[RE: ความรู้สึกเกลียดแฟนเก่า มีวิธีดับลงมั้ยครับ]
peemawach พิมพ์ว่า:
เวลาเราทุกข์เรื่องแฟนเก่าเนี่ย เราไม่ได้ทุกข์เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่เขาเคยทำกับเราหรอกนะครับ
มันทุกข์เพราะจิตของเรามันพยายามโทษทุกอย่าง โทษเขาที่ทำไมทำแบบนี้ เรารักแทบตาย ทำไมทิ้งกัน ทำไมหักหลังกัน
ถ้าท่านนึกภาพ ลองนั่งสมาธิแล้วเปลี่ยนไปดูอารมณ์แทน ว่าอารมณ์ที่ท่านเป็นอยู่ มันคืออะไรบ้าง มันไม่ได้มีแค่เกลียดหรอกครับ (เผลอๆอาจเป็นความรู้สึกอื่นที่ไม่ใช่ความเกลียดหรอกครับ)
อย่างน้อยค้นหาให้เจอจริงๆก่อน ว่ามันเป็นความรู้สึกอะไรบ้าง จิตมันพร่ำบ่นตลอดเวลาว่าอะไรบ้าง สิ่งที่อยู่ลึกๆที่จิตพยายามจะบอกเราคืออะไร เปิดใจหาความรู้สึกตัวเองบ้าง ท่านจะได้คำตอบตรงนั้นมา เราถึงจะแก้ปัญหาต่อได้
บางทีเราไม่ได้อยากกำหินหรอก แต่จิตมันออโต้กำของมันเอง เจ็บของมันเอง สติเราพยายามคลายแทบตาย จิตมันก็พยายามกำไว้อย่างนั้น ทรมานชิบ
มันไม่มีวิธีมูฟออนจริงๆนอกจากการให้อภัยครับ ถ้าใจมีความโทษอีกฝ่ายอยู่มันก็ให้อภัยไม่ได้ ปล่อยวางไม่ได้
ต่อไปนี้ถ้าท่านไม่พร้อม อาจจะกระทบจิตใจและอารมณ์อยู่พอสมควรนะครับ แต่ถ้าท่านพร้อมผมมั่นใจว่ามันเป็นวิธีที่ทำให้หลุดได้จริงๆ เบื้องต้นเราจะโทษเข้าน้อยลง เกลียดเขาน้อยลง
เหตุการณ์ทุกอย่างมีเหตุมีปัจจัยใช่ไหมครับ ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้นเหตุไม่ได้เกิดขึ้นมาจากเขาฝ่ายเดียว มันเกิดขึ้นจากฝั่งของเราด้วยแน่นอนอยู่แล้วครับ
ท่านคบกับเขามานานมากๆ ลองคิดดูถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ท่านผ่านอะไรมาบ้าง เหตุการณ์ที่ดี เหตุการณ์ที่ร้าย เหตุการณ์ปกติ ลองพิจารณาถึงฝั่งของท่านเป็นหลัก
อะไรบ้างล่ะที่เราทำตกหายไปในความสัมพันธ์ ความใส่ใจเรื่องไหนบ้างที่เขาอยากได้แต่เราไม่ได้ให้ไป ความรู้สึกอะไรในความสัมพันธ์ที่เราควรรับผิดชอบแต่เราผลักไปให้เขา อะไรบ้างที่เขาคาดหวังให้เราเป็นแต่เราต่อต้านและไม่ยอมเป็นตามที่เขาคาดหวัง
นี่ยังไม่รวมถึง เรื่องไหนบ้างที่เราควรยืนเป็นต้นเหตุของเรื่องนั้นแต่เรากลับโทษอีกฝ่าย เรื่องไหนบ้างที่เราควรค่อยๆพูดจาแต่เรากลับใช้อารมณ์กับเขา เรื่องไหนบ้างที่เราควรพัฒนามันแต่เรากลับทิ้งสิ่งที่ควรเหล่านั้นไปด้วยข้ออ้างต่างๆนานา เรื่องอะไรที่เราควรฟังอีกฝ่ายพูดบ้างแต่เรากลับข่มกลับใช้อำนาจทางความสัมพันธ์เพื่อให้เราเป็นคนถูก ให้เขาผิด ให้เขาทำตามเรา
ท่านลองนึกออกมาให้หมด ลองบอกให้ไม่โทษ ลองบอกจิตให้เปิดใจ ค้นหาเรื่องเหล่านั้นในอดีตออกมา ทุกอย่างนั้นล้วนกระตุ้นให้อีกฝ่ายยอมแพ้ในความสัมพันธ์ และบางครั้งสามารถกระตุ้นให้อีกฝ่ายทำไม่ดีได้ครับ
(คล้ายๆกับผู้ชายข่มขืนผู้หญิงที่แต่งตัวโป๊ ผู้ชายทำผิด ผู้หญิงไม่ผิดเราโทษผู้หญิงไม่ได้ แต่ถ้าผู้หญิงไม่อยากเสี่ยงโดนข่มขืนก็ไม่ควรแต่งตัวโป๊เพราะมันเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นที่ผู้ชายมาข่มขืนได้)
ลองยืนเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์นั้นๆดูบ้าง หรือที่ภาษาพุทธเขาเรียก พิจารณาตัวเองนั่นล่ะครับ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง เหตุการณ์ที่เขาทำผิดก็ไม่ได้มีแค่เขาเป็นต้นเหตุเพียงอย่างเดียว แต่กลับมีเราเป็นแรงกระตุ้นให้เขาด้วย
ถ้าท่านเปิดใจแล้วทำสิ่งที่ผมบอก นอกจากท่านจะเริ่มเกลียดเขาน้อยลงแล้ว ท่านอาจเจอจุดบอดบางอย่างที่ท่านไม่เคยเจอมาก่อน หากท่านเจอมัน ท่านจะสามารถอุดรูรั่ว ทำให้ปัญหาเหล่านั้นไม่เกิดกับแฟนคนใหม่ด้วยครับ
ปล หากท่านค้นหาจนเจอความรู้สึกที่แท้จริง ท่านอาจพบว่าความเจ็บปวดจากวันนั้นยังอยู่เกือบ 100% ไม่ใช่เพราะท่านยังรักเขาเท่าเดิม แต่เป็นเพราะว่าความเจ็บปวดนี้ไม่เคยถูกจัดการออกไปอย่างถูกวิธีเลย ที่ผ่านมามันถูกกดไว้เท่านั้น จงยอมรับว่าเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นไปแล้ว จบไปแล้วในอดีต เราเอาเขากลับมาไม่ได้แล้ว บอกกับจิตเราเสมือนเขาเป็นอีกคนในร่างกายของเราครับ แล้วจิตจะค่อยๆน้อมตามสิ่งที่เราบอกครับ
ขอบคุณครับ อ่านทุกคำ ทุกพยางค์เลยครับ จะเอาไปปรับใช้นะครับ