kinu diamante มั้ง

4. น่าจะเป็นเรื่อ่งการรักษาอุณหภูมิของน้ำนะครับซึ่งอุณหภูมิก็ส่งผลต่อรสชาดกาแฟ

5.ปกติผมสั่ง gem forest ครับ เมล็ดกาแฟไทย ราคาพอไหว

1. ส่วนตัวเท่าที่ทดลองคือระดับการบดกับอุณหภูมิน้ำครับมีนัยยะสำหรับผม การแบ่งเทน้ำรองลงมาครับ

2. ขอผ่านครับ ไม่มีที่บดไฟฟ้า แต่น่าจะสะดวกสบายกว่า

3. ระดับการบดที่สม่ำเสมอและเฟืองเหล็กบดคั่วอ่อนง่ายกว่าเซรามิคเยอะครับ

4. อันนี้ขอผ่านครับมีแต่ดริปเปอร์เซรามิค

5. ส่วนตัวผมชอบ gem forrest ครับ แต่เน้นตัวที่เค้า limited นะเช่น gesha, java, เกษตรชื่อดัง ถ้าตัวทั่วไปเหมือนกาแฟไทยธรรมดาทั่วไป แล้วก็ rumraisin ของ summer coffee ครับ ผมซื้อของกาแฟคุณพ่อมา ถูกกว่าแต่กลิ่นกับรสชาติสู้ไม่ได้
ตอนนี้กำลังลองสั่งโรงคั่วกาแฟปรีดา ถ้าดีจะบอกครับ 55

1.ผมก้อไม่โปรมากนะครับ เท่าที่สังเกตความละเอียดในการบดมีผลมากที่สุดครับ ละเอียดมากก้อยิ่งขม ใช้เวลานานขึ้น ต้องกะพอดีๆที่เราชอบ
2.แบยไฟฟ้าไม่เคยใช้อะคับ ไม่มีตัง555
3.เคยใช่อันละสองร้อย เฟืองเซรามิค เทียบกะตัวใหม่เฟืองสแตนเลส อันละพันหก
ความต่างชัดเลยครับ สแตนเลสเกล็ดกาแฟที่บดจะเสมอกันมากกว่าเซรามิค ทำให้รสชาติกาแฟแต่ละแก้วคงที่อะคับ
เคยอ่านมาว่า หลักการของเซรามิคคือการขบให้เมล็ดแตกตัว ผิดกับสแตนเลสที่ใช้การตัดเมล็ดเปนชิ้นๆเลย เกล็ดกาแฟเลยเสมอกว่า
4.อันนี้ไม่ทราบจิงๆครับ ใช้แต่ v60 พลาสติค
5.แนะนำcosta rica musician series ครับ ซี่รี่ย์นี้จะมีสี่ตัว bach mozart beethoven chopin
กลิ่นจะออกหอมหวานแบบผลไม้สุก ผสมไวน์นิดๆ คล้ายกัน แต่จะมีความต่างอยู่ ส่วนตัวชอบโมซาร์ทสุดครับ

1.ขั้นตอนที่ผมทำประจำคือลวกกระดาษดริปก่อนให้ความร้อนมันใกล้เคียงกัน อย่าลืมวอมกาแฟด้วยให้แก๊สมันออก
2.ไม่ต่างผมใช้ทั้งสองแบบแต่บดละเอียดกับหยาบต่างกันครับ ถ้าจะดริปจะไม่ให้มันละเอียดครับประมาณเม็ดทราย
3.มันปรับความละเอียดได้
4.ผมว่าไม่ต่างเท่าไหร่แต่ที่ต่างแน่ๆคือแบบสแตนเลส แล้วมีตัวกรองด้วยเวลาใช้ไปนานๆเศษกาแฟมันจะไปอุดครับทำให้น้ำไหลยาก
5.ผมใช้บราซิลคั่วกลางครับในลาซาด้าเลย

ขอตอบตรง อุปกรณ์ดริปนะครับ
ผมใช้ gabi master a ในการดริป
ใช้ง่ายมากกก เหมาะกับมือใหม่ และรสชาติที่
ดริปออกมาจะเหมือนกันหมดทุกครั้งทุกแก้วครับ

ต้องบอกก่อนว่ารสนิยม/ประสบการณ์การกินกาแฟของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สูตรผมๆชอบท่านอาจจะไม่ชอบ เพราะฉนั้นท่านต้องรู้กฏพื้นฐานของกาแฟดริปแล้วท่านจะปรับอะไรๆง่ายมาก

ผมตอบข้อ 1, 4 กับข้อ 5 ด้วยกันเลย
จากประสบการณ์เลยนะครับ สิ่งที่ส่งผลต่อรสชาติกาแฟมากที่สุดคือเมล็ดกาแฟ ต่อให้ท่านดริปเก่งแค่ไหนก็ตามถ้าเมล็ดกาแฟท่านมันห่วยชงออกมายังไงก็ห่วยเพราะฉนั้นต้องหาร้านที่ถูกลิ้นเรามากที่สุด ร้านดังๆก็ตามยูสบนๆเลย Gem Forest แต่อันนี้ผมขออวยร้านที่ผมไปกินบ่อยๆจนได้ซื้อเมล็ดกลับมาชงเองก็คือร้าน Nameless ที่ระยอง เจ้าของร้านเพิ่งได้แชมป์ในรายการ 1st Vulcan Roasting Smackdown หาข้อมูลในกูเกิ้ลได้ เมล็ดสุดจริงร้านนี้ กลิ่นโครตหอม ดริปยังไงก็ไม่มีขม คั่วได้สุดจริง

ถ้าจะให้พูดเรื่องปัจจัยในการดริป ส่วนตัวผมให้การไหลของน้ำ (Flow Rate) สำคัญที่สุด แต่ละดริปเปอร์มีอัตราไหลของน้ำไม่เท่ากัน ตระกูลดริปเปอร์ทรงโคน(V60/Origami/ฯลฯ)นี่จะไหลเร็วกว่าพวก Flat bottom เช่น Kalita Wave เพราะฉนั้นเราต้องปรับขนาดเมล็ดกาแฟให้ละเอียดหน่อย และในทำนองเดียวกันถ้าใช้ Kalita Wave ก็ต้องปรับขนาดบดให้หยาบขึ้น(หยาบแค่ไหนท่านไปลองเอาเอง)

ทำไมถึงต้องปรับให้มันละเอียดหรือหยาบ?
การที่ดริปเปอร์ของเรามีอัตราการไหลของน้ำช้า/เร็วนั้นมันส่งผลต่อการสกัดด้วย ถ้าไหลช้าแสดงว่าเมล็ดกาแฟ+น้ำจะอยู่ด้วยกันนานกว่าแบบโคน ถ้าเราใช้ความหยาบระดับเดียวกับโคนล่ะก็มันจะส่งผลให้เกิดการสกัดเกิน (Over-extraction) รสชาติที่ได้มานี่ขมแน่นอน

อันนี้ส่วนตัวเลยนะ ผมไม่ค่อยเน้นเรื่องอุณหภูมิเท่าไหร่ ผมใช้ที่ 93C ทุกครั้งที่ดริปเพราะผมไปเน้นที่อัตราไหลของน้ำแทน

ข้อ 2. 3.
เครื่องบดสำหรับดริปผมว่าไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ ใช้ตัวบดเกรดกลางๆอย่าง Timemore C2 ก็ได้ตอนนี้ราคาลดลงมาเหลือพันกลางๆ ก็เพียงพอแล้วครับ แต่ถ้าจะซื้อเผื่อทำเอสเพรสโซ่ด้วยคงต้องไปตัวแพงๆเช่น 1Zpresso k-plus ที่พี่นพ Bico มีขาย

Costa rica musician series หาซื้อที่ไหนเหรอครับ พอมีแนะนำบ้างไหม

ตอบเฉพาะบดไฟฟ้า เรื่องอื่นคนตอบเยอะละ

บดไฟฟ้ามันจะร้อนทําให้นํ้ามันจากเมล็ดกาแฟออกมา
บดมือไม่เป็นเว้นแต่จะบดได้เร็วเท่ามอเตอร์ 5555
ของแพงก้ลดเรื่องนี้+ ความเท่ากันของผงกาแฟ
แล้วมีความต่างของตัวบดอีก จําไม่ได้ละเรียกไรบ้าง
ของแพงจะเป็นอีกแบบ แต่ได้ความเท่า+ร้อนน้อยกว่า

สรุปผมบดไฟฟ้าเพราะเมื่อยมือ
อุณภูมิไร ไม่คุมเพราะขี้เกียจ

อื้อหืออ ข้อมูลแน่นอ่านเพลินมาก
ขอบคุณมากครับ

1. น้ำ(tds) ,อุณหภูมิ ,เบอร์บดกาแฟ,การเทน้ำหรือการวนน้ำ
2. อยู่ที่เฟืองบดครับว่าตัวไหนสามารถบดได้ความละเอียดเสมอกันสุด ถ้าดริปทานเองใช้บดมือหมุนก็ได้ครับ
3. อยู่ที่เฟืองบดครับ
4. แสตนเลสมันดูดความร้อนครับ แนะนำเซรามิกเพราะมันกักเก็บความร้อนดีสุดครับเมื่อเก็บความร้อนดีทำให้อุณหภูมิน้ำไม่เปลี่ยนเวลาดริปเลนสกัดได้คงที่ครับ ส่วนพลาสติกพกง่ายไม่ต้องระวัง
5.เอาแบบจับรสชาตง่ายๆ ก็เอธิโอเปียครับคั่วอ่อนยังไงก็ออกฟรุตตี้ ถ้าชอบแนวชอคโกแลตก็โคลอมเบียครับ

1. เมล็ดกาแฟ (ความสด แหล่ง), อุณหภมิของน้ำและอุปกรณ์, ขนาดเกรนของกาแฟ, แร่ธาตุในน้ำ(อันนี้ผมไม่ค่อยเน้น)
2. ถ้าเกรนเท่ากัน ผมว่าไม่ใช่ปัญหาครับ แต่ตามทฤษฎี ถ้าเฟืองหรือตอนบดร้อน จะมีผลต่อรสชาติ
3. ตัวแพง เข้าใจว่า ตอนบด เฟืองคมจะเฉือนได้ดีกว่า ได้ขนาดเกรนที่ใกล้เคียงกัน ถ้าเฟืองไม่คมจะเหมือนการบด ทำให้เกรนไม่เท่ากัน ถ้ากินคนเดียว ไม่ซีเรียสครับ
4. ดริปเปอร์ มีผลต่ออุณหภูมิของอุปกรณ์ แต่ผมว่าไม่ซีเรียสนะ เพราะถ้าก่อนดริปเราวอร์มอุณหภฺมิของอุปกรณ์ก่อน ก็ไม่น่ามีผลต่อรสชาติมาก แต่มีผลต่อจิตใจ
5. ผมกิน Gem forrest ที่น่านครับ คือผมอยู่ใกล้ เน้นกาแฟคั่้วใหม่ๆ

* คอนเซ็ปคือ อุณหภูมิให้เปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด เพื่อให้รสชาตินิ่ง เพราะรสชาติกาแฟจะเปลี่ยนตามอุณภูมิ และถ้าเป็นมือใหม่อย่าพึงลงทุนเยอะครับ ลองไปกอ่นซักพัก ถ้ายังชอบดริป ค่อยขยับเพิ่มครับ